พบผลลัพธ์ทั้งหมด 196 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่ายังไม่ระงับ แม้ปลูกสร้างใหม่บนที่ดินเดิม
ทำสัญญาเช่าที่ดินปลูกเรือนอยู่อาศัย แม้ผู้เช่าจะรื้อเรือนเดิมแล้วปลูกขึ้นใหม่ก็ตาม สัญญาเช่าก็ไม่ระงับ เพราะที่ดินอันเป็นวัตถุแห่งการเช่ายังคงมีอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 764/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีอาญาโดยโจทก์ร่วมสิทธิการฟ้องระงับ
อัยการและผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัว คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาเมื่อโจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหายได้ขอถอนฟ้องและขอถอนคำร้องทุกข์ โดยจำเลยไม่คัดค้านแล้วสิทธินำคดีมาฟ้องร้องย่อมระงับไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1553/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าต่อ: คำมั่นสัญญาเช่าต่อระงับเมื่อมีการเช่าต่อเนื่องโดยไม่มีกำหนด
ทำสัญญาเช่าที่ดินกัน 3 ปี ท้ายสัญญาระบุว่า "3 ปีแล้วทำสัญญาต่อ" นั้น ข้อความนี้แม้จะถือเอาว่าเป็นคำมั่นอันจะพึงบังคับกันได้ ก็แต่เพียงเรียกร้องให้ผู้ให้เช่าทำสัญญาเช่าใหม่เมื่อสัญญาเช่าเดิมสิ้นอายุแล้วเท่านั้น เมื่อครบกำหนดการเช่า 3 ปี ผู้เช่ายังคงอยู่ในที่เช่าและชำระค่าเช่าตลอดมาตามกฎหมาย ก็เท่ากับเป็นการเช่ากับโดยไม่มีกำหนดเวลา คำมั่นที่มีอยู่จึงระงับไปในตัว ผู้ให้เช่าบอกเลิกการเช่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 484/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำหนังสือแสดงหนี้สินที่เป็นเท็จ และการถอนคำร้องทุกข์ทำให้สิทธิฟ้องระงับ
จำเลยเป็นผู้จัดการร้านขายรถจักรยาน ได้เขียนใบส่งสิ่งของขึ้นเอง หรือสั่งให้คนให้ร้านทำขึ้นตามหน้าที่ของผู้จัดการ ไม่มีการปลอมลายมือชื่อของผู้ใด เพียงแต่จำเลยทำเป็นหนังสือของจำเลยเอง อันมีข้อความเป็นเท็จเท่านั้น ไม่ได้ปลอมหนังสือของผู้ใดอื่นเลย จำเลยจึงยังไม่มีความผิดฐานปลอมหนังสือ (อ้างฎีกาที่ 399/2485, 1411/2494)
ในคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวผู้เสียหายได้ขอถอนคำร้องทุกข์แล้ว เพราะผู้ต้องหาจะยอมใช้เงิน ภายหลังผู้เสียหายจะกลับมาแจ้งความในเรื่องนั้นอีก สิทธินำคดีมาฟ้องของผู้เสียหายย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (2)
ในคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวผู้เสียหายได้ขอถอนคำร้องทุกข์แล้ว เพราะผู้ต้องหาจะยอมใช้เงิน ภายหลังผู้เสียหายจะกลับมาแจ้งความในเรื่องนั้นอีก สิทธินำคดีมาฟ้องของผู้เสียหายย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 361/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความในคดีเช็คไม่มีเงิน ทำให้สิทธิฟ้องอาญาเป็นอันระงับ แม้จะไม่ได้ระบุถึงทางอาญาโดยชัดแจ้ง
จำเลยออกเช็คครั้งแรกสั่งจ่ายเมื่อครบ 10 เดือนครั้นถึงกำหนดธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินเพราะจำเลยไม่มีเงินในบัญชี ผู้เสียหายจึงร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานดำเนินคดีแก่จำเลยฐานออกเช็คไม่มีเงินแต่มีคนไกล่เกลี่ย ผู้เสียหายจึงให้จำเลยผัดไปอีก 6 เดือน โดยจำเลยออกเช็คฉบับใหม่ให้ผู้เสียหาย ครั้นถึงกำหนดขึ้นเงินเช็คฉบับใหม่ธนาคารก็ปฏิเสธไม่จ่ายเงินอีกเพราะจำเลยไม่มีเงินในธนาคารผู้เสียหายจึงฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งเรียกเงินตามเช็ค ในคดีแพ่งคู่ความทำยอมกันโดยจำเลยยอมใช้เงินให้โจทก์ภายใน 15 วัน ในวันเดียวกันนั้นเอง ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานให้ดำเนินคดีแก่จำเลย เช่นนี้อัยการโจทก์จะมาฟ้องจำเลยในกรณีเดียวกันนี้เป็นคดีอาญาฐานออกเช็คไม่มีเงินตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ อีกหาได้ไม่เพราะคดีนี้เกี่ยวกับความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค โจทก์มุ่งประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยในทางอาญา แต่ก็ปรากฏว่าผู้เสียหายเคยร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยมาครั้งหนึ่งแล้วแต่ผู้เสียหายก็ตกลงให้จำเลยออกเช็คให้ใหม่ ครั้นไม่ได้รับชำระอีก ผู้เสียหายก็ฟ้องเป็นคดีแพ่งไม่ได้ดำเนินทางอาญา ต่อมาได้ตกลงประนีประนอมยอมความกันให้จำเลยชำระเงินภายใน 15 