คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประโยชน์แห่งความยุติธรรม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 159 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้า: ศาลมีอำนาจสั่งสืบพยานเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม แม้ไม่ยื่นตามกำหนด
ก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งเป็นวันนัดสืบพยานครั้งแรกหนึ่งวัน จำเลยยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยาน อ้างเหตุที่ไม่ยื่นภายในกำหนดแห่ง ก.ม.ว่าเนื่องจากการติดต่อกับพยานให้ครบตามความจำเป็นเพื่อความยุติธรรมไม่ได้และก็เพิ่งได้ครบ ดังนี้ ถ้าศาลเห็นว่ามีเหตุผลอันสมควรตาม ก.ม.แล้วก็อาศัยอำนาจตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 87 เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมให้สืบพยานจำเลยตามที่ระบุไว้นั้นได้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นว่า ข้ออ้างของจำเลยที่ไม่ยื่นบัญชีระบุพยานภายในกำหนดนั้น ไม่เป็นเหตุอันสมควร จึงไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีระบุพยาน ดังนี้ จำเลยย่อมฎีกาว่าข้ออ้างของจำเลยมีเหตุผลอันสมควรตาม ก.ม.ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1930/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นระบุพยานเกินกำหนด: ศาลมีอำนาจอนุญาตได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
จำเลยยื่นคำร้องขอระบุพยานพร้อมด้วยยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดพิจารณา 2 วันเข้าไปกว่ากำหนดเวลาตามมาตรา 88 ป.ม.วิ.แพ่ง เพียง 1 วัน โดยอ้างเหตุความจำเป็นที่ต้องไปติดตามคนร้ายยักยอกข้าว ดังนี้ เมื่อศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญ ซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี ก็มีอำนาจสั่งอนุญาตได้และไม่จำเป็นจะต้องไต่สวนก่อนสั่งอนุญาตเสมอไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1930/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้า ศาลมีอำนาจอนุญาตได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
จำเลยยื่นคำร้องขอระบุพยานพร้อมด้วยยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดพิจารณา 2 วัน ช้าไปกว่ากำหนดเวลาตามมาตรา 88 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเพียง 1 วัน โดยอ้างเหตุความจำเป็นที่ต้องไปติดตามคนร้ายยักยอกข้าว ดังนี้ เมื่อศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี ก็มีอำนาจสั่งอนุญาตได้ และไม่จำเป็นจะต้องไต่สวนก่อนสั่งอนุญาตเสมอไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1031/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับบัญชีระบุพยานที่ยื่นหลังนัดสืบพยาน: ศาลใช้ดุลยพินิจเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ในคดีแพ่ง จำเลยเพิ่งขอระบุพยานจำเลยในวันนัดสืบพยานโจทก์ (นัดแรก) โดยอ้างว่าจำเลยป่วยเป็นไข้ไม่สามารถมาระบุพยานตามกำหนดได้ นั้นเมื่อศาลพิจารณาเหตุผลทั่ว ๆ ไปแล้วเห็นว่า มิใช่เรื่องจงใจฝ่าฝืนเพื่อให้โจทก์เสียเปรียบในทางคดี แล้วศาลก็อาศัยอำนาจตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 87 ให้รับบัญชีระบุพยานของจำเลยไว้ดำเนินการต่อไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 798/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานเอกสารแม้ไม่ได้ส่งสำเนาก่อนวันสืบพยาน หากจำเลยรู้เห็นแล้ว
เอกสารที่โจทก์อ้างเป็นหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีโดยตรง ทั้งปรากฎว่าจำเลยได้รู้เห็นเอกสารนี้มาก่อนแล้ว แม้โจทก์ จะมิได้ส่งสำเนาให้จำเลยก่อนวันพิจารณา 3 วัน เพื่อประโยชน์แห่งความยุตติธรรม ศาลก็มีอำนาจรับฟังพะยานเอกสารเช่นว่านั้นได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 87 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 798/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานเอกสารที่ไม่ส่งสำเนาก่อนสืบพยาน หากจำเลยรู้เห็นแล้ว
เอกสารที่โจทก์อ้างเป็นหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีโดยตรง ทั้งปรากฏว่าจำเลยได้รู้เห็นเอกสารนี้มาก่อนแล้ว แม้โจทก์จะมิได้ส่งสำเนาให้จำเลยก่อนวันพิจารณา 3 วันเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานเอกสารเช่นว่านั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 691/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานสัญญาซื้อขายที่ไม่ส่งมอบล่วงหน้า ศาลมีอำนาจรับฟังได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
