คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สินค้า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 242 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1049/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนแบบสลากปิดผ้าและการโฆษณาเปรียบเทียบสินค้า ถือเป็นการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม
โจทก์ได้เลียนแบบลายกนกสลากปิดผ้าโสร่งของจำเลยที่ 1 โดยจงใจที่จะลวงประชาชนให้หลงเชื่อว่าสินค้าผ้าโสร่งของโจทก์เป็นของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 เสียหาย การที่จำเลยนำสลากปิดผ้าของจำเลยที่ 1 ปิดในใบปลิวซึ่งประทับตราห้างของจำเลยที่ 1 คู่กับสลากปิดผ้าของโจทก์ เขียนข้อความข้างสลากของจำเลยที่ 1 ว่า "แท้" ข้างสลากของโจทก์ว่า "เทียม" และทำเครื่องหมายกากบาทไว้บนสลากของโจทก์ด้วย ส่งไปให้ประชาชนและร้านค้าผ้า เพียงเพื่อให้ผู้รับใบปลิวเข้าใจได้ถูกต้องวา สลากปิดผ้าของจำเลยที่ 1 คือสลากปิดผ้าที่มีคำว่า "แท้" อยู่ข้าง ๆ ส่วนสลากปิดผ้าที่มีคำว่า "เทียม" อยู่ข้าง ๆ นั้นเป็นสลากของเทียม ไม่ใช่ของแท้ของจำเลยที่ 1 เป็นการเกี่ยวกับสลากปิดผ้าของจำเลยที่ 1 ไปตามความจริงเพื่อให้ผู้จะซื้อผ้าโสร่งปาเต๊ะของจำเลยที่ 1 ทราบจะได้เข้าใจถูกต้อง มิใช่เป็นการกล่าวทับถมว่าผ้าโสร่งปาเต๊ะของโจทก์มีคุณภาพเลวและไม่ควรซื้อแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยทั้งสองยังไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ไม่เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 639/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความสิทธิเรียกร้องค่าสินค้า: หินทรายส่งมอบรายเดือน ชำระภายใน 7 วัน นับจากสิ้นเดือน
จำเลยซื้อหินและทรายจากโจทก์ ตกลงกันว่า หินและทรายที่โจทก์ส่งให้นั้นถึงสิ้นเดือนจึงจะคิดบัญชีกันครั้งหนึ่งและจำเลยจะต้องชำระราคาภายใน 7 วัน นับแต่วันคิดบัญชี ดังนี้ สิทธิเรียกร้องให้ชำระราคาของโจทก์ย่อมจะเกิดขึ้นในวันสิ้นเดือนของแต่ละเดือนและสิทธิเรียกร้องดังกล่าวนั้น โจทก์จะต้องฟ้องเรียกร้องเสียภายในกำหนด สองปี มิฉะนั้นเป็นอันขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2081/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนเครื่องหมายการค้า: พิจารณาความแตกต่างของชื่อและลักษณะสินค้าเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด
เครื่องหมายการค้าของโจทก์คือ GQ ของจำเลยใช้ RQ และมีอักษรกำกับว่า ROSEQUEEN บอกที่ผลิต ไม่ทำให้หลงว่าเป็นสินค้าของโจทก์ ไม่เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 274

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งสินค้าเมื่อความเสียหายเกิดจากความผิดของผู้ส่งหรือผู้รับขน
โจทก์รับประกันวินาศภัยเยื่อกระดาษไว้จากบริษัท ต. ในการขนส่งเยื่อกระดาษจากสหรัฐจนถึงคลังสินค้าในประเทศไทยเรือเดินสมุทรได้บรรทุกเยื่อกระดาษมาถึงประเทศไทยแล้วบริษัท ต. ได้ว่าจ้างจำเลยเอาเรือฉลอมบรรทุกเยื่อกระดาษจากเรือเดินสมุทรไปส่งที่ท่าเรือโรงงานกระดาษโดยบริษัท ต. มีหน้าที่ขนเยื่อกระดาษขึ้นจากเรือฉลอมเอง ดังนี้จำเลยจึงมีหน้าที่เพียงขนเยื่อกระดาษจากเรือเดินสมุทรมาเทียบท่าเรือโรงงานกระดาษเท่านั้น เมื่อได้ความว่าเรือฉลอมบรรทุกเยื่อกระดาษมาเทียบท่าเรือโรงงานกระดาษตั้งแต่เวลา 11.00 น.เศษ แต่คนงานมิได้มาขนเยื่อกระดาษขึ้นจากเรือฝ่ายจำเลยได้ไปเตือนและเร่งรัดแล้วพวกคนงานก็ยังไม่มาจนกระทั่งค่ำระหว่างนี้น้ำลงเรื่อยๆ ทำให้เรือเกยตื้นในลักษณะหัวเรือสูงท้ายเรือต่ำเพราะพื้นแม่น้ำตรงนั้นไม่เรียบครั้นเวลาราวเที่ยงคืนมีคนงานมาขนเยื่อกระดาษส่วน.หนึ่งที่อยู่ตอนหัวเรือต่อมาน้ำเริ่มขึ้นแต่เนื่องจากน้ำหนักถ่วงอยู่ทางท้ายเรือเรือจึงไม่ลอย น้ำเข้าเรือทำให้เรือจมลงเยื่อกระดาษที่บรรทุกเสียหายพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าถ้าคนงานมาขนเยื่อกระดาษขึ้นเสียตั้งแต่โอกาสแรกก็จะขนเยื่อกระดาษขึ้นได้หมดเพราะใช้เวลาเพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้นเรือก็จะไม่จม จึงถือได้ว่าการสูญหายหรือบุบสลายเกิดเพราะความผิดของบริษัท ต.