พบผลลัพธ์ทั้งหมด 186 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 994/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดร่วมของผู้ขนส่ง (ลูกหนี้ร่วม) ต่อความเสียหายของสินค้าที่สูญหาย
โจทก์จำเลยเข้าร่วมกันประกอบกิจการขนส่ง โดยจำเลยกระทำในนามและตามคำสั่งของโจทก์ ส่วนโจทก์หักค่าขนส่งบางส่วนไว้ซึ่งถือได้ว่ามีผลประโยชน์ร่วมกันในการประกอบกิจการขนส่งนั้นเมื่อสินค้าที่โจทก์จำเลยได้รับมอบหมายให้ขนส่งจากเจ้าของสินค้าผู้ส่งสูญหายไปเพราะความผิดของลูกจ้างจำเลย ทั้งโจทก์และจำเลยต้องร่วมกันรับผิดต่อเจ้าของสินค้าในฐานะเป็นผู้ขนส่งร่วมกันโดยเป็นลูกหนี้ร่วมกันและต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน
แม้โจทก์ไม่ได้ระบุในคำฟ้องให้จำเลยรับผิดในฐานะลูกหนี้ร่วมและจำเลยก็ไม่ได้ต่อสู้ในคำให้การแจ้งชัดถึงเรื่องลูกหนี้ร่วมแต่โดยสภาพแห่งข้อหาในคำฟ้องของโจทก์บ่งระบุแจ้งชัดถึงนิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจำเลยว่าเป็นเรื่องลูกหนี้ร่วมอยู่แล้ว การที่ศาลวินิจฉัยว่าโจทก์จำเลยต้องรับผิดต่อเจ้าของสินค้าอย่างลูกหนี้ร่วมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 296 จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616ประกอบกับมาตรา 438 บัญญัติไว้ชัดแจ้งว่า ผู้ขนส่งต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิดให้แก่เจ้าของสินค้าซึ่งเป็นผู้ส่งสำหรับสินค้าที่สูญหายตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการละเมิดอยู่แล้ว ธรรมเนียมประเพณีการขนส่งที่ว่า เมื่อไม่ได้มีการตีราคาสินค้าไว้ก่อนว่าราคาเท่าใด ผู้ขนส่งไม่ควรต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเกินหีบห่อละ 500 บาทนั้น หามีผลลบล้างบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว ไม่
แม้โจทก์ไม่ได้ระบุในคำฟ้องให้จำเลยรับผิดในฐานะลูกหนี้ร่วมและจำเลยก็ไม่ได้ต่อสู้ในคำให้การแจ้งชัดถึงเรื่องลูกหนี้ร่วมแต่โดยสภาพแห่งข้อหาในคำฟ้องของโจทก์บ่งระบุแจ้งชัดถึงนิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจำเลยว่าเป็นเรื่องลูกหนี้ร่วมอยู่แล้ว การที่ศาลวินิจฉัยว่าโจทก์จำเลยต้องรับผิดต่อเจ้าของสินค้าอย่างลูกหนี้ร่วมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 296 จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616ประกอบกับมาตรา 438 บัญญัติไว้ชัดแจ้งว่า ผู้ขนส่งต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิดให้แก่เจ้าของสินค้าซึ่งเป็นผู้ส่งสำหรับสินค้าที่สูญหายตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการละเมิดอยู่แล้ว ธรรมเนียมประเพณีการขนส่งที่ว่า เมื่อไม่ได้มีการตีราคาสินค้าไว้ก่อนว่าราคาเท่าใด ผู้ขนส่งไม่ควรต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเกินหีบห่อละ 500 บาทนั้น หามีผลลบล้างบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 994/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขนส่งร่วมกัน กรณีสินค้าสูญหายจากการกระทำของลูกจ้าง
