คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องเดิม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 165 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 736/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งตกไปเมื่อฟ้องเดิมถูกยกฟ้อง เหตุขาดตัวโจทก์เดิมที่เป็นจำเลย
เมื่อศาลพิพากษายกฟ้องของโจทก์แล้ว ฟ้องแย้งของจำเลยย่อมตกไป เพราะฟ้องแย้งนั้นจะต้องมีฟ้องเดิมและตัวโจทก์เดิมที่ะเป็นจำเลยตอ่ไปเป็นหลักอยู่ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 736/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งตกไปเมื่อฟ้องเดิมถูกยกฟ้อง - อำนาจฟ้องแทนผู้เยาว์
เมื่อศาลพิพากษายกฟ้องของโจทก์แล้ว ฟ้องแย้งของจำเลยย่อมตกไปเพราะฟ้องแย้งนั้นจะต้องมีฟ้องเดิมและตัวโจทก์เดิมที่จะเป็นจำเลยต่อไปเป็นหลักอยู่ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม แม้เป็นเรื่องเดียวกัน ศาลไม่รับพิจารณา
ที่ดินเป็นของบุคคลภายนอกโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งหมดสัญญาเช่าแล้วไม่ยอมออก กับค้างค่าเช่า ห้องและเรียกค่าเสียหาย จำเลยให้การรับว่า ได้เช่าจากโจทก์จริงแต่จำเลยได้ดัดแปลงห้องเช่ามีราคาสูงขึ้น และได้เป็นผู้เช่าที่ดินซึ่งปลูกห้องแถวนั้น แล้วขอฟ้องแย้งให้โจทก์รื้อห้องแถว หรือถ้ารื้อไม่ได้ ก็ให้ใช้ ค่าดัดแปลงห้อง ฟ้องแย้งดังนี้ ไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม แม้เป็นเรื่องเดียวกัน ศาลไม่รับ
ที่ดินเป็นของบุคคลภายนอก โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งหมดสัญญาเช่าแล้วไม่ยอมออก กับค้างค่าเช่าห้องและเรียกค่าเสียหาย จำเลยให้การรับว่า ได้เช่าจากโจทก์จริงแต่จำเลยได้ดัดแปลงห้องเช่ามีราคาสูงขึ้น และได้เป็นผู้เช่าที่ดินซึ่งปลูกห้องแถวนั้น แล้วขอฟ้องแย้งให้โจทก์รื้อห้องแถวหรือถ้ารื้อไม่ได้ก็ให้ใช้ค่าดัดแปลงห้อง ฟ้องแย้งดังนี้ ไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งมีเงื่อนไขไม่อาจพิจารณารวมกับฟ้องเดิมได้ ไม่เป็นฟ้องแย้ง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า จำเลยให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์และเรียกค่าซ่อมแซมห้องที่จำเลยออกไป 4,000 บาท ขอให้ยกฟ้องโจทก์ หรือหากจำเลยต้องออกจากห้องเช่านี้ ก็ขอให้ถือคำให้การนี้เป็นฟ้องแย้ง ให้โจทก์ใช้เงินค่าซ่อมแซมห้องเช่า 4,000 บาท แก่จำเลยด้วย ดังนี้ ถือว่าฟ้องแย้งของจำเลยมีเงื่อนไข กล่าวคือ ให้ถือเป็นฟ้องแย้งต่อเมื่อศาลพิพากษาขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องแย้ง เพราะไม่อาจพิจารณารวมกับคำฟ้องเดิมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งมีเงื่อนไข – ไม่อาจพิจารณารวมกับฟ้องเดิมได้
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า จำเลยให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์และเรียกค่าซ่อมแซมห้องที่จำเลยออกไป 4,000 บาท ขอให้ยกฟ้องโจทก์ หรือหากจำเลยต้องออกจากห้องเช่านี้ ก็ขอให้ถือคำให้การนี้เป็นฟ้องแย้ง ให้โจทก์ใช้เงินค่าซ่อมแซมห้องเช่า 4,000 บาท แก่จำเลยด้วย ดังนี้ถือว่าฟ้องแย้งของจำเลยมีเงื่อนไข กล่าวคือ ให้ถือเป็นฟ้องแย้งต่อเมื่อศาลพิพากษาขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าดังนี้ ไม่เป็นฟ้องแย้งเพราะไม่อาจพิจารณารวมกับคำฟ้องเดิมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1263/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการลงโทษตามความผิดอื่นเมื่อไม่พบผิดตามฟ้องเดิม