พบผลลัพธ์ทั้งหมด 516 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2417/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คด้วยชื่อร้าน ถือเป็นการลงลายมือชื่อของตน ผูกพันตามเช็ค
คำว่า "บุคคลผู้ลงลายมือชื่อของตน" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900 วรรคแรก หมายถึง บุคคลธรรมดาที่เขียนลายมือชื่อด้วยตนเองหรือนิติบุคคลตามกฎหมายที่ผู้มีอำนาจกระทำการแทนลงลายมือชื่อกระทำการแทนโดยจะลงชื่อสมมติ หรือนามแฝงหรือชื่อเสียงที่ใช้ในการค้าอันเป็นที่แน่นอนว่าหมายถึงบุคคลใดซึ่งมีเจตนาให้ลายมือชื่อที่ลงในตั๋วเงินนั้นเป็นชื่อของตน การที่จำเลยที่ 2 เขียนคำว่า "แสงรุ้งเรือง" ซึ่งเป็นชื่อร้านของจำเลยที่ 2 ลงด้านหลัง เช็คพิพาททั้งสองฉบับ ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 เจ้าของร้านเป็นผู้ลงลายมือชื่อของตนในเช็คดังกล่าวจึงเป็นการลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 900 วรรคแรก,919,989 วรรคแรก เมื่อเช็คพิพาทเป็นเช็คผู้ถือจำเลยที่ 2 จึงเป็นผู้ประกัน (อาวัล) จำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายตามมาตรา 921,940 และ 989 วรรคแรก ย่อมอยู่ในฐานะต้องผูกพันใช้เงินตามเนื้อความในเช็คเช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายตามมาตรา 967,989 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1765/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตั๋วสัญญาใช้เงิน-เงื่อนเวลา-การชำระหนี้-การยินยอมชำระหนี้ด้วยตั๋วอื่น-ผลผูกพัน
จำเลยฎีกาว่า จำเลยเป็นตัวแทนรับเงินจากโจทก์จำนวน5 ล้านบาทเพื่อให้บริษัทกู้ เนื่องจากโจทก์ไม่สามารถให้บริษัทดังกล่าวกู้โดยตรงได้เพราะอยู่ในเครือเดียวกับโจทก์ และกรรมการของโจทก์เป็นบุคคลคนเดียวกับกรรมการของบริษัทดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.ประกันชีวิต พ.ศ.2510นั้น ในปัญหาข้อนี้จำเลยมิได้ให้การปฏิเสธไว้โดยชัดแจ้งว่าจำเลยเป็นตัวแทนโจทก์ในการให้กู้ยืมเงินดังกล่าว และในชั้นชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นก็มิได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ ดังนั้น ข้ออ้างตามฎีกาของจำเลยจึงมิใช่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ตั๋วสัญญาใช้เงินที่จำเลยออกให้โจทก์ถึงกำหนดใช้เงินเมื่อทวงถาม ซึ่งมีความหมายว่าทวงถามเมื่อใดก็ต้องใช้เงินทันที แต่โจทก์จำเลยได้ทำความตกลงกันเกี่ยวกับหนี้ของบริษัท ง.ที่มีต่อจำเลยจำนวน 5 ล้านบาทว่า หากจำเลยยังไม่ได้รับชำระหนี้จากบริษัทดังกล่าวจนครบถ้วน โจทก์ก็จะไม่ถอนเงินฝากตามตั๋วสัญญาใช้เงินที่จำเลยออกให้โจทก์ หรือจะไม่โอนตั๋วสัญญาใช้เงินหรือสิทธิเรียกร้องตามตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวให้แก่บุคคลใด อันเป็นเงื่อนเวลาที่กำหนดไว้เป็นประโยชน์แก่จำเลยตาม ป.พ.พ.มาตรา 154 เดิมดังนั้นเมื่อพิจารณาวันถึงกำหนดใช้เงินของตั๋วสัญญาใช้เงินประกอบข้อตกลงดังกล่าวข้างต้นแล้ว จึงพอเข้าใจได้ว่าโจทก์จะทวงถามให้จำเลยชำระเงินหรือถอนเงินฝากตามตั๋วสัญญาใช้เงินต่อเมื่อบริษัท ง.ได้ชำระหนี้ให้จำเลยจำนวน 5 ล้านบาทครบถ้วนแล้ว เมื่อปรากฏว่าต่อมาบริษัท ง.