คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
นำสืบ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 271 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1067/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องมีการนำสืบขนาดพื้นที่และแนวเขตที่ชัดเจน หากไม่ชัดเจนถือว่าโจทก์นำสืบไม่สมฟ้อง
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ศาลสั่งแสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์โดยการครอบครองแม้คดีฟังได้ว่าโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทจริง แต่โจทก์มิได้ขอให้ทำแผนที่พิพาทไว้ และการนำสืบของโจทก์ในเรื่องขนาดความกว้างยาวก็ดี เนื้อที่พิพาทก็ดี เป็นการนำสืบโดยประมาทไว้เท่านั้น ไม่ได้นำสืบให้ได้ความชัดเจนว่าที่พิพาทมีความยาวแต่ละด้านแน่นอนเท่าใด หรือมีจุดหมายที่พอจะถือเป็นแนวเขตให้สามารถบังคับคดีกันได้ เมื่อโจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบตามข้ออ้างของตน ไม่นำสืบให้ได้ข้อเท็จจริงมาสนับสนุนข้ออ้างตามคำฟ้องให้พอที่ศาลจะมีบังคับตามคำขอของโจทก์ได้ ก็ต้องถือว่าโจทก์นำสืบไม่สมฟ้อง ศาลย่อมพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1527/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองสัญญากู้และการนำสืบหักล้าง หากอ้างถูกหลอกลวง จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน
จำเลยรับว่าสัญญากู้ที่โจทก์นำมาฟ้องจำเลยได้ลงชื่อเป็นผู้กู้ มิได้ปฏิเสธความถูกแท้จริงแห่งสัญญากู้ว่าเป็นสัญญาปลอม แต่อ้างว่าโจทก์ไม่ได้จ่ายเงินตามสัญญา โดยบอกจำเลยว่าจะถูกปล้นกลางทาง อยากได้ไปใช้เท่าใดให้มาหา จะพาไปเอาที่ธนาคารเท่าที่จำเป็น โจทก์กับ ม.สมคบกันหลอกลวงจำเลย ฯลฯ ฝ่ายจำเลยจึงเป็นฝ่ายกล่าวอ้างว่าหนี้ตามสัญญากู้นั้นไม่จริง ไม่ได้เป็นหนี้ จำเลยจึงเป็นฝ่ายมีหน้าที่นำสืบก่อน ว่าไม่มีหนี้และนำพยานบุคคลมาสืบหักล้างเอกสารสัญญากู้ได้ แม้สัญญากู้จะระบุว่าจำเลยรับเงินกู้ไปครบถ้วนแล้ว ไม่เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร เข้าอยู่ในวรรคท้ายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1072/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายเงินบำเหน็จผู้นำจับ: โจทก์ต้องนำสืบระเบียบรัฐมนตรี มิฉะนั้นศาลสั่งจ่ายไม่ได้
กรณีการจ่ายเงินบำเหน็จแก่ผู้นำจับตามมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 นั้น ระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนดให้จ่ายเงินบำเหน็จแก่ผู้นำจับไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ศาลรู้ได้เอง โจทก์จะต้องกล่าวอ้างหรือนำสืบให้ศาลรู้ถึงระเบียบนั้นด้วย มิฉะนั้นศาลย่อมสั่งจ่ายเงินบำเหน็จแก่ผู้นำจับไม่ได้
การที่ศาลชั้นต้นยกคำขอให้จ่ายเงินบำเหน็จแก่ผู้นำจับเพราะเห็นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจขอ โจทก์อุทธรณ์ว่าโจทก์มีอำนาจขอ และศาลต้องจ่ายเงินบำเหน็จแก่ผู้นำจับตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์มีอำนาจขอ แต่โจทก์มิได้นำสืบหรือแนบระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนดมาท้ายฟ้องให้ศาลรู้ ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจพิพากษาให้ยกคำขอนั้นเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้ที่ไม่สมบูรณ์จากการหลอกลวงและเจตนาที่ไม่ตรงกัน ผู้กู้มีสิทธินำสืบหักล้างได้
