พบผลลัพธ์ทั้งหมด 206 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกล้างนิติกรรมซื้อขายที่ดินโดยภรรยาที่ใช้เงินสินบริคณห์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากสามี เกินกำหนด 1 ปี
ภรรยาเอาเงินสินบริคณห์ระหว่างตนกับสามี ไปชำระราคาที่ดินตามสัญญาจะซื้อขายแล้วให้หลานเป็นผู้รับซื้อที่ดิน ทำนิติกรรมซื้อขายและโอนโฉนดแก้ทะเบียนลงชื่อหลานเป็นผู้ซื้อ โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือความยินยอมจากสามีเมื่อสามีทราบแล้ว ไม่ได้บอกล้างเสียภายในกำหนดเวลา 1 ปี นับจากวันทราบแล้ว ก็จะบอกล้างในภายหลังไม่ได้ (คดีมีปัญหาฉะเพาะโจทก์บอกล้างเกิน 1 ปีหรือไม่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภริยาสิทธิทำพินัยกรรมทรัพย์สินเดิม สามีไม่ต้องยินยอม
ภริยามีสิทธิทำพินัยกรรมยกทรัพย์อันเป็นสินเดิมของตนให้บุคคลอื่น โดยไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากสามี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินที่ได้มาหลังแต่งงานถือเป็นสินสมรส การโอนโดยไม่ยินยอมสามีเป็นโมฆียะ
หญิงที่ทำนาของบิดามารดามาก่อนแต่ได้รับโอนโฉนดใส่ชื่อตนเมื่อภายหลังได้กับสามี ดังนี้ถือว่าที่ดินนั้นเป็นสินสมรสและสินบริคนห์ หากภรรยาเอาไปโอนโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมด้วยนิติกรรมเป็นโมฆียะ เมื่อสามีบอกล้างแล้วเป็นโมฆะ และสามีย่อมฟ้องทำลายสัญญาโอนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องภริยาเรียกค่าเลี้ยงดูจากสามี กรณีหนี้เกิดจากการอุปการะเลี้ยงดูครอบครัว
ภริยาขอหย่าขาดจากสามีเมื่อมีหนี้อันเกี่ยวกับค่าอุปการะเลี้ยงดู เช่นต้องไปซื้อเชื่อสิ่งของและกู้ยืมเงินผู้มีชื่อมาใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นกับการครองชีพของตัวภริยาและบุตรซึ่งสามีมี ีหน้าที่ต้องรับผิด และเมื่อภริยาเรียกร้องให้สามีชำระ, สามีก็ไม่ชำระให้ดังนี้ย่อมตกเป็นภาระแก่ภริยา, ภริยาย่อมขอให้ศาลแสดงว่าสามีมีหน้าที่จะต้องรับผิดชำระหนี้ดังกล่าวได้ และศาลก็พิพากษาให้สามีมีหน้าที่ต้องรับผิดในหนี้ตามจำนวนที่ภริยาฟ้องมานั้นได้
ในกรณีดังกล่าวนี้ภริยาจะฟ้องแทนเจ้าหนี้โดยเจ้าหนี้ไม่ได้มอบอำนาจให้ไม่ได้หรือจะฟ้องให้สามีชำระหนี้แก่ภริยาเพื่อภริยาจะได้นำไปชำระแก่เจ้าหนี้ก็ไม่ได้
ในกรณีดังกล่าวนี้ภริยาจะฟ้องแทนเจ้าหนี้โดยเจ้าหนี้ไม่ได้มอบอำนาจให้ไม่ได้หรือจะฟ้องให้สามีชำระหนี้แก่ภริยาเพื่อภริยาจะได้นำไปชำระแก่เจ้าหนี้ก็ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภริยาไม่ต้องรับผิดร่วมในหนี้สินของสามีที่ก่อขึ้นระหว่างสมรส เว้นแต่เป็นหนี้ร่วม
หนี้สินที่จำเลยผู้เป็นสามีก่อขึ้นในระหว่างที่จำเลยกับผู้ร้องยังเป็นสามีภริยากันอยู่เมื่อใช้ ป.ม.แพ่งฯ บรรพ 5 แล้วนั้นผู้ซึ่งเป็นภริยาจะต้องรับผิดร่วมด้วยหรือไม่นั้นได้มีคำพิพากษาฎีกาที่ 1045/1484 วินิจฉัยไว้เป็นแบบอย่างไว้แล้วว่าภริยาไม่ต้องรับผิดร่วมด้วยเว้นแต่หนี้นั้นจะเป็นหนี้ร่วม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภริยาไม่ต้องรับผิดในหนี้สินสามีที่ก่อขึ้นระหว่างสมรส เว้นแต่เป็นหนี้ร่วม
