พบผลลัพธ์ทั้งหมด 292 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1899/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีและการแต่งตั้งทนาย: ศาลต้องพิจารณาเหตุผลความจำเป็นและประโยชน์แห่งความยุติธรรม
หลังจากโจทก์ถอนทนายเดิมแล้ว 20 วัน ได้มีการยื่นใบแต่งทนายใหม่ในวันนัดสืบพยานโจทก์. วันที่ยื่นใบแต่งทนายเป็นแต่เพียงการแสดงต่อศาลว่าขอแต่งตั้งทนายให้เป็นผู้ว่าความ. มิได้หมายความว่า.โจทก์เพิ่งไปหาทนายในเช้าวันนัด. อันจะถือว่าโจทก์ไม่นำพาต่อคดีของตน.
เมื่อโจทก์หาทนายได้แล้ว แต่บังเอิญทนายติดว่าความในคดีอื่นซึ่งนัดไว้ก่อน. ย่อมเป็นกรณีที่มีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้. กรณีที่ทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก แม้โจทก์จะยังมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้.แต่ตามพฤติการณ์แห่งคดีไม่มีเหตุที่จะแสดงว่าโจทก์แกล้งประวิงคดี. และประกอบกับเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ย่อมมีเหตุสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้เลื่อนคดีไปได้.
โจทก์ตั้งทนายโดยทำเป็นหนังสือลงลายมือโจทก์และทนายโจทก์แล้วยื่นต่อศาล. โดยให้ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ให้มายื่นคำร้องขอเลื่อนคดียื่นใบแต่งทนายพร้อมคำร้องนั้น. และศาลได้สั่งใบแต่งทนายรวมไว้ในสำนวนแล้ว. ย่อมถือได้ว่าทนายซึ่งโจทก์ตั้ง เป็นทนายของโจทก์แล้ว.
เมื่อโจทก์หาทนายได้แล้ว แต่บังเอิญทนายติดว่าความในคดีอื่นซึ่งนัดไว้ก่อน. ย่อมเป็นกรณีที่มีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้. กรณีที่ทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก แม้โจทก์จะยังมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้.แต่ตามพฤติการณ์แห่งคดีไม่มีเหตุที่จะแสดงว่าโจทก์แกล้งประวิงคดี. และประกอบกับเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ย่อมมีเหตุสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้เลื่อนคดีไปได้.
โจทก์ตั้งทนายโดยทำเป็นหนังสือลงลายมือโจทก์และทนายโจทก์แล้วยื่นต่อศาล. โดยให้ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ให้มายื่นคำร้องขอเลื่อนคดียื่นใบแต่งทนายพร้อมคำร้องนั้น. และศาลได้สั่งใบแต่งทนายรวมไว้ในสำนวนแล้ว. ย่อมถือได้ว่าทนายซึ่งโจทก์ตั้ง เป็นทนายของโจทก์แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1047/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกันตัวระหว่างฎีกาและการปรับนายประกัน: ศาลพิจารณาโทษจำคุกและปรับควบคู่กันได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงถึงตลอดชีวิต และปรับไม่เกิน 40,000 บาท ให้จำคุกจำเลย 7 ปี และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ด้วย จำเลยฎีกาและร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาศาลอนุญาตให้ประกัน ตีราคา 100,000 บาท การปล่อยชั่วคราวโดยให้ประกันตัวจำเลยระหว่างฎีกาเป็นราคา 100,000 บาท ในกรณีเช่นนี้ ไม่เป็นการเรียกประกันเกินควรและไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 28 แต่อย่างไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีเนื่องจากทนายป่วย: ศาลต้องพิจารณาเหตุจำเป็นและไม่ถือว่าประวิงคดีหากมีเหตุผล
วันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนมายื่นคำร้องขอเลื่อนการนั่งพิจารณา โดยไม่มีพยานมาศาล จำเลยคัดค้านว่า โจทก์ขอเลื่อนเพื่อประวิงคดี แต่ไม่ได้คัดค้านว่าทนายโจทก์ไม่ป่วยเจ็บจริง แม้ทนายโจทก์จะส่งใบรับรองแพทย์ภายหลัง ก็ถือไม่ได้ว่าทนายโจทก์ไม่ป่วยเจ็บจริง ความเจ็บป่วยของทนายความถือเป็นกรณีที่มีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ ศาลต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 โดยสั่งเลื่อนคดีต่อไปได้อีกครั้งเดียวเท่านั้น มีกำหนดไม่เกินหนึ่งเดือน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีเนื่องจากทนายป่วย: ศาลต้องพิจารณาเหตุจำเป็นและไม่ถือว่าประวิงคดีทันที
วันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนมายื่นคำร้องขอเลื่อนการนั่งพิจารณา โดยไม่มีพยานมาศาลจำเลยคัดค้านว่า โจทก์ขอเลื่อนเพื่อประวิงคดี แต่ไม่ได้คัดค้านว่าทนายโจทก์ไม่ป่วยเจ็บจริง แม้ทนายโจทก์จะส่งใบรับรองแพทย์ภายหลัง ก็ถือไม่ได้ว่าทนายโจทก์ไม่ป่วยเจ็บจริง ความเจ็บป่วยของทนายความถือเป็นกรณีที่มีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ ศาลต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 โดยสั่งเลื่อนคดีต่อไปได้อีกครั้งเดียวเท่านั้น มีกำหนดไม่เกินหนึ่งเดือน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีเนื่องจากทนายป่วย: ศาลต้องพิจารณาเหตุจำเป็นและไม่ถือว่าประวิงคดีหากมีเหตุผล
วันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนมายื่นคำร้องขอเลื่อนการนั่งพิจารณา โดยไม่มีพยานมาศาล. จำเลยคัดค้านว่า โจทก์ขอเลื่อนเพื่อประวิงคดี. แต่ไม่ได้คัดค้านว่าทนายโจทก์ไม่ป่วยเจ็บจริง. แม้ทนายโจทก์จะส่งใบรับรองแพทย์ภายหลัง ก็ถือไม่ได้ว่าทนายโจทก์ไม่ป่วยเจ็บจริง. ความเจ็บป่วยของทนายความถือเป็นกรณีที่มีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้. ศาลต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 โดยสั่งเลื่อนคดีต่อไปได้อีกครั้งเดียวเท่านั้น มีกำหนดไม่เกินหนึ่งเดือน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมที่ยกสินบริคณห์ให้ผู้อื่น ศาลพิจารณาความสมบูรณ์ของพินัยกรรมเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับสินบริคณห์
โจทก์ฟ้องว่า ผู้ตายซึ่งเป็นสามีโจทก์ทำพินัยกรรมในขณะมีสติไม่สมบูรณ์ เพราะได้เอาสินบริคณห์หลายอย่างไปยกให้จำเลย ขอให้พิพากษาทำลายพินัยกรรมทั้งฉบับ
ศาลฎีกาฟังว่า ผู้ตายทำพินัยกรรมโดยมีสติสมบูรณ์ แต่จำเลยให้การรับว่ามีทรัพย์รายการหนึ่งที่เป็นสินบริคณห์ระหว่างผู้ตายกับโจทก์ ดังนี้ ย่อมพิพากษาว่าพินัยกรรมเฉพาะส่วนในรายการนั้นที่เป็นของโจทก์ไม่สมบูรณ์ได้
ศาลฎีกาฟังว่า ผู้ตายทำพินัยกรรมโดยมีสติสมบูรณ์ แต่จำเลยให้การรับว่ามีทรัพย์รายการหนึ่งที่เป็นสินบริคณห์ระหว่างผู้ตายกับโจทก์ ดังนี้ ย่อมพิพากษาว่าพินัยกรรมเฉพาะส่วนในรายการนั้นที่เป็นของโจทก์ไม่สมบูรณ์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตั้งผู้พิทักษ์: ศาลพิจารณาความเหมาะสมของผู้ดูแลผลประโยชน์คนเสมือนไร้ความสามารถ ไม่จำกัดเฉพาะบุคคลตามกฎหมาย
บุคคลที่ศาลจะตั้งให้เป็นผู้พิทักษ์นั้นไม่จำต้องเป็นบุคคลตามที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 29 ในการตั้งผู้พิทักษ์นั้น ศาลพิจารณาว่าผู้ใดเหมาะสมที่จะเป็นผู้พิทักษ์ได้ตามที่เห็นสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตั้งผู้พิทักษ์: ศาลพิจารณาความเหมาะสมของผู้พิทักษ์ ไม่จำกัดเฉพาะบุคคลตาม กม.แพ่ง มาตรา 29
บุคคลที่ศาลจะตั้งให้เป็นผู้พิทักษ์นั้นไม่จำต้องเป็นบุคคลตามที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 29 ในการตั้งผู้พิทักษ์นั้น ศาลพิจารณาว่าผู้ใดเหมาะสมที่จะเป็นผู้พิทักษ์ได้ตามที่เห็นสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแต่งตั้งผู้พิทักษ์: ศาลพิจารณาความเหมาะสมของผู้ดูแลผลประโยชน์ผู้บกพร่อง โดยไม่จำกัดเฉพาะบุคคลตามกฎหมาย
บุคคลที่ศาลจะตั้งให้เป็นผู้พิทักษ์นั้นไม่จำต้องเป็นบุคคลตามที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 29. ในการตั้งผู้พิทักษ์นั้น ศาลพิจารณาว่าผู้ใดเหมาะสมที่จะเป็นผู้พิทักษ์ได้ตามที่เห็นสมควร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 929/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทสิทธิในที่ดินและผลกระทบต่อสิทธิรับเงินค่าเวนคืน ศาลพิจารณาเป็นคดีที่คำนวณราคาเงินได้
โจทก์อ้างว่า จำเลยได้ทำสัญญาโอนสิทธิครอบครองที่ดินรวม 5 โฉนดและสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์ด้วยการส่งมอบที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พร้อมทั้งตราสารแห่งสิทธิให้โจทก์ ต่อมาจำเลยได้บอกเลิกสัญญาโอนสิทธิ ขอให้ศาลพิพากษาว่าสัญญาโอนสิทธิครอบครองใช้ได้ตามกฎหมาย จำเลย ไม่มีสิทธิเพิกถอน ห้ามมิให้จำเลยขัดขวางในการที่โจทก์จะใช้สิทธิบนอสังหาริมทรัพย์ จำเลยต่อสู้ว่ากรรมสิทธิในที่ดินยังเป็นของจำเลย ดังนี้จึงเห็นได้ว่าข้อพิพาทในคดีคือที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามฟ้องเป็นของโจทก์ หรือของจำเลย ถึงแม้คำขอท้ายฟ้องโจทก์จะมิได้บ่งชัดขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินก็ตาม หากศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีโจทก์ก็เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กับมีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนต่อไป ดังนี้ จึงเป็นคดีที่คำขอปลดเปลื้องทุกข์อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150 ถึงแม้ว่ากรรมสิทธิ์ที่ดินที่พิพาทจะถูกเวนคืนแล้วก็ตาม ก็จำต้องพิจารณาว่าโจทก์หรือจำเลยเป็นเจ้าของ อันมีสิทธิรับเงินค่าทดแทนอยู่นั่นเอง