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามสัญญากู้ จำเลยให้การว่าจำเลยตกลงขายที่สวนให้โจทก์ แต่โจทก์กลับหลอกลวงให้ทำหนังสือสัญญากู้ และจำเลยไม่ได้รับเงิน ดังนี้ เป็นการต่อสู้ว่าสัญญากู้ไม่สมบูรณ์ จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนและไม่เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงข้อความในสัญญากู้ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 577/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบไม่สมบูรณ์ตามฟ้อง และสิทธิครอบครองที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญ
ที่พิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญ โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยอ้างว่าจำเลยกับพวกบุกรุกเข้าทำการเพาะปลูกพืชไร่ในที่พิพาทซึ่งโจทก์ครอบครองทำประโยชน์อยู่ อันเป็นเรื่องที่โจทก์อ้างว่าจำเลยเข้าไปในที่พิพาทโดยไม่มีสิทธิที่จะอ้างได้ แต่กลับนำสืบว่าจำเลยเข้าไปในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิการเช่าจากโจทก์ กรณีเป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์นำสืบไม่สมสภาพข้อหาข้ออ้างในคำฟ้อง และเป็นการนำสืบนอกฟ้องนอกประเด็นคำฟ้อง อันไม่ชอบที่จะนำสืบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2354/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบรายละเอียดการซื้อขายโดยตัวแทน ไม่ถือเป็นการนำสืบนอกฟ้อง และผลการรับผิดของตัวแทนและผู้ถูกมอบหมาย
ในคดีฟ้องเรียกให้ชำระเงินค่าซื้อวัสดุก่อสร้างที่ค้างชำระโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้ติดต่อขอซื้อไปจากโจทก์ แต่ในชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบว่า จำเลยได้มอบให้ ก. เป็นตัวแทนมาติดต่อขอซื้อไปจากโจทก์ดังนี้ เป็นการนำสืบถึงรายละเอียดในการติดต่อขอซื้อวัสดุก่อสร้างจากโจทก์อันเป็นมูลแห่งหนี้ ซึ่งเกี่ยวแก่ประเด็นแห่งคดีโดยตรง มิใช่เป็นการนำสืบนอกข้อหาในคำฟ้องอันจะรับฟังเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนคำฟ้องไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 1025/2516)
เมื่อ ก. สั่งซื้อวัสดุก่อสร้างในฐานะตัวแทนของห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดใช้เงินแก่โจทก์ จำเลยที่ 1เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2354/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบรายละเอียดการซื้อขายที่เป็นมูลหนี้ ไม่เป็นการนำสืบนอกข้อหา
ในคดีฟ้องเรียกให้ชำระเงินค่าซื้อวัสดุก่อสร้างที่ค้างชำระโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้ติดต่อขอซื้อไปจากโจทก์ แต่ในชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบว่า จำเลยได้มอบให้ ก. เป็นตัวแทนมาติดต่อขอซื้อไปจากโจทก์ ดังนี้ เป็นการนำสืบถึงรายละเอียดในการติดต่อขอซื้อวัสดุก่อสร้างจากโจทก์อันเป็นมูลแห่งหนี้ ซึ่งเกี่ยวแก่ประเด็นแห่งคดีโดยตรง มิใช่เป็นการนำสืบนอกข้อหาในคำฟ้องอันจะรับฟังเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนคำฟ้องไม่ได้(อ้างฎีกาที่ 1025/2516)
เมื่อ ก. สั่งซื้อวัสดุก่อสร้างในฐานะตัวแทนของห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดใช้เงินแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1718/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาฐานนำสืบพยานหลักฐานเท็จ ต้องเสียหายโดยตรงและเป็นคู่ความในคดี
