คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ตั๋วสัญญาใช้เงิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 203 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2093/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความของสิทธิเรียกร้องตามหนังสือรับรองการมอบตั๋วสัญญาใช้เงิน สัญญาอีกฉบับหนึ่งต่างหากจากตั๋ว
โจทก์ฟ้องบังคับเรียกเงินตามหนังสือรับรองการมอบตั๋วสัญญาใช้เงิน แม้ตั๋วสัญญาใช้เงินจะขาดอายุความฟ้องร้อง แต่สิทธิเรียกร้องตามหนังสือรับรองการมอบตั๋วสัญญาใช้เงิน เป็นสัญญาอีกฉบับหนึ่งต่างหากจากตั๋วสัญญาใช้เงิน เมื่อเอกสารดังกล่าวมีข้อความว่าหากจำเลยที่ 1 ไม่จ่ายเงินตามมูลค่าแห่งตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับนี้ก็ดี หรือจ่ายเงินล่าช้ากว่ากำหนดที่ระบุไว้ในตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับนี้ก็ดี หรือเพราะเหตุแห่งตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับนี้สูญหายไปก็ดี จำเลยที่ 1 ยอมชดใช้เงินตามมูลค่าแห่งตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับนี้พร้อมด้วยค่าดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ โดยจำเลยที่ 2 ยอมเข้าค้ำประกันหนี้รายหนี้ ดังนั้นจำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิด ตามหนังสือรับรองการมอบตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งข้อสัญญาดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2093/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความสัญญาชดใช้หนี้ตามหนังสือรับรองตั๋วสัญญาใช้เงิน แม้ตั๋วหมดอายุความแล้ว
โจทก์ฟ้องบังคับเรียกเงินตามหนังสือรับรองการมอบตั๋วสัญญาใช้เงิน แม้ตั๋วสัญญาใช้เงินจะขาดอายุความฟ้อง ร้อง แต่สิทธิเรียกร้องตามหนังสือรับรองการมอบ ตั๋วสัญญาใช้เงิน เป็นสัญญาอีกฉบับหนึ่งต่างหากจาก ตั๋วสัญญาใช้เงิน เมื่อเอกสารดังกล่าวมีข้อความว่าหาก จำเลยที่ 1 ไม่จ่ายเงินตามมูลค่าแห่งตั๋วสัญญาใช้เงิน ฉบับนี้ก็ดี หรือจ่ายเงินล่าช้ากว่ากำหนดที่ระบุไว้ ในตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับนี้ก็ดี หรือเพราะเหตุแห่ง ตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับนี้สูญหายไปก็ดี จำเลยที่ 1 ยอมชดใช้เงินตามมูลค่าแห่งตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับนี้พร้อมด้วย ค่าดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ โดยจำเลยที่ 2 ยอมเข้า ค้ำประกันหนี้รายหนี้ ดังนั้นจำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิด ตามหนังสือรับรองการมอบตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งข้อสัญญา ดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักกลบลบหนี้ระหว่างโจทก์และจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341 แม้ไม่มีการมอบตั๋วสัญญาใช้เงิน
โจทก์และจำเลยต่างมีความผูกพันในอันที่จะต้องชำระหนี้ให้แก่กันและกัน เมื่อหนี้ของทั้งสองฝ่ายต่างถึงกำหนดแล้ว ย่อมจะหักกลบลบกันได้ โดยจำเลยไม่ต้องฟ้องโจทก์เป็นคดีใหม่หรือฟ้องแย้ง เพราะโจทก์มีความผูกพันจะต้องชำระหนี้ให้แก่จำเลยตามสัญญาค้ำประกันส่วนจำเลยก็มีความผูกพันจะต้องชำระเงินให้แก่โจทก์ตามตั๋วสัญญาใช้เงินทั้งการที่มิได้มีการมอบตั๋วสัญญาใช้เงินตามสัญญาค้ำประกัน ก็มิใช่เป็นเครื่องแสดงเจตนาของคู่กรณีว่า จะมิให้นำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341 มาใช้บังคับจำเลยจึงมีสิทธิที่จะหักกลบลบกันได้ตามจำนวนที่ตรงกันในมูลหนี้ ตั้งแต่เวลาที่หนี้ทั้งสองฝ่ายอาจหักกลบลบกันได้เป็นครั้งแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 141/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตั๋วสัญญาใช้เงิน: ชื่อผู้ถือ/ออกตั๋วไม่ตรงกับลายมือชื่อ, สัญญาค้ำประกัน, การนำสืบ
ตั๋วสัญญาใช้เงินระบุชื่อ ศ. เป็นผู้ออกตั๋ว แต่ลายมือชื่อผู้ออกตั๋วเป็น ส. เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ศ. และ ส. เป็นบุคคลคนเดียวกันตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวไม่เป็นโมฆะ ทั้งไม่ขัดกับ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 983เพราะไม่มีกฎหมายบังคับ ว่าจะต้องระบุชื่อผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินคงบังคับเพียงว่าต้อง มีลายมือชื่อผู้ออกตั๋วเท่านั้น
จำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้ว่า ทำสัญญาค้ำประกัน ส. เท่านั้นไม่ได้ค้ำประกัน ศ. คำให้การดังกล่าวจึงไม่มีประเด็นเรื่องสัญญาค้ำประกันเป็นเอกสารปลอม ดังนั้นที่จำเลยที่ 2 นำสืบว่าสัญญาค้ำประกันเป็นเอกสารปลอม จึงเป็นการนำสืบนอกประเด็น และมิใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยเช็คและการผิดนัดชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ผลของการทำเช็คหายต่อการระงับหนี้
บทบัญญัติมาตรา 321 วรรคท้ายมิได้จำกัดว่า ต้องเป็นกรณีผู้ทรงได้นำตั๋วเงินไปยื่นเพื่อให้ใช้เงินแล้ว แต่ผู้จ่ายปฏิเสธการจ่ายเงินหนี้เดิมจึงจะไม่ระงับ แม้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เป็นผู้ทำเช็คที่จำเลยโอนชำระหนี้หายไป จึงมิได้นำเช็คไปยื่นเพื่อให้ใช้เงิน และไม่มีการใช้เงินตามเช็คนั้นก็อยู่ในบังคับของมาตรานี้ อันมีผลว่าหนี้เดิมยังไม่ระงับไปเช่นเดียวกัน การที่โจทก์เพิ่งแจ้งเหตุขัดข้องในการเรียกเก็บเงินตามเช็คดังกล่าวให้จำเลยทราบ จำเลยจะได้รับความเสียหายอย่างไรหรือไม่ ย่อมเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหากจากมูลหนี้เดิม เมื่อมูลหนี้ดังกล่าวยังมีอยู่ไม่ระงับไป จำเลยย่อมมีหน้าที่ต้องชำระหนี้นั้นให้แก่โจทก์
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินที่จำเลยเป็นผู้ออกข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยมอบเช็คซึ่งมี อ. เป็นผู้สั่งจ่ายให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินในวันเดียวกันกับที่จำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงิน เช็คนั้นถึงกำหนดใช้เงินก่อนตั๋วสัญญาใช้เงินถึงกำหนดใช้เงิน อ. มีฐานะการเงินเป็นที่เชื่อถือในวงการค้า เชื่อได้ว่าหากโจทก์นำเช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินโจทก์ก็จะได้รับชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น แต่โจทก์หาได้กระทำไม่ พฤติการณ์ดังกล่าวโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้จึงตกเป็นผู้ผิดนัด ซึ่งตามมาตรา 221 มิให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างนั้น จำเลยจึงไม่ต้องชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์นับแต่วันที่ตั๋วสัญญาใช้เงินถึงกำหนดใช้เงิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2860/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดอกเบี้ยจากตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นส่วนหนึ่งของราคาสินค้า ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีการค้า
การที่โจทก์ตกลงทำสัญญาขายสินค้าให้แก่ลูกค้าเป็นราคาเงินสด แต่กำหนดให้ลูกค้าชำระราคาด้วยตั๋วสัญญาใช้เงินที่ยังไม่ถึงกำหนดก็ได้ ในกรณีที่ชำระราคาด้วยตั๋วสัญญาใช้เงิน ลูกค้าจะต้องชำระดอกเบี้ยสำหรับราคาสินค้านั้นให้แก่โจทก์ในอัตราร้อยละ 12 ต่อปี ให้แก่โจทก์ด้วยนั้น การที่โจทก์คิดดอกเบี้ยจากลูกค้าอีกจำนวนหนึ่งเพิ่ม ขึ้นจากราคาเงินสดเป็นการนำดอกเบี้ยมาเป็นหลักกำหนดราคาขายเชื่อนั่นเอง แม้ลูกค้าบางคนจะออกตั๋วสัญญาใช้เงินสำหรับดอกเบี้ยเป็นอีกฉบับหนึ่งต่างหากจากตั๋วสัญญาให้เงินสำหรับราคาเงินสด หรือโจทก์ได้ออกใบเสร็จรับเงินสำหรับดอกเบี้ยเป็นอีกฉบับหนึ่งต่างหากจากใบเสร็จรับเงินราคาสินค้าก็ไม่ทำให้ดอกเบี้ยนั้นเป็นดอกเบี้ยของตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกชำระราคาสินค้า ดอกเบี้ยที่โจทก์ได้รับจึงเป็นส่วนหนึ่งของราคาสินค้าที่โจทก์ขายเพื่อ เป็นราคาสินค้าอันเป็นรายรับตามวิธีคำนวณรายรับตามประมวลรัษฎากร มาตรา 79 จัตวา (3) ต้องนำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีการค้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2818/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อประกันหนี้ ทำให้ผู้ส่งมอบสิ้นสิทธิเรียกร้องเงินจากตั๋ว
จำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงินชนิดเปลี่ยนมือไม่ได้ให้แก่โจทก์เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2520 สัญญาจะจ่ายเงินพร้อมทั้งดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ในวันที่ 17 ตุลาคม 2521 วันรุ่งขึ้นโจทก์ได้สลักหลังตั๋วนั้นให้แก่ ก.เพื่อประกันหนี้ที่โจทก์กู้เงินมา และในวันเดียวกันนั้นเอง ก.ได้เอาตั๋วดังกล่าวค้ำประกันหนี้ที่ ก.เป็นหนี้จำเลยอยู่ ดังนั้ แม้ตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นจะเป็นตั๋วชนิดเปลี่ยนมือไม่ได้ แต่เมื่อโจทก์ตกลงส่งมอบตั๋วสัญญาใช้เงินให้ ก.เพื่อประกันหนี้ที่โจทก์กู้มา โจทก์ต้องผูกพันตามสัญญานั้น ต่อมา ก.มอบตั๋วสัญญาใช้เงินให้จำเลยเพื่อประกันหนี้ที่โจทก์กู้มาโจทก์ต้องผูกพันตามสัญญานั้น ต่อมา ก. มอบตั๋วสัญญาใช้เงินให้จำเลยเพื่อค้ำประกันหนี้ จำเลยย่อมมีสิทธิยึดตั๋วเงินนั้นไว้ได้ เหตุนี้โจทก์ไม่มีตั๋วเงินไว้ในครอบครอง จึงมิได้อยู่ในฐานะผู้ทรงตั๋วนั้นแล้ว ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกเงินตามตั๋วนั้นจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2818/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อประกันหนี้ ทำให้ผู้ส่งมอบเสียสิทธิเรียกร้องเงินจากตั๋ว
จำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงินชนิดเปลี่ยนมือไม่ได้ให้แก่โจทก์เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2520 สัญญาจะจ่ายเงินพร้อมทั้งดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ในวันที่ 17 ตุลาคม 2521 วันรุ่งขึ้นโจทก์ ได้สลักหลังตั๋วนั้นให้แก่ ก. เพื่อ ประกันหนี้ที่โจทก์กู้เงินมา และในวันเดียวกันนั้นเอง ก. ได้เอาตั๋วดังกล่าวค้ำประกันหนี้ ที่ ก. เป็นหนี้ จำเลยอยู่ ดังนั้น แม้ตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นจะเป็นตั๋วชนิดเปลี่ยนมือไม่ได้ แต่เมื่อโจทก์ตกลงส่งมอบตั๋วสัญญาใช้เงินให้ ก. เพื่อประกันหนี้ที่โจทก์กู้มาโจทก์ต้องผูกพันตามสัญญานั้น ต่อมา ก. มอบตั๋วสัญญาใช้เงินให้จำเลยเพื่อค้ำประกันหนี้ จำเลยย่อมมีสิทธิยึดตั๋วเงินนั้นไว้ได้ เหตุนี้โจทก์ไม่มีตั๋วเงินไว้ในครอบครองจึงมิได้อยู่ในฐานะผู้ทรงตั๋วนั้นแล้ว ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกเงินตามตั๋วนั้นจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2434/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองตั๋วสัญญาใช้เงิน: ขอบเขตความรับผิดของผู้รับอาวัล และการห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงเมื่อศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อย
ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ 2 รับผิดในฐานะผู้รับอาวัลในตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 30,000 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 (ผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน) ในจำนวนเงิน 5,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้ร่วมกันรับผิดในจำนวนเงิน 30,000 บาท เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทตั๋วสัญญาใช้เงิน: การฟ้องบังคับชำระหนี้, การรับรองการขาย, และอายุความ
ออกตั๋วสัญญาใช้เงินกำหนดใช้เงิน 1,460 วัน นับแต่วันออกตั๋วไม่มีอัตราดอกเบี้ย แล้วขายตั๋วแก่ธนาคาร โดยทำสัญญาให้ดอกเบี้ยร้อยละ 14 ต่อปี ถ้าผิดนัดธนาคารเรียกเงินจากผู้ออกตั๋วและดอกเบี้ยได้ตามสัญญาขายตั๋วเมื่อผู้ออกตั๋วไม่ใช้เงินตามกำหนดซึ่งเป็นผิดนัดโดยไม่ต้องทวงถาม
อายุความฟ้องผู้รับอาวัลกับผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินมีกำหนด 3 ปีตาม มาตรา940,1001
การมอบอำนาจให้ฟ้องมิใช่เป็นสภาพหรือข้ออ้างที่เป็นหลักแห่งข้อหา โจทก์ไม่บรรยายมติที่ประชุมกรรมการบริษัทที่ให้ประธานกรรมการมอบอำนาจให้ฟ้องก็ไม่เคลือบคลุม
จำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีวัตถุประสงค์เป็นธนาคารพาณิชย์แต่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นและจำเลยไม่คัดค้าน ศาลชั้นต้นไม่วินิจฉัยจำเลยฎีกาไม่ได้
of 21