วัน นับจากวันทำยอมในคดีแพ่งแม้ในสัญญายอมตามที่ผู้เสียหายและจำเลยกระทำกันในคดีแพ่งนี้จะไม่ได้พูดถึงทางอาญาเลยแต่ตามพฤติการณ์ต่างๆที่ผู้เสียหายและจำเลยได้ปฏิบัติต่อกันมาดังกล่าว ย่อมมุ่งหมายจะให้ระงับคดีในทางอาญาด้วยฉะนั้น แม้ผู้เสียหายจะไปร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานดำเนินคดีอาญาเกี่ยวกับเช็ครายนี้แก่จำเลยอีกก็ตามแต่เมื่อกรณีออกเช็คไม่มีเงินนี้เป็นความผิดต่อส่วนตัวการที่ผู้เสียหายกับจำเลยได้ประนีประนอมยอมความกันในกรณีนี้ จึงมีผลทำให้สิทธินำคดีอาญารายนี้มาฟ้องจึงระงับไป(ประชุมใหญ่ครั้งที่5/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 919-920/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญายอมความระงับสิทธิเรียกร้องเดิม ฟ้องซ้ำเมื่อมีสิทธิจากสัญญาเดิมแล้วย่อมไม่ได้
ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน แล้วผู้ซื้อเข้าไปปลูกเรือนลงในที่ดินนั้น ต่อมาเจ้าของที่ดินนำที่ดินและเรือนไปขายฝากผู้อื่น ผู้ซื้อที่ดินจึงมาฟ้องผู้ขายและผู้รับซื้อฝากขอให้เพิกถอนสัญญาขายฝาก ในที่สุดยอมความกัน โดยให้ผู้ขายทำการไถ่ถอนที่ดินและเรือนคืนเพื่อไปโอนขายให้แก่ผู้ซื้อที่ดิน ดังนี้ย่อมทำให้สิทธิเรียกร้องเดิมสิ้นไป คงได้สิทธิตามสัญญายอมความและเป็นการรับรองการขายฝากนั้นเมื่อครบกำหนด ผู้ขายไม่ไถ่และผู้ซื้อที่ดินไม่เข้าสรวมสิทธิ ที่ดินและเรือนจึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อฝาก และกรณีเช่นนี้ผู้ซื้อที่ดินจะมาฟ้องเรียกค่าแห่งที่ดินที่เพิ่มขึ้นไม่ได้ ทั้งจะมาฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาขายฝากก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระงับสิทธิฟ้องคดีอาญาเมื่อผู้เสียหายถอนฟ้อง
อัยการและผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมกันฟ้องคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวอันยอมความกันได้ เมื่อผู้เสียหายซึ่งร้องทุกข์และเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้ขอถอนคำร้องทุกข์และขอถอนฟ้อง สิทธิฟ้องคดีของอัยการย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 39(2) ศาลต้องพิพากษายกฟ้องของอัยการเสียด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 221/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประนีประนอมยอมความในคดีอาญา สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งระงับ
ผู้เสียหายในการละเมิดตกลงรับค่าเสียหายจากผู้ละเมิดไว้ในคดีอาญาและศาลจดรายงานพิจารณาว่าผู้เสียหายตกลงจะไม่ว่ากล่าวเอาโทษผู้ละเมิด ซึ่งเป็นจำเลยในคดีอาญาอีกต่อไป เช่นนี้ถือว่าเป็นการประนีประนอมยอมความ ผู้เสียหายจะมาฟ้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งอีกไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 221/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประนีประนอมยอมความในคดีอาญา สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งระงับ
ผู้เสียหายในการละเมิดตกลงรับค่าเสียหายจากผู้ละเมิดไว้ในคดีอาญาและศาลจดรายงานพิจารณาว่าผู้เสียหายตกลงจะไม่ว่ากล่าวเอาโทษผู้ละเมิดซึ่งเป็นจำเลยในคดีอาญาอีกต่อไปเช่นนี้ถือว่าเป็นการประนีประนอมยอมความ ผู้เสียหายจะมาฟ้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1551/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าช่วงต้องได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่า หากสัญญาเช่าเดิมรวมกับสัญญาใหม่ สัญญาเดิมย่อมระงับ
การที่ผู้เช่าจะให้เช่าช่วงที่ที่เช่ามาจากผู้ให้เช่าได้ ต้องนำสืบได้ว่าได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่า การที่จำเลยผู้เช่านำสืบได้เพียงว่าในการให้เช่าช่วงนั้นผู้ให้เช่าเพียงรู้หรือควรรู้เท่านั้นยังไม่พอ
จำเลยผู้เช่าที่ได้ทำสัญญาเช่าที่ 2 คราว คราวแรกและคราวที่ 2 ในการเช่าคราวหลัง(คราวที่ 2) ได้ขยายบริเวณเช่าออกไปอีกมากกว่าเก่า และนำเอาสัญญาเช่าเก่ามารวมกับสัญญาใหม่ด้วย เช่นนี้ ถือว่าสัญญาเช่าที่ทำครั้งแรกระงับไป
จำเลยผู้เช่าที่ได้ทำสัญญาเช่าที่ 2 คราว คราวแรกและคราวที่ 2 ในการเช่าคราวหลัง(คราวที่ 2) ได้ขยายบริเวณเช่าออกไปอีกมากกว่าเก่า และนำเอาสัญญาเช่าเก่ามารวมกับสัญญาใหม่ด้วย เช่นนี้ ถือว่าสัญญาเช่าที่ทำครั้งแรกระงับไป