ผู้ส่งจำเลยผู้ขนส่งจึงไม่ต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616 แม้โจทก์จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่บริษัท ต. ไปก็จะเรียกค่าเสียหายจากจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2605/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความสัญญาซื้อขายสินค้า: สิทธิเรียกร้องของผู้ประกอบอุตสาหกรรมที่จำหน่ายสินค้าโดยมิได้ผลิตเอง
โจทก์แต่งตั้งให้จำเลยเป็นตัวแทนจำหน่ายปูนซีเมนต์ โดยจำเลยต้องซื้อปูนซีเมนต์จากโจทก์ตามราคาที่กำหนดไว้ และชำระเงินตามราคาให้ภายในกำหนด 60 วันนับจากวันรับสินค้าไป จำเลยจะนำสินค้าไปขายได้หรือไม่ กำไรหรือขาดทุนเป็นเรื่องของจำเลย โจทก์ไม่เกี่ยวข้อง ดังนี้ มีลักษณะเป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด จำเลยจึงหาใช่ตัวแทนค้าต่างของโจทก์ไม่
คำว่า "อุตสาหกรรม" หมายถึงกิจการในทางผลิตสิ่งของเพื่อให้เป็นสินค้าขึ้น การที่จำเลยรับปูนซีเมนต์จากโจทก์ผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมไปจำหน่ายหาผลกำไรเป็นปกติธุระมิได้นำไปผลิตสิ่งของเพื่อให้เป็นสินค้าอันเป็นการที่ได้ทำเพื่ออุตสาหกรรม กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นให้ใช้อายุความห้าปีตามความในมาตรา 165 วรรคสุดท้าย สิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงมีอายุความ 2 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1988/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนแบบเครื่องหมายการค้าและสินค้า การคุ้มครองสิทธิในเครื่องหมายการค้า
โจทก์ผลิตขนมชนิดต่างๆ ออกจำหน่าย ใช้คำประดิษฐ์ ไกวไกว เป็นเครื่องหมายการค้ามาก่อนจำเลย และได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้ในประเทศต่างๆหลายประเทศแล้ว จำเลยเพิ่งเริ่มผลิตขนมอย่างเดียวกับขนมของโจทก์ออกจำหน่ายทีหลัง และใช้เครื่องหมายการค้าว่า ไกวไกว เช่นเดียวกับโจทก์ ซองที่ใช้บรรจุขนมก็เลียนแบบซองบรรจุขนมของโจทก์ ทั้งคำประดิษฐ์ ไกวไกว ก็ไม่ใช่คำสามัญเช่นนี้ จำเลยเลียนแบบสินค้าและเครื่องหมายการค้าของโจทก์ โจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าที่พิพาทดีกว่าจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัสต์รีซีท: การโอนกรรมสิทธิ์สินค้าเพื่อชำระหนี้ต่างตอบแทน
เอกสารทรัสต์รีซีทที่ผู้สั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศทำให้ไว้แก่ธนาคารโดยยอมให้ธนาคารยึดถือเอกสารดังกล่าวเป็นประกันเพื่อการชำระเงินตามตั๋วเงินและถือกรรมสิทธิ์ในสินค้าที่สั่งซื้อเป็นของธนาคารโดยผู้สั่งซื้อสินค้าจะต้องเอาสินค้านั้นไปจำหน่ายแล้วนำเงินที่ได้จากการขายมาชำระให้ธนาคารผู้ร้อง อันเป็นผลจากการที่ผู้สั่งซื้อสินค้าเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตไว้กับธนาคารในการสั่งซื้อสินค้านั้นเป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดหนึ่ง ซึ่งมีผลผูกพันคู่กรณีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369 วัตถุประสงค์แห่งสัญญาเช่นนี้นอกจากจะก่อให้เกิดสิทธิแก่ธนาคารในฐานะเจ้าหนี้ที่จะเรียกร้องเอาชดใช้ราคาสินค้าแล้วยังเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์เฉพาะสิ่งให้เจ้าหนี้ไปจนกว่าจะมีการชำระราคาแล้วเสร็จตราบใดที่ผู้สั่งสินค้ายังไม่ชำระราคาสินค้าให้แก่ธนาคารก็จะเรียกร้องเอากรรมสิทธิ์ในสินค้าคืนจากธนาคารไม่ได้ กรณีเช่นนี้ธนาคารจึงเป็นทั้งเจ้าหนี้และเจ้าของสินค้าไปพร้อม ๆ กัน
เอกสารทรัสต์รีซีทที่จำเลยทำให้ไว้แก่ธนาคาร ย่อมเป็นการก่อตั้งทรัพยสิทธิ ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1298 กรรมสิทธิ์ในสินค้าที่สั่งซื้อมาจึงตกเป็นของธนาคารไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ธนาคารมีสิทธิโดยสมบูรณ์ที่จะขอให้ปล่อยทรัพย์ที่เจ้าหนี้ของจำเลยยึดไว้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัสต์รีซีทกับการโอนกรรมสิทธิ์ในสินค้า: สิทธิของธนาคารผู้ให้กู้
