คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สามีภริยา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 238 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ร่วมสามีภริยาบังคับคดีได้แม้สามีล้มละลาย โจทก์มีสิทธิยึดทรัพย์สินส่วนตัวภริยาชำระหนี้
จำเลยสองสามีภริยาต้องคำพิพากษาให้ร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ แม้โจทก์จะร้องขอรับชำระหนี้ในคดีที่สามีถูกฟ้องล้มละลายแล้ว หากโจทก์ยังได้รับชำระไม่ครบ โจทก์ย่อมขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาเอาแก่ทรัพย์สินของภริยาได้ต่อไปจนครบถ้วน
ในกรณีสามีภริยาต้องรับผิดใช้หนี้ร่วมกัน กฎหมายบัญญัติให้ใช้จากสินบริคณห์และสินส่วนตัวของทั้งสองฝ่าย
สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายสินบริคณห์ย่อมแยกจากกันโดยอำนาจกฎหมายนับแต่วันที่ศาลพิพากษาให้ล้มละลายนั้น เป็นหน้าที่ของอีกฝ่ายที่จะต้องขอกันส่วนของตนไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ร่วมสามีภริยาและการบังคับคดีต่อสินส่วนตัวหลังล้มละลาย
จำเลยสองสามีภริยาต้องคำพิพากษาให้ร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์. แม้โจทก์จะร้องขอรับชำระหนี้ในคดีที่สามีถูกฟ้องล้มละลายแล้ว. หากโจทก์ยังได้รับชำระไม่ครบ. โจทก์ย่อมขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาเอาแก่ทรัพย์สินของภริยาได้ต่อไปจนครบถ้วน.
ในกรณีสามีภริยาต้องรับผิดใช้หนี้ร่วมกัน. กฎหมายบัญญัติให้ใช้จากสินบริคณห์และสินส่วนตัวของทั้งสองฝ่าย.
สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย.สินบริคณห์ย่อมแยกจากกันโดยอำนาจกฎหมายนับแต่วันที่ศาลพิพากษาให้ล้มละลายนั้น. เป็นหน้าที่ของอีกฝ่ายที่จะต้องขอกันส่วนของตนไว้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 866/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบในคดีหนี้ร่วมสามีภริยา: โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าเป็นหนี้ร่วมตามมาตรา 1482
โจทก์เป็นผู้กล่าวอ้างว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ไปใช้จ่ายในครอบครัว เป็นหนี้ร่วมระหว่างจำเลยกับผู้ร้องซึ่งเป็นสามีภริยากัน แม้จะเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นขณะที่จำเลยกับผู้ร้องเป็นสามีภริยากัน แต่หนี้ที่จะเกิดขึ้นแก่สามีหรือภริยาในระหว่างที่เป็นสามีภริยากันย่อมมีหลายชนิดด้วยกัน และเฉพาะแต่หนี้บางชนิดตามที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1482 เท่านั้น จึงจะเป็นหนี้ร่วม ฉะนั้น เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่าหนี้รายนี้เป็นหนี้ร่วมเพื่อจะให้ผู้ร้องต้องรับผิดใช้หนี้จากสินสมรสและสินเดิม โจทก์ต้องมีหน้าที่นำสืบก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 866/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบในคดีหนี้ร่วมระหว่างสามีภริยา: โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าเป็นหนี้ร่วมตามมาตรา 1482
โจทก์เป็นผู้กล่าวอ้างว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ไปใช้จ่ายในครอบครัว เป็นหนี้ร่วมระหว่างจำเลยกับผู้ร้องซึ่งเป็นสามีภริยากัน แม้จะเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นขณะที่จำเลยกับผู้ร้องเป็นสามีภริยากัน แต่หนี้ที่จะเกิดขึ้นแก่สามีหรือภริยาในระหว่างที่เป็นสามีภริยากันย่อมมีหลายชนิดด้วยกันและเฉพาะแต่หนี้บางชนิดตามที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1482 เท่านั้น จึงจะเป็นหนี้ร่วม ฉะนั้น เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่าหนี้รายนี้เป็นหนี้ร่วมเพื่อจะให้ผู้ร้องต้องรับผิดใช้หนี้จากสินสมรสและสินเดิม โจทก์ต้องมีหน้าที่นำสืบก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมทรัพย์สินจากการอยู่กินฉันสามีภริยา แม้ภริยาเดิมยังไม่หย่าขาด