เดิม จำเลยที่ 1 เป็นลูกหนี้ ร. ตามคำพิพากษา โจทก์เข้าเป็นผู้ค้ำประกันการชำระหนี้ของจำเลยที่ 1 ระหว่างอุทธรณ์ ต่อมาคดีถึงที่สุด ร. ดำเนินการบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยที่ 1 และของโจทก์ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันเพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้ จำเลยที่ 2 โดยจำเลยที่ 3ผู้รับมอบอำนาจได้ร้องขัดทรัพย์ที่ยึดของจำเลยที่ 1 อ้างว่าเป็นของจำเลยที่ 2 ซื้อจากจำเลยที่ 1 โดยมีหนังสือสัญญาซื้อขาย แต่ก่อนที่จะมีการพิจารณาคดีผู้ร้องขัดทรัพย์ได้ถอนคำร้องขัดทรัพย์ และ ร. ได้ถอนการยึดทรัพย์ของจำเลยที่ 1 แม้หนังสือสัญญาซื้อขายนั้น อันเป็นเอกสารเท็จ แต่จำเลยยังไม่ทันได้อ้างต่อศาลในการพิจารณาคดีร้องขัดทรัพย์ ทั้งในคดีร้องขัดทรัพย์นั้น โจทก์หาได้เป็นคู่ความด้วยไม่ โจทก์จึงยังไม่ได้รับความเสียหาย ไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องจำเลยฐานนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 ได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 103/2496)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบเปลี่ยนแปลงเอกสารสัญญากู้ยืมเงินที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงจริง การต่อสู้หักล้างเอกสารต้องมีเหตุผลชัดเจน
โจทก์ฟ้องบังคับจำเลยตามสัญญากู้ยืมเงิน จำเลยให้การต่อสู้ว่าต้นเงินกู้จำนวนตามฟ้องนั้นเป็นเงินมัดจำค่าซื้อที่ดินที่โจทก์วางไว้กับจำเลยตามสัญญาซื้อขายที่ดิน
แต่เนื่องจากขณะทำสัญญาไม่มีแบบพิมพ์สัญญาซื้อขาย จึงเอาแบบพิมพ์สัญญากู้มากรอกข้อความแทน เช่นนี้ เป็นการต่อสู้เพื่อนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารสัญญากู้ มิใช่เพื่อนำสืบหักล้างเอกสารสัญญากู้อันจะเข้าข้อยกเว้นให้นำสืบพยานบุคคลได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
โจทก์ฟ้องบังคับจำเลยที่ 2 ให้รับผิดตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ที่จำเลยที่ 1 ทำไว้แก่โจทก์ดังกล่าว จำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้ลอยๆ ว่าตนเป็นเพียงผู้รับรองต่อโจทก์ว่าจะเป็นผู้จัดให้มีการซื้อขายที่ดินกันให้สำเร็จเรียบร้อยเท่านั้น มิได้แสดงเหตุที่จำเลยที่ 2 ได้ทำสัญญาค้ำประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 ไว้แต่อย่างใด เช่นนี้ถือว่าจำเลยไม่มีประเด็นที่จะนำสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 296/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบการชำระหนี้ด้วยบันทึกรับเงินที่มีลายมือชื่อผู้ให้กู้เป็นหลักฐานได้
โจทก์ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินกู้พร้อมดอกเบี้ย 20,625 บาทจำเลยให้การว่า ได้ชำระแก่โจทก์แล้วสองคราว ๆ แรกชำระดอกเบี้ยด้วยเงินสด 1,500 บาท ครั้งที่สองชำระด้วยเช็ค 12,000 บาท แต่ถึงกำหนดเช็คไม่มีเงิน จึงถูกโจทก์แจ้งความเอาผิดต่อตำรวจจำเลยได้นำเงิน 12,000 บาทไปมอบให้พนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนได้บันทึกและให้โจทก์เซ็นรับเงินดังกล่าวไว้ในบันทึกนั้นแล้ว จำเลยย่อมนำสืบอ้างบันทึกซึ่งมีลายมือชื่อโจทก์ผู้ให้กู้ว่าได้มีการใช้เงินได้
of 28