เอกสารทรัสต์รีซีทที่ผู้สั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศทำให้ไว้แก่ธนาคารโดยยอมให้ธนาคารยึดถือเอกสารดังกล่าวเป็นประกันเพื่อการชำระเงินตามตั๋วเงินและถือกรรมสิทธิ์ในสินค้าที่สั่งซื้อเป็นของธนาคารโดยผู้สั่งซื้อสินค้าจะต้องเอาสินค้านั้นไปจำหน่ายแล้วนำเงินที่ได้จากการขายมาชำระให้ธนาคารผู้ร้อง อันเป็นผลจากการที่ผู้สั่งซื้อสินค้าเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตไว้กับธนาคารในการสั่งซื้อสินค้านั้นเป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดหนึ่ง ซึ่งมีผลผูกพันคู่กรณีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369. วัตถุประสงค์แห่งสัญญาเช่นนี้นอกจากจะก่อให้เกิดสิทธิแก่ธนาคารในฐานะเจ้าหนี้ที่จะเรียกร้องเอาชดใช้ราคาสินค้าแล้วยังเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์เฉพาะสิ่งให้เจ้าหนี้ไปจนกว่าจะมีการชำระราคาแล้วเสร็จตราบใดที่ผู้สั่งสินค้ายังไม่ชำระราคาสินค้าให้แก่ธนาคารก็จะเรียกร้องเอากรรมสิทธิ์ในสินค้าคืนจากธนาคารไม่ได้ กรณีเช่นนี้ธนาคารจึงเป็นทั้งเจ้าหนี้และเจ้าของสินค้าไปพร้อม ๆ กัน
เอกสารทรัสต์รีซีทที่จำเลยทำให้ไว้แก่ธนาคาร ย่อมเป็นการก่อตั้งทรัพย์สิทธิ ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1298 กรรมสิทธิ์ในสินค้าที่สั่งซื้อมาจึงตกเป็นของธนาคารไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ธนาคารมีสิทธิโดยสมบูรณ์ที่จะขอให้ปล่อยทรัพย์ที่เจ้าหนี้ของจำเลยยึดไว้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2842/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ชื่อทางการค้าของผู้อื่นต้องมีเจตนาทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าเดียวกัน จึงจะผิดตามกฎหมาย
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272(1) นั้น การเอาชื่อในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้หรือทำให้ปรากฏที่สินค้าจะเป็นผิดก็ต่อเมื่อการใช้ชื่อนั้นเจตนาเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่น และในการที่จะวินิจฉัยว่าเจตนาเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่นหรือไม่นั้น จะอาศัยคำซึ่งเปล่งเสียงออกมาอย่างเดียวมิได้ จะต้องพิเคราะห์ตัวอักษรถ้อยคำ และลักษณะอื่นๆ ของชื่อนั้นประกอบด้วย
ชื่อสินค้าของโจทก์มีคำว่า "TASTEMODERNFROM U.S.A." ชื่อสินค้าของจำเลยนอกจากมีคำว่า "TASTE"แล้ว ยังมีภาษาไทยว่า " เทสท์ 23 บางลำภู" แสดงว่า เป็นชื่อร้านเทสท์อยู่ที่เลขที่23บางลำพูหาใช่TASTE ซึ่งเป็น MODERNFROMU.S.A.ของโจทก์ไม่ จึงไม่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1181/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรโดยการสำแดงเท็จและนำเข้าสินค้าโดยไม่ผ่านศุลกากร
มีผู้ส่งสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร ณ ท่าอากาศยาน โดยสายการบินของบริษัท อ. จำเลยร่วมกับพวกเพทุบายนำสินค้านั้นเข้ามาเก็บไว้ในคลังสินค้าของบริษัท อ. ในเขตศุลกากรโดยไม่ชอบ และกำลังจะนำสินค้านั้นออกจากคลังสินค้าเพื่อไม่ผ่านศุลกากรให้ถูกต้อง อันเป็นการพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากร โดยเจตนาจะฉ้อค่าภาษีของรัฐบาล แต่เจ้าพนักงานศุลกากรตรวจพบเสียก่อน ดังนี้ จำเลยจึงมี ความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ซึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยฉบับที่ 9 มาตรา 6 และฉบับที่ 11 มาตรา 3 แต่ไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ทวิ ซึ่งเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2499 มาตรา 4 ด้วยเพราะจำเลยไม่ได้รับเอาสินค้านั้นไว้โดยรู้อยู่ว่าเป็นของที่นำเข้ามาโดยหลีกเลี่ยงภาษีอากร
of 25