คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ถอนฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 516 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องแล้วกระทบสิทธิบุคคลภายนอก: ศาลไม่อาจเพิกถอนนิติกรรมเมื่อถอนฟ้องแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนนิติกรรมการเช่าตึกแถวพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 ผู้ให้เช่ากับจำเลยที่ 2 ผู้เช่า แต่โจทก์ได้ยื่นคำบอกกล่าวถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตและให้จำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ 1ผลย่อมเป็นไปตามมาตรา 176 แห่ง ป.วิ.พ. ที่ให้คู่ความกลับเข้าสู่ฐานะเดิมเสมือนหนึ่งมิได้มีการฟ้องเลย ภายหลังเมื่อถอนฟ้องจำเลยที่ 1 แล้ว กรณีหากมีการเพิกถอนนิติกรรมการเช่า ผลย่อมเป็นการกระทบต่อสิทธิของจำเลยที่ 1 อันมีอยู่ตามสัญญาเช่าและเป็นบุคคลนอกคดี ดังนั้นศาลจึงไม่อาจพิพากษาให้เป็นไปตามคำขอของโจทก์ที่ให้เพิกถอนนิติกรรมการเช่าระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ได้ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องแล้วกระทบสิทธิบุคคลอื่น ศาลไม่สามารถพิพากษาเพิกถนิติกรรมได้
เมื่อโจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่1แล้วคู่ความย่อมกลับสู่ฐานะเดิมเสมือนหนึ่งมิได้มีการฟ้องเลยหากภายหลังถอนฟ้องมีการเพิกถอนนิติกรรมการเช่าระหว่างจำเลยที่1ผู้ให้เช่ากับจำเลยที่2ผู้เช่าย่อมเป็นการกระทบต่อสิทธิของจำเลยที่1อันมีอยู่ตามสัญญาเช่าและเป็นบุคคลนอกคดีศาลไม่อาจพิพากษาให้ตามคำขอของโจทก์ที่ให้เพิกถอนนิติกรรมการเช่าระหว่างจำเลยทั้งสองได้ ข้อวินิจฉัยผูกพันบุคคลนอกคดีโดยมิชอบเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องจำเลยร่วมกระทบสิทธิของจำเลยอีกคน ทำให้ศาลไม่สามารถพิพากษาเพิกถนนิติกรรมได้
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนนิติกรรมการเช่าตึกแถวระหว่างจำเลยที่1ผู้ให้เช่ากับจำเลยที่2ผู้เช่าและขับไล่จำเลยที่2ออกจากตึกแถวแต่เมื่อโจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่1ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตและให้จำหน่ายคดีจำเลยที่1ออกจากสารบบความแล้วผลย่อมเป็นไปตามมาตรา176แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่ให้คู่ความกลับเข้าสู่ฐานะเดิมเสมือนหนึ่งมิได้มีการฟ้องเลยกรณีหากมีการเพิกถอนนิติกรรมการเช่าย่อมเป็นการกระทบต่อสิทธิของจำเลยที่1อันมีอยู่ตามสัญญาเช่าและเป็นบุคคลนอกคดีศาลจึงไม่อาจพิพากษาให้ตามคำขอของโจทก์ที่ให้เพิกถอนนิติกรรมการเช่าระหว่างจำเลยที่1กับจำเลยที่2ได้ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องจำเลยที่ 1 แล้วส่งผลต่อสิทธิในสัญญาเช่าระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ศาลไม่อาจเพิกถอนนิติกรรมการเช่า
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนนิติกรรมการเช่าตึกแถวพิพาทระหว่างจำเลยที่1ผู้ให้เช่ากับจำเลยที่2ผู้เช่าแต่โจทก์ได้ยื่นคำบอกกล่าวถอนฟ้องจำเลยที่1ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตและให้จำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่1ผลย่อมเป็นไปตามมาตรา176แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่ให้คู่ความกลับเข้าสู่ฐานะเดิมเสมือนหนึ่งมิได้มีการฟ้องเลยภายหลังเมื่อถอนฟ้องจำเลยที่1แล้วกรณีหากมีการเพิกถอนนิติกรรมการเช่าผลย่อมเป็นการกระทบต่อสิทธิของจำเลยที่1อันมีอยู่ตามสัญญาเช่าและเป็นบุคคลนอกคดีดังนั้นศาลจึงไม่อาจพิพากษาให้เป็นไปตามคำขอของโจทก์ที่ให้เพิกถอนนิติกรรมการเช่าระหว่างจำเลยที่1กับจำเลยที่2ได้ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1427-1428/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายในการถอนอุทธรณ์: สิทธิถอนฟ้องครอบคลุมถึงการถอนอุทธรณ์ได้
ใบแต่งทนายความมีข้อความให้ทนายโจทก์ทั้งสองมีอำนาจถอนฟ้องและสละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์รวมอยู่ด้วยทนายโจทก์ทั้งสองจึงมีอำนาจยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้แทนตามกฎหมาย: เมื่อเจ้าของสิทธิถอนฟ้อง ผู้แทนย่อมขาดอำนาจฟ้อง