ถูกกระทรวงการคลังเพิกถอนใบอนุญาตและถูกฟ้องล้มละลาย ศาลชั้นต้นสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว ดังนั้นในทางแพ่งบริษัทดังกล่าวจึงไม่มีอำนาจจัดการทรัพย์สินของตนอีกต่อไป ซึ่งรวมทั้งไม่มีอำนาจชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินแก่จำเลย และจำเลยได้นำตั๋วสัญญาใช้เงินของบริษัท ง.ไปยื่นขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายแล้ว แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับชำระหนี้จากบริษัทดังกล่าวครบถ้วนแล้วหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดี ก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์เคยมีหนังสือทวงถามให้จำเลยชำระหนี้เงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินพร้อมดอกเบี้ย จำเลยมีหนังสือตอบโจทก์ว่า บริษัท ง.ถูกถอนใบอนุญาตไม่สามารถใช้เงินแก่จำเลยได้ เพื่อให้การชำระหนี้เสร็จสิ้นไปด้วยดีจำเลยขอชำระหนี้โจทก์ด้วยตั๋วสัญญาใช้เงินของบริษัท ส. และหากโจทก์ประสงค์จะใช้เงิน จำเลยก็ยินดีรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวไว้ แสดงว่าจำเลยยินยอมชำระหนี้ให้โจทก์เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินของบริษัท ส. โดยไม่ถือเอาประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาตามข้อตกลงดังกล่าวข้างต้นอีกต่อไปแล้ว ดังนั้น จำเลยจึงต้องรับผิดใช้เงินให้โจทก์ตามวันถึงกำหนดใช้เงินในตั๋วสัญญาใช้เงิน คือ เมื่อโจทก์ทวงถาม
ตั๋วสัญญาใช้เงินที่จำเลยออกให้โจทก์ถึงกำหนดใช้เงินเมื่อทวงถาม ซึ่งมีความหมายว่าทวงถามเมื่อใดก็ต้องใช้เงินทันที แต่โจทก์จำเลยได้ทำความตกลงกันเกี่ยวกับหนี้ของบริษัท ง.ที่มีต่อจำเลยจำนวน 5 ล้านบาทว่า หากจำเลยยังไม่ได้รับชำระหนี้จากบริษัทดังกล่าวจนครบถ้วน โจทก์ก็จะไม่ถอนเงินฝากตามตั๋วสัญญาใช้เงินที่จำเลยออกให้โจทก์ หรือจะไม่โอนตั๋วสัญญาใช้เงินหรือสิทธิเรียกร้องตามตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวให้แก่บุคคลใด อันเป็นเงื่อนเวลาที่กำหนดไว้เป็นประโยชน์แก่จำเลยตาม ป.พ.พ.มาตรา 154 เดิมดังนั้นเมื่อพิจารณาวันถึงกำหนดใช้เงินของตั๋วสัญญาใช้เงินประกอบข้อตกลงดังกล่าวข้างต้นแล้ว จึงพอเข้าใจได้ว่าโจทก์จะทวงถามให้จำเลยชำระเงินหรือถอนเงินฝากตามตั๋วสัญญาใช้เงินต่อเมื่อบริษัท ง.ได้ชำระหนี้ให้จำเลยจำนวน 5 ล้านบาทครบถ้วนแล้ว เมื่อปรากฏว่าต่อมาบริษัท ง.ถูกกระทรวงการคลังเพิกถอนใบอนุญาตและถูกฟ้องล้มละลาย ศาลชั้นต้นสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว ดังนั้นในทางแพ่งบริษัทดังกล่าวจึงไม่มีอำนาจจัดการทรัพย์สินของตนอีกต่อไป ซึ่งรวมทั้งไม่มีอำนาจชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินแก่จำเลย และจำเลยได้นำตั๋วสัญญาใช้เงินของบริษัท ง.ไปยื่นขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายแล้ว แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับชำระหนี้จากบริษัทดังกล่าวครบถ้วนแล้วหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดี ก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์เคยมีหนังสือทวงถามให้จำเลยชำระหนี้เงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินพร้อมดอกเบี้ย จำเลยมีหนังสือตอบโจทก์ว่า บริษัท ง.