แม้จำเลยจะไม่ได้ส่งสำเนาหนังสือสัญญาซื้อขายสวนรายพิพาทที่จำเลยอ้าง ให้แก่โจทก์ทราบก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ 3 วันแต่โจทก์ได้ตรวจดูเอกสารสัญญาซื้อขายนี้ในวันนัดดูแผนที่และวันชี้สองสถาน ทั้งโจทก์ได้รับสำเนาเอกสารที่จำเลยขออ้างไว้แล้วเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมเมื่อจำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานนี้ ซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีศาลมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานนี้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 87 อนุมาตรา 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2483

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับพยานหลักฐานเพิ่มเติมหลังสืบพยานโจทก์ ศาลมีอำนาจหากจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
แม้จำเลยจะยื่นบัญชีระบุพะยานภายหลังที่ โจทก์สืบพะยานไปหมดแล้วก็ตามถ้าาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุตติธรรมจำเป็นจะต้องสืบพะยานหลักฐาน
++สำคัญเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี ศาลก็มีอำนาจรับฟังพะยานหลักฐานนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8732/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายระยะเวลาอุทธรณ์คดีแรงงาน: ศาลยึดหลักความจำเป็นและประโยชน์แห่งความยุติธรรม มิใช่ความผิดพลาดของผู้ฟ้อง
พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 26 บัญญัติให้อำนาจศาลแรงงานในการย่นหรือขยายระยะเวลาไว้เป็นการเฉพาะแล้ว จึงไม่อาจนำ ป.วิ.พ. มาตรา 23 ซึ่งเป็นบทบัญญัติทั่วไปมาใช้บังคับโดยอนุโลมตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 ได้ และตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 26 ได้วางหลักเกณฑ์ว่าจะกระทำได้เมื่อมีความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม หาได้กำหนดหลักเกณฑ์ว่าจะกระทำได้เมื่อมีพฤติการณ์พิเศษและต้องทำก่อนสิ้นระยะเวลานั้น เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยเช่นที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ. มาตรา 23 ไม่
ศาลแรงงานภาค 5 อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2554 แต่โจทก์ซึ่งทราบวันนัดฟังคำพิพากษาโดยชอบแล้วไม่มาศาล และเพิ่งมายื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ในวันที่ 16 มกราคม 2555 โจทก์อ้างว่าดำเนินคดีเองแต่ได้ปรึกษานิติกรศาลแรงงานภาค 5 มาโดยตลอด การที่โจทก์ไม่มาฟังคำพิพากษาและติดตามขอคัดคำพิพากษาหรือตรวจสอบรวมทั้งขอคำปรึกษาจากนิติกรศาลแรงงานภาค 5 ว่าคำพิพากษาศาลแรงงานให้อุทธรณ์ได้เฉพาะข้อกฎหมายไปยังศาลฎีกาภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษาตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง จึงเป็นความผิดหรือความบกพร่องของโจทก์เอง มิใช่เหตุความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่ศาลแรงงานภาค 5 จะพึงขยายระยะเวลาอุทธรณ์ให้โจทก์ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 26

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11751-11752/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์คดีทรัพย์สินทางปัญญา: พิจารณาเหตุผลและความจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
การขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์คดีนี้ต้องบังคับตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 37 ที่บัญญัติให้ศาลมีอำนาจพิจารณาให้ย่นหรือขยายระยะเวลาได้ตามความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม แม้โจทก์จะขอให้ขยายระยะเวลาภายหลังวันครบกำหนดยื่นอุทธรณ์ ก็หาจำต้องเป็นกรณีมีเหตุสุดวิสัยตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 แต่อย่างใดไม่ ปรากฏว่า วันที่ 26 เมษายน 2555 ทนายจำเลยทั้งห้ายื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์อ้างเหตุว่ายังไม่ได้รับสำเนาคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง จึงยังทำอุทธรณ์ไม่ได้ ศาลดังกล่าวก็มีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้จำเลยทั้งห้าถึงวันที่ 29 มิถุนายน 2555 และในวันที่ 30 เมษายน 2555 อันเป็นวันครบกำหนดยื่นอุทธรณ์ ก็ปรากฏจากรายงานเจ้าหน้าที่ว่าได้ทำสำเนาคำพิพากษาโดยมีการรับรองสำเนาให้แก่โจทก์ตามคำแถลงขอสำเนาคำพิพากษาของโจทก์ลงวันที่ 30 มีนาคม 2555 ดังนี้ ย่อมแสดงว่าในวันที่ 2 พฤษภาคม 2555 ที่โจทก์ยื่นคำร้องขออนุญาตขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์นั้น ทนายโจทก์เพิ่งมีโอกาสได้รับสำเนาคำพิพากษาในวันครบกำหนดยื่นอุทธรณ์และก่อนวันที่โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์เพียง 2 วัน ซึ่งนับว่าเป็นระยะเวลาที่สั้นมากสำหรับการที่โจทก์จะทำอุทธรณ์ในคดีนี้ กรณีจึงมีเหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมสมควรขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้แก่โจทก์
of 16