โจทก์ทั้งสองฟ้องว่า บริษัทโจทก์ที่ 1 เป็นนิติบุคคลโจทก์ที่ 2 มีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญกระทำการแทนโจทก์ที่ 1 จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันลักใบตราส่งของโจทก์ที่ 1 เพื่อนำไปรับสินค้าที่มากับเรือแล้วปลอมแปลงเอกสารสิทธิต่าง ๆ ของโจทก์ทั้งสอง โดยแก้ชื่อผู้รับสินค้าจากโจทก์ที่ 1 เป็นจำเลยที่ 1 อันเป็นความเท็จแล้วแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทยและเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเป็นเหตุให้จำเลยทั้งสองได้ไปซึ่ง สินค้าดังกล่าวของโจทก์ทั้งสอง เป็นคำฟ้องที่ฟังได้ว่าผู้รับสินค้าตามใบตราส่งคือโจทก์ที่ 1 แต่ผู้เดียวโจทก์ที่ 2 มิใช่เจ้าของสินค้าตามใบตราส่งหรือร่วมเป็นเจ้าของสินค้าตามใบตราส่ง ทั้งโจทก์ที่ 2 ฟ้องในฐานะผู้แทนของโจทก์ที่ 1 มิใช่ฟ้องในฐานะส่วนตัว เมื่อโจทก์ที่ 1ถอนฟ้องคดีนี้แล้ว โจทก์ที่ 2 จึงไม่ใช่เป็นผู้ที่ได้รับ ความเสียหายจากการกระทำความผิดอาญาฐานใดฐานหนึ่งตามคำฟ้องที่จะถือได้ว่าโจทก์ที่ 2 เป็นผู้เสียหายในคดีนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้แทนเมื่อเจ้าของสิทธิถอนฟ้อง: โจทก์ที่ 2 ไม่อาจฟ้องแทนเมื่อโจทก์ที่ 1 ถอนฟ้องแล้ว
โจทก์ทั้งสองฟ้องว่าบริษัทโจทก์ที่1เป็นนิติบุคคลโจทก์ที่2มีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญกระทำการแทนโจทก์ที่1จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันลักใบตราส่งของโจทก์ที่1เพื่อนำไปรับสินค้าที่มากับเรือแล้วปลอมแปลงเอกสารสิทธิต่างๆของโจทก์ทั้งสองโดยแก้ชื่อผู้รับสินค้าจากโจทก์ที่1เป็นจำเลยที่1อันเป็นความเท็จแล้วแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทยและเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเป็นเหตุให้จำเลยทั้งสองได้ไปซึ่งสินค้าดังกล่าวของโจทก์ทั้งสองเป็นคำฟ้องที่ฟังได้ว่าผู้รับสินค้าตามใบตราส่งคือโจทก์ที่1แต่ผู้เดียวโจทก์ที่2มิใช่เจ้าของสินค้าตามใบตราส่งหรือร่วมเป็นเจ้าของสินค้าตามใบตราส่งทั้งโจทก์ที่2ฟ้องในฐานะผู้แทนของโจทก์ที่1มิใช่ฟ้องในฐานะส่วนตัวเมื่อโจทก์ที่1ถอนฟ้องคดีแล้วโจทก์ที่2จึงไม่ใช่เป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำความผิดอาญาฐานใดฐานหนึ่งตามคำฟ้องที่จะถือได้ว่าโจทก์ที่2เป็นผู้เสียหายในคดีนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาจึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการฎีกาในคดีทุนทรัพย์น้อยกว่าสองแสนบาท และการฎีกาในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการอนุญาตถอนฟ้อง
จำเลยฎีกาว่าศาลไม่ควรอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องซึ่งเป็นดุลพินิจของศาลชั้นต้นเป็นการฎีกาในข้อเท็จจริงเมื่อคดีมีจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินสองแสนบาทจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการอนุญาตให้ถอนฟ้องคดีแพ่ง แม้จำเลยคัดค้าน และการพิจารณาความสุจริตในการดำเนินคดี
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175 วรรคสอง (1)ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องคดีแพ่งหรือไม่นั้นอยู่ในดุลพินิจของศาล แม้จำเลยคัดค้านก็อนุญาตให้ถอนฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 703/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายประกัน แม้ผู้เสียหายถอนฟ้อง และอำนาจฟ้องของพนักงานสอบสวน
ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยไม่ผิดสัญญาประกัน ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงไม่ได้รับความเสียหาย และค่าปรับที่ศาลอุทธรณ์กำหนดสูงเกินสมควรนั้น เป็นฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง เมื่อจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทจึงต้องห้ามฎีกาตาม ป.วิ.พ.มาตรา 248 วรรคหนึ่ง
จำเลยทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหากับพนักงานสอบสวนสถานี-ตำรวจนครบาลบางเขน โดยมีร้อยตำรวจเอก ว. ผู้รับสัญญาเป็นตัวแทนคู่สัญญากับจำเลย เมื่อจำเลยผิดสัญญาประกัน พันตำรวจโท ช. สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจนครบาลบางเขนในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้
จำเลยทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาไปจากการควบคุมของโจทก์และสัญญาว่าจะส่งตัวผู้ต้องหาให้โจทก์ตามกำหนดนัด แม้ต่อมาผู้เสียหายจะถอนคำร้องทุกข์ ในคดีนั้นซึ่งเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว ก็หาเป็นเหตุให้จำเลย ซึ่งเป็นนายประกันพ้นจากความรับผิดตามสัญญาประกันไม่
of 52