โจทก์จำเลยเข้าร่วมกันประกอบกิจการขนส่ง โดยจำเลยกระทำในนามและตามคำสั่งของโจทก์ ส่วนโจทก์หักค่าขนส่งบางส่วนไว้ซึ่งถือได้ว่ามีผลประโยชน์ร่วมกันในการประกอบกิจการขนส่งนั้นเมื่อสินค้าที่โจทก์จำเลยได้รับมอบหมายให้ขนส่งจากเจ้าของสินค้าผู้ส่งสูญหายไปเพราะความผิดของลูกจ้างจำเลย ทั้งโจทก์และจำเลยต้องร่วมกันรับผิดต่อเจ้าของสินค้าในฐานะเป็นผู้ขนส่งร่วมกันโดยเป็นลูกหนี้ร่วมกันและต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน
แม้โจทก์ไม่ได้ระบุในคำฟ้องให้จำเลยรับผิดในฐานะลูกหนี้ร่วมและจำเลยก็ไม่ได้ต่อสู้ในคำให้การแจ้งชัดถึงเรื่องลูกหนี้ร่วมแต่โดยสภาพแห่งข้อหาในคำฟ้องของโจทก์บ่งระบุแจ้งชัดถึงนิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจำเลยว่าเป็นเรื่องลูกหนี้ร่วมอยู่แล้ว การที่ศาลวินิจฉัยว่าโจทก์จำเลยต้องรับผิดต่อเจ้าของสินค้าอย่างลูกหนี้ร่วมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 296 จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616 ประกอบกับมาตรา 438 บัญญัติไว้ชัดแจ้งว่า ผู้ขนส่งต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิดให้แก่เจ้าของสินค้าซึ่งเป็นผู้ส่งสำหรับสินค้าที่สูญหายตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการละเมิดอยู่แล้ว ธรรมเนียมประเพณีการขนส่งที่ว่า เมื่อไม่ได้มีการตีราคาสินค้าไว้ก่อนว่าราคาเท่าใด ผู้ขนส่งไม่ควรต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเกินหีบห่อละ 500 บาทนั้นหามีผลลบล้างบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวไม่
แม้โจทก์ไม่ได้ระบุในคำฟ้องให้จำเลยรับผิดในฐานะลูกหนี้ร่วมและจำเลยก็ไม่ได้ต่อสู้ในคำให้การแจ้งชัดถึงเรื่องลูกหนี้ร่วมแต่โดยสภาพแห่งข้อหาในคำฟ้องของโจทก์บ่งระบุแจ้งชัดถึงนิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจำเลยว่าเป็นเรื่องลูกหนี้ร่วมอยู่แล้ว การที่ศาลวินิจฉัยว่าโจทก์จำเลยต้องรับผิดต่อเจ้าของสินค้าอย่างลูกหนี้ร่วมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 296 จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616 ประกอบกับมาตรา 438 บัญญัติไว้ชัดแจ้งว่า ผู้ขนส่งต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิดให้แก่เจ้าของสินค้าซึ่งเป็นผู้ส่งสำหรับสินค้าที่สูญหายตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการละเมิดอยู่แล้ว ธรรมเนียมประเพณีการขนส่งที่ว่า เมื่อไม่ได้มีการตีราคาสินค้าไว้ก่อนว่าราคาเท่าใด ผู้ขนส่งไม่ควรต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเกินหีบห่อละ 500 บาทนั้นหามีผลลบล้างบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 332/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขนส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 608 และ 634 แม้คนขับไม่ใช่ลูกจ้าง