ผู้ตายมีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่ก่อน ต่อมาภริยาได้แยกร้างไปอยู่ต่างหากโดยมิได้หย่าขาดจากกัน โจทก์ผู้ตายจึงมาอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา โดยมิชอบด้วยกฎหมาย โจทก์กับผู้ตายได้ช่วยกันทำมาหากินโดยภริยาเก่ามิได้มาร่วมปะปนด้วย โจทก์ได้นำทรัพย์ของโจทก์มาให้ผู้ตายหาดอกผล และได้ทำการค้าขาย ช่วยผู้ตายเก็บค่าเช่าดังนี้ ถือได้ว่าผู้ตายและโจทก์ทำมาหาได้ร่วมกัน จึงเป็นเจ้าของร่วมและมีส่วนเท่ากัน เมื่อผู้ตายตายภรรยาเก่าจึงไม่มีสิทธิในทรัพย์ส่วนที่เป็นของภรรยาใหม่แต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1492/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาที่ไม่จดทะเบียนสมรส
ทรัพย์พิพาทเป็นของร่วมกันระหว่างจำเลยกับผู้ร้อง แม้จำเลยกับผู้ร้องจะเป็นสามีภริยากันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส ทรัพย์ที่ทำมาหาได้ในระหว่างอยู่กินด้วยกัน ก็ต้องถือว่าคนทั้งสองมีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิที่จะร้องขอให้ถอนการยึดทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1492/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สินที่ได้มาขณะอยู่กินเป็นสามีภริยา แม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส
ทรัพย์พิพาทเป็นของร่วมกันระหว่างจำเลยกับผู้ร้อง แม้จำเลย กับผู้ร้องจะเป็นสามีภริยากันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส ทรัพย์ที่ ทำมาหาได้ในระหว่างอยู่กินด้วยกัน ก็ต้องถือว่าคนทั้งสอง มีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิที่จะร้องขอให้ถอนการยึดทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเป็นสามีภริยาและสิทธิในมรดกก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง - กฎหมายลักษณะผัวเมีย
ได้เสียเป็นสามีภริยากันก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 และบรรพ 6 ความเป็นสามีภริยาและบุตรต้องบังคับตามกฎหมายลักษณะผัวเมีย ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะนั้น เมื่อได้ความว่าชายหญิงได้อยู่กินเป็นสามีภริยาโดยเปิดเผยเป็นที่รู้กันทั่ว ๆ ไปว่าเป็นสามีภริยากัน ก็ถือได้ว่าเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย บุตรที่เกิดมาจึงเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของสามี ย่อมมีสิทธิรับมรดกของสามี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเป็นสามีภริยาและสิทธิบุตรก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง: การบังคับใช้กฎหมายลักษณะผัวเมีย
ได้เสียเป็นสามีภริยากันก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 และบรรพ 6 ความเป็นสามีภริยาและบุตรต้องบังคับตามกฎหมายลักษณะผัวเมียซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะนั้น เมื่อได้ความว่าชายหญิงได้อยู่กินเป็นสามีภริยาโดยเปิดเผยเป็นที่รู้กันทั่วๆไปว่าเป็นสามีภริยากัน ก็ถือได้ว่าเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย บุตรที่เกิดมาจึงเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของสามี ย่อมมีสิทธิรับมรดกของสามี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดจากการเป็นสามีภริยา, การกลับมาอยู่กินกันโดยไม่จดทะเบียนสมรส, และสิทธิในมรดก
ข้อเท็จจริงที่ศาลล่างวินิจฉัยมา เมื่อมิได้อุทธรณ์คัดค้านหรือมิได้แก้อุทธรณ์โต้แย้งไว้โดยชัดแจ้ง อันจะให้ถือได้ว่าได้ตั้งประเด็นคัดค้านไว้ ข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงต้องฟังเป็นยุติ จะฎีกาโต้เถียงต่อไปมิได้
โจทก์กับสามีเป็นสามีภริยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ต่อมาสามีโจทก์ถูกจำคุก โจทก์ก็ไปมีสามีใหม่และมีบุตรด้วยกัน เมื่อสามีโจทก์พ้นโทษก็ได้ภรรยาใหม่และมีบุตรด้วยกัน ดังนี้ เป็นการแสดงออกชัดแจ้งว่าต่างสมัครใจสละละทิ้งกันแล้ว ย่อมขาดจากการเป็นสามีภริยากันตามกฎหมายลักษณะผัวเมียบทที่ 51 ซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้น โดยไม่จำต้องทำพิธีหย่า เมื่อภรรยาใหม่ของสามีตาย โจทก์ได้กลับมาอยู่กินกับสามีอีกเป็นเวลาภายหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แล้ว โดยมิได้จดทะเบียนสมรส โจทก์จึงไม่เป็นภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายของสามี ไม่มีสิทธิรับมรดก
ทรัพย์ที่สามีได้มาก่อนที่โจทก์จะกลับมาอยู่กินกับสามีและทรัพย์ที่สามีโจทก์ได้รับมรดกมาเมื่อโจทก์ได้มาอยู่กินกับสามีครั้งหลัง ไม่ใช่ทรัพย์สินที่โจทก์กับสามีร่วมกันทำมาหาได้โจทก์ไม่มีส่วนเป็นเจ้าของร่วม
of 24