หนี้สินที่จำเลยผู้เป็นสามีก่อขึ้นในระหว่างที่จำเลยกับผู้ร้องยังเป็นสามีภริยากันอยู่เมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แล้วนั้นผู้ร้องซึ่งเป็นภริยาจะต้องรับผิดร่วมด้วยหรือไม่นั้น ได้มีคำพิพากษาฎีกาที่ 1045/2484 วินิจฉัยไว้เป็นแบบอย่างไว้แล้วว่า ภริยาไม่ต้องรับผิดร่วมด้วยเว้นแต่หนี้นั้นจะเป็นหนี้ร่วม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1184/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายสินบริคณห์โดยภรรยาโดยไม่ได้รับความยินยอมจากสามี การซื้อขายต่อโดยผู้ซื้อที่สุจริต ทำให้ผู้ซื้อได้กรรมสิทธิ
ภรรยาเอาที่ดินอันเป็นสินบริคณห์ไปขาย ผู้ซื้อรับซื้อไว้แล้วไปขายต่ออีกทีหนึ่งโดยทำนิติกรรมซื้อขายกันที่อำเภอทั้งสองครั้งเมื่อการซื้อขายครั้งที่ 2 เป็นไปโดยสุจริตแล้ว ผู้รับซื้อย่อมได้กรรมสิทธิในที่ดินนั้น สามีผู้ขายจะมาขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายระหว่างผู้รับซื้อคนแรกกับผู้รับซื้อคนหลังไม่ได้และจะเรียกเอาที่ดิน กลับคืนก็ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1814/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติของสามีที่ถือภริยาเป็นเพียงนางบำเรอ ถือเป็นการปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยาอย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้หย่าได้
โจทก์ซึ่งเป็นภริยาฟ้องหย่าขาดจากจำเลย อ้างเหตุว่าไม่อุปการะเลี้ยงดูตามสมควรและทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยาอย่างร้ายแรง ได้ความว่าจำเลยถือว่าโจทก์เป็นนางบำเรอโดยซื้อมาและยังยืนยันให้การเช่นนั้นตลอดมา ดังนี้ถือว่า ที่จำเลยถือเอาฐานะโจทก์เป็นดังนั้น เป็นการปฏิบัติที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยาอย่างร้ายแรงเพราะมิได้รับและยกย่องโจทก์เป็นภริยา เป็นเหตุให้หย่าได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1553/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สินสมรสและการบอกล้างหนี้: สามีมิอาจเรียกเงินคืนจากจำเลยได้ หากไม่ยินยอมการยืม
ภรรยาไปยืนเงินของโจทก์มาวางมัดจำซื้อที่ดินของจำเลย โดยสามีไม่ได้รู้เห็นยินยอมด้วย กับทั้งยังปฏิเสธหรือบอกล้างการยืมนั้นเสียด้วย ดังนี้ สามีจะกลับมาถือว่าเงินที่ภรรยายืมโจทก์มานั้นยังเป็นสินบริคณห์อยู่ เพื่อเรียกคืนจากจำเลยไม่ได้ และเมื่อสามีไม่มีสิทธิเรียกร้องคืนจากจำเลย โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องจากสามี ก็ย่อมไม่มีสิทธิดีไปกว่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1177/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเลือกที่อยู่ของสามีและผลต่อการฟ้องหย่า
การเลือกที่อยู่ตามกฎหมายสามีเป็นผู้เลือก
สามีเลือกที่อยู่โดยจะไปอยู่กินที่บ้านของบิดามารดาของสามี ภรรยาไม่ยอมไปเอง ดังนี้ภรรยาจะมาฟ้องขอหย่าขาดจากการเป็นสามีภรรยา ย่อมไม่ได้.
สามีเลือกที่อยู่โดยจะไปอยู่กินที่บ้านของบิดามารดาของสามี ภรรยาไม่ยอมไปเอง ดังนี้ภรรยาจะมาฟ้องขอหย่าขาดจากการเป็นสามีภรรยา ย่อมไม่ได้.