จำเลยที่ 3 เป็นห้างหุ้นส่วนประกอบการเดินรถยนต์ขนส่งคนโดยสาร จำเลยที่ 2 ได้นำรถคันเกิดเหตุเข้าวิ่งรับส่งคนโดยสารในเครือของจำเลยที่ 3 โดยจำเลยที่ 3 หักรายได้จากค่าโดยสารที่จำเลยที่ 2 ได้รับไป 10 เปอร์เซ็นต์ 15 วัน คิดกันครั้งหนึ่ง ในวันเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 มาขับรถดังกล่าวแทนคนขับประจำรถซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากจำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 2 - 3 เป็นผู้ขนส่งคนโดยสาร เพื่อบำเหน็จเป็นทางค้าปกติของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 608 และเหตุที่โจทก์ได้รับความเสียหายนั้นไม่ได้เกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือความผิดของโจทก์แต่ประการใด จำเลยที่ 2 - 3 จึงต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 634 แม้จำเลยที่ 1 จะไม่ใช่ลูกจ้างของจำเลยที่ 2 - 3 ก็ตาม จำเลยที่ 2 - 3 จะอ้างเหตุไม่ต้องรับผิดหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 332/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขนส่งต่อความเสียหายของผูโดยสาร แม้คนขับไม่ใช่ลูกจ้าง
จำเลยที่ 3 เป็นห้างหุ้นส่วนประกอบการเดินรถยนต์ขนส่งคนโดยสารจำเลยที่ 2 ได้นำรถคันเกิดเหตุเข้าวิ่งรับส่งคนโดยสารในเครือของจำเลยที่ 3 โดยจำเลยที่ 3 หักรายได้จากค่าโดยสารที่จำเลยที่ 2 ได้รับไป 10 เปอร์เซ็นต์ 15 วันคิดกันครั้งหนึ่งในวันเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 มาขับรถดังกล่าวแทนคนขับประจำรถซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากจำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 2-3 เป็นผู้ขนส่งคนโดยสารเพื่อบำเหน็จเป็นทางค้าปกติของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 608 และเหตุที่โจทก์ได้รับความเสียหายนั้นไม่ได้เกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือความผิดของโจทก์แต่ประการใดจำเลยที่ 2-3 จึงต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 634 แม้จำเลยที่ 1 จะไม่ใช่ลูกจ้างของจำเลยที่ 2-3 ก็ตามจำเลยที่ 2-3 จะอ้างเหตุไม่ต้องรับผิดหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 332/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขนส่งต่อความเสียหายของคนโดยสาร แม้คนขับไม่ใช่ลูกจ้าง
จำเลยที่ 3 เป็นห้างหุ้นส่วนประกอบการเดินรถยนต์ขนส่งคนโดยสาร. จำเลยที่ 2 ได้นำรถคันเกิดเหตุเข้าวิ่งรับส่งคนโดยสารในเครือของจำเลยที่ 3.โดยจำเลยที่ 3 หักรายได้จากค่าโดยสารที่จำเลยที่ 2ได้รับไป 10 เปอร์เซ็นต์ 15 วันคิดกันครั้งหนึ่ง.ในวันเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 มาขับรถดังกล่าวแทนคนขับประจำรถซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากจำเลยที่ 2. เมื่อจำเลยที่ 2-3 เป็นผู้ขนส่งคนโดยสารเพื่อบำเหน็จเป็นทางค้าปกติของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 608. และเหตุที่โจทก์ได้รับความเสียหายนั้นไม่ได้เกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือความผิดของโจทก์แต่ประการใด. จำเลยที่ 2-3 จึงต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 634. แม้จำเลยที่ 1 จะไม่ใช่ลูกจ้างของจำเลยที่ 2-3 ก็ตาม.จำเลยที่ 2-3 จะอ้างเหตุไม่ต้องรับผิดหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1969/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขนส่งต่อความเสียหายของสินค้าและข้อยกเว้นความรับผิด
