คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้กระทำผิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 256 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาคดีทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือบาดเจ็บ ต้องระบุเจตนาและผู้กระทำความผิดเฉพาะเจาะจง หากฟ้องไม่ชัดเจนถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำการพลั้งพลาดไปโดนคนอื่นตายหรือบาดเจ็บ ก็ต้องระบุว่าทำโดยเจตนา ถ้าไม่มีว่าจำเลยทำโดยเจตนา ไม่มีว่าจำเลยทำโดยสมคบกัน และไม่มีบรรยายฟ้องว่า ใครทำให้ใครตายหรือบาดเจ็บ ดั่งนี้ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม ให้ยกฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาต้องระบุเจตนาและผู้กระทำผิด การบรรยายฟ้องที่ไม่ชัดเจนถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำการพลั้งพลาดไปโดนคนอื่นตายหรือบาดเจ็บ ก็ต้องระบุว่าทำโดยเจตนา ถ้าไม่มีว่าจำเลยทำโดยเจตนา ไม่มีว่าจำเลยทำโดยสมคบกัน และไม่มีบรรยายฟ้องว่า ใครทำให้ใครตายหรือบาดเจ็บ ดั่งนี้ ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม ให้ยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดหลายฐานโดยผู้กระทำผิดคนเดียวกัน: อำนาจศาลและหลักการพิจารณาความเกี่ยวพัน
ถ้าปรากฏความผิดหลายฐานได้กระทำลงโดยผู้กระทำผิดคนเดียวก็ย่อมฟ้องคดีทุกเรื่องต่อศาลซึ่งมีอำนาจชำระในฐานความผิดซึ่งมีอัตราโทษสูงได้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 24(1)นั้น
กฎหมายถือเอาบุคคลผู้กระทำผิดเป็นสำคัญ มิใช่อาศัยแต่การเกี่ยวพันเฉพาะฐานความผิดเท่านั้น
จำเลยกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ที่จังหวัดปากพนัง และถูกฟ้องยังศาลปากพนัง คดีอยู่ระหว่างพิจารณาจำเลยมากระทำผิดฐานมีอาวุธปืนและลูกระเบิดมือที่จังหวัดนครศรีธรรมราชอีกดังนี้ โจทก์จึงฟ้องคดีหลังต่อศาลจังหวัดปากพนังได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความละเมิด: เริ่มนับเมื่อผู้เสียหายรู้ตัวผู้กระทำผิด
อายุความฟ้องร้องเรื่องละเมิดวันที่ถือว่าผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์สำเร็จ: การล้วงกระเป๋าเอาทรัพย์สินออกมาแล้ว แม้ทรัพย์สินจะหล่นก่อนถึงมือผู้กระทำผิด
จำเลยลักทรัพย์โดยวิธีล้วงกระเป๋า จำเลยแกะกระดุมเปิดฝากระเป๋ากางเกงเอาธนบัตรออกมานอกกระเป๋า แล้วพอดีเจ้าทรัพย์รู้ตัวใช้มือตบกระเป๋าบังเอิญไปถูกมือจำเลยซึ่งกำลังกุมธนบัตรอยู่ ธนบัตรร่วงหล่นจากมือจำเลยลงไปที่เท้าเจ้าทรัพย์ ดังนี้เป็นความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จแล้วไม่ใช่เป็นความผิดฐานพยายาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1443/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อกล่าวโทษผู้กระทำผิด ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
จำเลยยื่นคำร้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการว่า โจทก์ได้ด่าตนอย่างหยาบคาย โจทก์มีอาการคุ้มดีคุ้มร้าย ขืนเอาไว้ในราชการจะเสียหาย ถ้าปรากฏว่าข้อความที่จำเลยกล่าวว่าโจทก์ด่าจำเลยเป็นความจริง (เพราะได้มีการพิจารณาในศาล ๆ ฟังว่าโจทก์ด่าจำเลยจริง) แล้วก็ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อความชอบธรรมในอันที่จะให้ผู้ที่ด่าจำเลยได้รับโทษ จึงไม่มีความผิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างจำนวนผู้กระทำผิดในชั้นพิจารณาไม่ถึงเหตุให้ยกฟ้อง หากข้อเท็จจริงสาระสำคัญยังคงตรงกับฟ้อง
บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวก 2 คนทำผิดฐานปล้นทรัพย์ ทางพิจารณาได้ความว่ามีผู้ร้าย 3 คน ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง ที่จะเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้องได้
ข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อาญา ม.192 วรรค 2 นั้นต้องเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญขององค์แห่งความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างจำนวนผู้กระทำผิดไม่ถึงเหตุยกฟ้องหากองค์ประกอบความผิดยังคงครบถ้วน
บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวก 2 คนทำผิดฐานปล้นทรัพย์ทางพิจารณาได้ความว่ามีผู้ร้าย 3 คนดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องที่จะเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้องได้
ข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192 วรรคสองนั้นต้องเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญขององค์แห่งความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 624/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษโดยปราณี: เหตุความดีเดิมของผู้กระทำผิดเป็นเหตุที่ชอบด้วยกฎหมาย
เหตุปราณีที่ว่าจำเลยเป็นคนมีความประพฤติเรียบร้อยไม่เคยกระทำผิดมาแต่ก่อน. ก็เป็นเหตุทำนองเดียวกับ มาตรา 59บัญญัติว่า 'ผู้กระทำผิดเป็นผู้ที่มีความดีมาแต่ก่อน'นั่นเอง
การที่จะปราณีลดโทษแก่ผู้กระทำความผิดหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 364/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดอาญาที่กระทำนอกประเทศ: การบังคับใช้กฎหมายไทยกับผู้กระทำผิดคนไทย
จำเลยเป็นคนไทยไปปล้นทรัพย์ในประเทศลาว ดังนี้คดีก็ต้องด้วย กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 10(4) และเมื่อคดีได้ความบริบูรณ์ทุกประการตามความในมาตรา 10(4) แล้วก็ลงโทษจำเลยตาม มาตรา 301 ได้
of 26