ถูกถอนใบอนุญาตไม่สามารถใช้เงินแก่จำเลยได้ เพื่อให้การชำระหนี้เสร็จสิ้นไปด้วยดีจำเลยขอชำระหนี้โจทก์ด้วยตั๋วสัญญาใช้เงินของบริษัท ส. และหากโจทก์ประสงค์จะใช้เงิน จำเลยก็ยินดีรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวไว้ แสดงว่าจำเลยยินยอมชำระหนี้ให้โจทก์เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินของบริษัท ส. โดยไม่ถือเอาประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาตามข้อตกลงดังกล่าวข้างต้นอีกต่อไปแล้ว ดังนั้น จำเลยจึงต้องรับผิดใช้เงินให้โจทก์ตามวันถึงกำหนดใช้เงินในตั๋วสัญญาใช้เงิน คือ เมื่อโจทก์ทวงถาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตั้งตัวแทนของบริษัทและการผูกพันตามนิติกรรมซื้อขายลดเช็ค
บริษัทมีหนังสือแจ้งมติที่ประชุมกรรมการบริษัทไปถึงเจ้าหนี้ระบุว่าที่ประชุมมีมติให้ พ.และด. คนใดคนหนึ่งลงลายมือชื่อร่วมกับกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทคนใดคนหนึ่งพร้อมประทับตราสำคัญของบริษัททำการในนามบริษัทได้ หนังสือนั้นมีลายมือชื่อของกรรมการผู้มีอำนาจและประทับตราสำคัญของบริษัททำการแทนบริษัทถูกต้องตามข้อบังคับ ดังนี้ถือได้ว่า บริษัทตั้งให้ พ.และด. เป็นตัวแทนของบริษัทตาม ป.พ.พ. มาตรา 797 นิติกรรมการขายลดเช็คที่ตัวแทนดังกล่าวได้กระทำไปจึงผูกพันบริษัท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้โดยตัวแทน และผลต่ออายุความ การกระทำของตัวแทนผูกพันลูกหนี้
การรับสภาพหนี้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 172 จะต้องกระทำโดยลูกหนี้แต่ลูกหนี้อาจตั้งตัวแทนให้ชำระหนี้แทนได้ ซึ่งย่อมต้องถือว่าเป็นการชำระหนี้ของลูกหนี้นั้นเอง เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 2 เคยลงลายมือชื่อรับสินค้าแทนจำเลยที่ 1 และเคยพูดขอผัดผ่อนชำระหนี้แทนจำเลยที่ 1 การที่จำเลยที่ 2มอบหลังคาไฟเบอร์กระบะรถชำระหนี้ให้โจทก์เป็นการกระทำ โดยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสิทธิเรียกร้องของโจทก์ ถือได้ว่า จำเลย ที่2 เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 โดยปริยาย จึงเป็นการรับ สภาพหนี้ที่มีผลผูกพันจำเลยที่ 1 ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง ในวันที่จำเลยที่ 1รับสภาพหนี้และเริ่มนับใหม่ตั้งแต่เวลาเมื่อเหตุ ที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นสิ้นสุด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญารับทุนศึกษาต่อต่างประเทศมีผลผูกพันถึงระดับปริญญาโท แม้สัญญาระบุเพียงระดับปริญญาโดยไม่จำกัดชั้นปี