ผู้ขนส่งจะต้องรับผิดในการที่ของสูญหายหรือบุบสลายหรือส่งชักช้า อันเกิดแต่ความผิดของผู้ขนส่งคนอื่นหรือบุคคลอื่นซึ่งตนหากได้มอบหมายของนั้นไปอีกทอดหนึ่ง
ถ้าของนั้นได้ส่งไปโดยมีผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดผู้ขนส่งทั้งนั้นจะต้องรับผิดร่วมกันในการสูญหายบุบสลายหรือส่งชักช้า
ใบรับใบตราส่งหรือเอกสารอื่นๆ ทำนองนั้นก็ดี ซึ่งผู้ขนส่งออกไปให้แก่ผู้ส่งนั้น ถ้ามีข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งประการใด ความนั้นเป็นโมฆะเว้นแต่ผู้ส่งจะได้ตกลงด้วยโดยชัดแจ้ง
แม้สินค้าที่ส่งจะมีประกันภัยไว้ เมื่อสินค้าเกิดความเสียหายเพราะความผิดของผู้ขนส่ง ผู้รับตราส่งย่อมฟ้องผู้ขนส่งให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายได้โดยตรง หาจำต้องฟ้องผู้รับประกันภัยก่อนไม่
ถ้าของนั้นได้ส่งไปโดยมีผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดผู้ขนส่งทั้งนั้นจะต้องรับผิดร่วมกันในการสูญหายบุบสลายหรือส่งชักช้า
ใบรับใบตราส่งหรือเอกสารอื่นๆ ทำนองนั้นก็ดี ซึ่งผู้ขนส่งออกไปให้แก่ผู้ส่งนั้น ถ้ามีข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งประการใด ความนั้นเป็นโมฆะเว้นแต่ผู้ส่งจะได้ตกลงด้วยโดยชัดแจ้ง
แม้สินค้าที่ส่งจะมีประกันภัยไว้ เมื่อสินค้าเกิดความเสียหายเพราะความผิดของผู้ขนส่ง ผู้รับตราส่งย่อมฟ้องผู้ขนส่งให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายได้โดยตรง หาจำต้องฟ้องผู้รับประกันภัยก่อนไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1589/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตวัตถุประสงค์บริษัทขนส่ง และความรับผิดร่วมกันของผู้ขนส่งต่อความเสียหายจากการประมาท
บริษัทขนส่ง จำกัด มีวัตถุประสงค์ตามหนังสือบริคณห์สนธิที่จดทะเบียนไว้ว่า รับทำการขนส่งทั่วไปย่อมหมายถึงการรับขนส่งผู้โดยสารตลอดจนการรับขนส่งสินค้าด้วย แม้จะได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกให้ทำการรับขนส่งผู้โดยสารอย่างเดียวก็ไม่ทำให้การรับขนส่งสินค้ากลายเป็นอยู่นอกวัตถุประสงค์ หากจะรับขนส่งสินค้าโดยยังไม่ได้รับอนุญาต ก็เป็นเรื่องผิดใบอนุญาตไม่กระทบกระเทือนถึงบุคคลภายนอกซึ่งรู้กันทั่วไปว่า บริษัทมีวัตถุประสงค์รับทำการขนส่งทั่วไป
รถยนต์ที่บุคคลภายนอกนำเข้าเดินร่วมกับบริษัทขนส่ง จำกัด ในเส้นทางที่บริษัทได้รับสัมปทานโดยมีพฤติการณ์ปรากฏแก่คนทั่วไปว่าเป็นรถยนต์ของบริษัท และบริษัทได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นค่าบริการรายเที่ยว แม้คนขับรถประจำจะเป็นผู้ที่บุคคลภายนอกนั้นจ้างมา ก็ต้องถือว่าเป็นลูกจ้างของบริษัทด้วย บริษัทต้องร่วมรับผิดในกิจการรับขนส่งที่คนขับรถได้กระทำแทนในทางการที่จ้าง
(อ้างฎีกาที่ 1576/2506)