แต่ยังอยู่ในหมวดความผิดเดียวกัน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 276 ซึ่งอยู่ในหมวดฐานกระทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพ เมื่อฟังว่าจำเลยไม่มีผิดตาม มาตรา 276 หากแต่ผิด ตาม มาตรา 270 อันเป็นความผิดอยู่ในหมวดเดียวกัน เป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษฐานทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพอยู่ในตัว ศาลจึงมีอำนาจลงโทษจำเลยตาม มาตรา 270 ซึ่งมีโทษเบากว่าได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1842/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งสิทธิในบ้านพิพาทเกี่ยวพันกับฟ้องเดิม สภาพแห่งข้อหาแจ้งชัด ศาลรับพิจารณา
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าบ้านรายพิพาทเป็นของโจทก์จำเลยให้การต่อสู้ว่าบ้านเป็นของมารดาโจทก์โจทก์ได้ขายให้จำเลยแล้ว และฟ้องแย้งว่า ถ้าหากเป็นบ้านของโจทก์จริง จำเลยก็ขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์รื้อบ้านรายพิพาทออกไป เพราะการที่โจทก์อาศัยจำเลยอยู่ในที่ที่จำเลยเป็นผู้เช่าผู้อื่นอยู่นั้นเป็นโมฆะฟ้องแย้งของจำเลยเช่นนี้ เป็นฟ้องที่เกี่ยวพันกับฟ้องเดิม และข้อหาก็แจ้งชัดแล้ว ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันในตัว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มเติมฟ้องต้องไม่ขัดแย้งกับฟ้องเดิม หากขัดแย้งถือเป็นการเลิกฟ้องเดิมแล้วฟ้องใหม่ ศาลไม่ควรอนุญาต
เดิมโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทุจริตแสดงตัวเป็นโจทก์ขอรับโอนมฤดกที่ดินแล้วโอนขายให้จำเลยขอให้เพิกถอนการรับโอนมฤดกและการซื้อขาย ภายหลังขอเพิ่มเติมฟ้องว่าจำเลยทำสัญญายอมความ โดยจำเลยยอมโอนคืนที่พิพาทให้โจทก์ ๆ ชำระเงินที่ผู้อื่นเป็นลูกหนี้ จำเลยให้จำเลย 200 บาท เมื่อจำเลยโอนกรรมสิทธิที่ดินรายนี้ให้โจทก์แล้ว จึงขอให้ศาลพิพากษาตามสัญญายอมความนี้ถือว่าเป็นคนละลักษณะกับฟ้องเดิมคำขอบังคับก็ขัดกันเท่ากับขอเลิก ฟ้องเดิมแล้วเอาใหม่ไม่ใช่เพิ่มเติมฟ้องกรณีต้องตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 179 วรรคท้ายซึ่งบัญญัติห้ามไว้ไม่ให้กระทำศาลชอบที่จะยกเสียตาม ม. 180 โจทก์จะได้ไปฟ้องเป็นคดีใหม่
ทำสัญญาปรานีประนอมยอมความกันไว้โดยลงชื่อรับผิดไว้แก่เขาแต่ฝ่ายเดียวแล้ว ไม่ปฏิบัติตามสัญญาเขาย่อมฟ้องให้รับผิดตามสัญญาที่ตนลงลายมือชื่อไว้ได้ โดยไม่เป็นปัญหาว่าเขาได้ตั้งตัวแทนให้ทำสัญญากับจำเลยหรือไม่ ซึ่งต่อมาเขาได้รับรองสัญญานั้นแล้วด้วย
ศาลชั้นต้นชอบที่ที่จะสั่งคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้อง ถ้าศาลชั้นต้นไม่สั่งแต่ในชั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1563/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังข้อเท็จจริงจากฟ้องเดิม & งดสืบพยานเมื่อมีข้อเท็จจริงเพียงพอ
บิดาผู้ตายฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาจำนองที่ผู้ตายจำนองเขาไว้โดยอ้างว่าเขารับจำนองไม่สุจริตเมื่อปรากฎว่าบิดาผู้ตายกับภรรยาผู้ตายเคยเป็นความกันเรื่องที่ดินแปลงนี้มาก่อนแล้ว และในคดีก่อนนั้นบิดาผู้ตายกล่าวในฟ้องว่าผู้รับจำนองรายที่กล่าวนี้รับจำนองจากผู้ตายโดยสุจริต ดังนี้ศาลย่อมรับฟังความข้อนี้จากฟ้องฉะบับก่อนได้ว่า ผู้รับจำนองรับจำนองโดยสุจริตโดยไม่ต้องสืบพยานต่อไปและแม้บิดาผู้ตายจะขอสืบว่าความจริงผู้รับจำนองรับจำนองไว้โดยไม่สุจริตศาลก็มีอำนาจงดสืบได้เพราะคดีฟังได้ดังกล่าวแล้ว
of 17