เมื่อสัญญารับทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศ ระบุเพียงว่าให้มีความผูกพันในระดับปริญญาโดยไม่ได้ระบุว่าระดับปริญญาตรี โท หรือเอก ดังนั้น เมื่อจำเลยผู้รับทุนตามสัญญาดังกล่าวเรียนจบปริญญาตรีแล้วจำเลยได้ดำเนินการขอเรียนต่อในระดับปริญญาโทจนต้นสังกัดเห็นชอบ รัฐบาลต่างประเทศเจ้าของทุนขยายทุนให้ และในที่สุด จำเลยได้รับทุนและเข้าเรียนจนจบ สัญญารับทุนดังกล่าวจึงมีผลผูกพันจำเลยในระดับปริญญาโทด้วย จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีเพียงว่า ในช่วงที่จำเลยที่ 1 ไปฝึกอบรมดูงานที่ต่างประเทศถือว่าเป็นการปฏิบัติราชการจะต้องคืนเงินในส่วนนี้ให้เท่านั้น ดังนั้น ปัญหาว่าโจทก์ควรคิดอัตรา แลกเปลี่ยนของค่าเฉลี่ยธนาคารพาณิชย์ซึ่งเป็นคุณแก่จำเลยซึ่ง มีความหมายว่าอัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญออสเตรเลีย ควรคิดให้ 19.02 บาท ไม่ใช่19.96 บาท ตามที่โจทก์นำสืบ จึงเป็นเรื่อง นอกประเด็น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4177/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานเอกสารและการผูกพันตามฐานตัวแทนเมื่อมีการชำระหนี้ผ่านตัวแทน
จำเลยที่ 1 ยื่นบัญชีระบุเอกสารหมาย ล.1 เป็นพยานไว้แล้วตามบัญชีระบุพยานฉบับลงวันที่ 15 สิงหาคม 2528 ส่วนที่จำเลยที่ 1ยื่นคำร้องขอระบุเอกสารหมาย ล.1 เป็นพยานเพิ่มเติมตามคำร้องและบัญชีพยานฉบับลงวันที่ 20 ธันวาคม 2528 ซึ่งศาลชั้นต้นไม่อนุญาตนั้น เป็นการยื่นบัญชีระบุพยานมาซ้ำซ้อน ทั้งตามคำร้องของจำเลยที่ 1 ดังกล่าวเป็นเรื่องที่จำเลยที่ 1 ขอส่งต้นฉบับเอกสารหมาย ล.1 ต่อศาลเพราะจำเลยที่ 1 ไม่สามารถนำจำเลยที่ 2 มาสืบประกอบกับพยานเอกสารนั้นได้ กรณีเช่นนี้อยู่ในดุลพินิจของศาลว่าจะรับฟังพยานเอกสารดังกล่าวหรือไม่ มิใช่ว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่ได้ยื่นต่อศาลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงรับฟังไม่ได้ สัญญาที่โจทก์ตั้งจำเลยที่ 2 เป็นผู้แทนจำหน่ายรถแทรกเตอร์ให้โจทก์ มีข้อความในข้อ 9 ค. ระบุว่า "เมื่อผู้จำหน่ายได้เงินค่าเช่าซื้อจากลูกค้าแล้วจะต้องรีบส่งเงินจำนวนนั้นทั้งหมดให้แก่บริษัท พร้อมรายละเอียดโดยครบถ้วนภายใน 5 วัน นับแต่วันที่ผู้จำหน่ายได้รับจากลูกค้า" ย่อมถือได้ว่า นอกจากโจทก์จะตั้งจำเลยที่ 2 เป็นผู้จำหน่ายแล้ว ยังให้จำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนรับเงินจากลูกค้าของโจทก์ได้ด้วย การรับเงินค่ารถแทรกเตอร์ของจำเลยที่ 2ไว้จากจำเลยที่ 1 จึงเป็นการปฏิบัติการไปภายในขอบอำนาจแห่งฐานตัวแทน โจทก์ซึ่งเป็นตัวการต้องผูกพันต่อการชำระหนี้ดังกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 820
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3848/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายในการประนีประนอมยอมความผูกพันจำเลย แม้เกินขอบเขตที่จำเลยบอกไว้
จำเลยที่ 2 ได้แต่งตั้ง ส. เป็นทนายของตน โดยระบุไว้ในใบแต่งทนายความว่าให้มีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความได้ด้วยเมื่อทนายจำเลยที่ 2 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลพิพากษาตามยอมไปแล้ว คำพิพากษานั้นย่อมผูกพันจำเลยที่ 2 แม้จะฟังเป็นความจริงว่า ทนายจำเลยที่ 2 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์โดยยอมรับจะผ่อนชำระเงินแต่ละงวดเกินกว่าจำนวนที่จำเลยที่ 2ได้บอกแก่ทนายจำเลยที่ 2 ไว้ก็ตาม ก็เป็นเรื่องระหว่างจำเลยที่ 2กับทนายของตนจำเลยที่ 2 ไม่อาจจะยกเหตุดังกล่าวขึ้นอ้างเพื่อให้เปลี่ยนแปลงสัญญาประนีประนอมยอมความหรือคำพิพากษาตามยอมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3177/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาผูกพันแม้ไม่มีตราบริษัท เมื่อกรรมการลงนามและมีการชำระเงิน