รถยนต์ที่บุคคลภายนอกนำเข้าเดินร่วมกับบริษัทขนส่ง จำกัด ในเส้นทางที่บริษัทได้รับสัมปทานโดยมีพฤติการณ์ปรากฏแก่คนทั่วไปว่าเป็นรถยนต์ของบริษัท และบริษัทได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นค่าบริการรายเที่ยว แม้คนขับรถประจำจะเป็นผู้ที่บุคคลภายนอกนั้นจ้างมา ก็ต้องถือว่าเป็นลูกจ้างของบริษัทด้วย บริษัทต้องร่วมรับผิดในกิจการรับขนส่งที่คนขับรถได้กระทำแทนในทางการที่จ้าง
(อ้างฎีกาที่ 1576/2506)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ขนส่ง กรณีของสูญหายระหว่างขนส่ง และการฟ้องร้องต่อศาลในประเทศไทย
โจทก์เป็นผู้ส่งของและเป็นเจ้าของของนั้นด้วย จำเลยเป็นผู้รับของไปส่งต่างประเทศโดยเป็นตัวแทนของบริษัทขนส่งซึ่งอยู่ต่างประเทศ สัญญารับขนทำกันในจังหวัดพระนคร ของสูญหายระหว่างทาง โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกราคาของนั้นจากจำเลยต่อศาลเมืองไทยในจังหวัดพระนครได้
ป.พ.พ. มาตรา 824 บัญญัติไว้เพื่อความสะดวกแก่บุคคลในประเทศไทยที่จะฟ้องร้องตัวแทนที่อยู่ในประเทศไทยของตัวการที่อยู่ในต่างประเทศต่อศาลไทย แทนที่จะต้องไปฟ้องในศาลต่างประเทศเท่านั้น ไม่ได้หมายความเลยไปว่าตัวการที่อยู่ในต่างประเทศจะไม่มีความรับผิดต่อบุคคลภายนอกที่ทำสัญญากับตัวแทนของคนในประเทศไทย และไม่ได้หมายความว่า ตัวแทนไม่มีสิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ตัวการของตนที่อยู่ในต่างประเทศสำหรับหนี้สินใด ๆ ที่ตัวแทนได้ก่อขึ้นเนื่องในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะตัวแทน
ป.พ.พ. มาตรา 824 บัญญัติไว้เพื่อความสะดวกแก่บุคคลในประเทศไทยที่จะฟ้องร้องตัวแทนที่อยู่ในประเทศไทยของตัวการที่อยู่ในต่างประเทศต่อศาลไทย แทนที่จะต้องไปฟ้องในศาลต่างประเทศเท่านั้น ไม่ได้หมายความเลยไปว่าตัวการที่อยู่ในต่างประเทศจะไม่มีความรับผิดต่อบุคคลภายนอกที่ทำสัญญากับตัวแทนของคนในประเทศไทย และไม่ได้หมายความว่า ตัวแทนไม่มีสิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ตัวการของตนที่อยู่ในต่างประเทศสำหรับหนี้สินใด ๆ ที่ตัวแทนได้ก่อขึ้นเนื่องในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะตัวแทน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าระวางพาหนะเมื่อส่งของไม่ถึงปลายทาง: ผู้ขนส่งมีสิทธิได้รับค่าระวางตามส่วน
ผู้ขนส่ง ๆ ของให้ถึงตำบลที่กำหนดให้ส่งไม่ได้เพราะมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้น ผู้ขนส่งชอบที่จะได้รับเงินค่าระวางพาหนะตามส่วนของระยะทาง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9855/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่ง: ต้องมีเจตนาตกลงชัดเจนจึงจะมีผลผูกพัน
แม้ใบรับขนสินค้าของจำเลยที่ 1 มีข้อความท้ายสุดว่า "สินค้าที่ไม่ได้ประเมินราคา เมื่อเกิดความชำรุดหรือเสียหายจะชดใช้ไม่เกิน 500 บาท" ทางนำสืบของจำเลยทั้งสองไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ตกลงยินยอมด้วย ข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 625 จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดเต็มจำนวนที่สินค้าเสียหายจริงคือ 34,527.50 บาท