บริษัทโจทก์ได้จดทะเบียนไว้ว่า ส.หรืออ. กรรมการคนใดคนหนึ่งลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัทจึงผูกพันโจทก์ได้ จำเลยได้ทำสัญญารับจ้างเหมาสร้างเครื่องอบมะพร้าวผงโดยสัญญาทำในนามของโจทก์และมี ส. กรรมการโจทก์ลงลายมือชื่อเป็นผู้ว่าจ้าง จำเลยเป็นผู้นำเครื่องอบมะพร้าวผงไปติดตั้งที่โรงงานของโจทก์ เพื่อใช้ผลิตมะพร้าวผงอันเป็นกิจการของโจทก์และรับเงินค่าติดตั้งจากโจทก์ สัญญาดังกล่าวจึงเป็นการทำกับโจทก์หาใช่ทำกับ ส. ในนามส่วนตัวไม่ เมื่อจำเลยทำสัญญากับโจทก์ก็ต้องผูกพันตามสัญญา จะอ้างว่าโจทก์ไม่ประทับตราสำคัญของบริษัทโจทก์จึงไม่ผูกพันหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2948/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุคคลภายนอกชำระหนี้แทนลูกหนี้: สัญญาผูกพันใช้บังคับได้หากทำด้วยความสมัครใจ
ข. ขับรถยนต์ชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย เจ้าพนักงานเปรียบเทียบปรับ ข. และทำบันทึกตกลงทางแพ่งไว้ว่า จำเลยขอรับชดใช้ในมูลละเมิดทั้งหมดและรับชดใช้ซ่อมรถยนต์โจทก์ให้อยู่ในสภาพเดิม ถือว่าในขณะทำบันทึก ข. มีหนี้ต้องชำระแก่โจทก์การที่จำเลยยอมทำบันทึกดังกล่าว เป็นกรณีที่จำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกขอเข้ามาชำระหนี้แทน ข. ลูกหนี้ แม้บันทึกดังกล่าวจะไม่ใช่หนังสือรับสภาพหนี้ แต่เป็นสัญญาประเภทหนึ่ง เมื่อไม่ปรากฏว่าเป็นการขืนใจลูกหนี้และไม่ขัดต่อกฎหมายย่อมสมบูรณ์ใช้บังคับได้ และมีผลผูกพันจำเลยให้ต้องรับผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนเชิด: สัญญาประนีประนอมยอมความผูกพันจำเลย แม้ไม่มีหนังสือมอบอำนาจ
โจทก์ไม่จำต้องบรรยายฟ้องถึงพฤติการณ์ว่าจำเลยที่ 3 ได้เชิดจำเลยที่ 4 อย่างไร เพราะเป็นข้อที่สามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณาฟ้องจึงไม่เคลือบคลุม การที่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นวิศวกรควบคุมการก่อสร้างของบริษัทจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นลูกจ้างฝ่ายตรวจสอบอุบัติเหตุ ของจำเลยที่ 3 ร่วมกันเจรจาและทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับ โจทก์ณ สำนักงานของจำเลยที่ 3 ประกอบกับการที่ทนายของจำเลย ที่ 3กับจำเลยที่ 1 ยอมรับผิดตามหนังสือของโจทก์ที่ขอให้ ชำระหนี้ จึงแสดงว่าจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 เห็นชอบในการทำ สัญญาประนีประนอมยอมความด้วย ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 รู้อยู่แล้วยอมให้จำเลยที่ 2 และที่ 4 เชิดตัวเขาเองออกเป็นตัวแทน จำเลยที่ 1 และที่ 3จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญา ประนีประนอมยอมความ เมื่อมิใช่เป็นเรื่องตั้งตัวแทนไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความ กันตามปกติ แต่เป็นเรื่องตัวแทนเชิด จึงหาจำต้องมีหนังสือมอบอำนาจ ให้กระทำแทนแต่อย่างใดไม่.