พบผลลัพธ์ทั้งหมด 183 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1534/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักประกันการชำระหนี้ต้องเป็นการจำนองตามกฎหมาย การยึดใบแจ้งการครอบครองที่ดินมิใช่หลักประกันที่ถูกต้อง
คำว่า "ประกัน" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 155 (2) นั้น หมายความถึงการประกันการชำระหนี้
การที่จะให้อสังหาริมทรัพย์ใดเป็นการประกันการชำระหนี้ได้ ต้องกระทำด้วยวิธีการจำนองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 702, 703 และต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 704
สัญญากู้ยืมเงินที่ระบุไว้ว่าผู้กู้ได้นำใบแจ้งการครอบครองที่ดินสวนยาง 1 แปลง เนื้อที่ 9 ไร่เศษให้ผู้ให้กู้ยึดถือไว้เป็นประกันด้วยนั้น หาใช่เป็นการเอาสวนยางเข้าประกันการชำระหนี้ตามกฎหมายไม่ ฉะนั้น ถ้าผู้กู้ทำนิติกรรมยกสวนบางบางส่วนให้คนอื่นไป จึงถือไม่ได้ว่าลูกหนี้ทำให้ลดน้อยถอยลงซึ่งประกันอันได้ให้ไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 155 (2)
การที่จะให้อสังหาริมทรัพย์ใดเป็นการประกันการชำระหนี้ได้ ต้องกระทำด้วยวิธีการจำนองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 702, 703 และต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 704
สัญญากู้ยืมเงินที่ระบุไว้ว่าผู้กู้ได้นำใบแจ้งการครอบครองที่ดินสวนยาง 1 แปลง เนื้อที่ 9 ไร่เศษให้ผู้ให้กู้ยึดถือไว้เป็นประกันด้วยนั้น หาใช่เป็นการเอาสวนยางเข้าประกันการชำระหนี้ตามกฎหมายไม่ ฉะนั้น ถ้าผู้กู้ทำนิติกรรมยกสวนบางบางส่วนให้คนอื่นไป จึงถือไม่ได้ว่าลูกหนี้ทำให้ลดน้อยถอยลงซึ่งประกันอันได้ให้ไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 155 (2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้และการคืนหลักประกัน: สิทธิของลูกหนี้ในการได้รับคืนหลักประกันเมื่อเสนอชำระหนี้
จำเลยกู้เงินโจทก์ มอบปืนให้ไว้เป็นประกันการชำระหนี้ เมื่อจำเลยเสนอขอชำระหนี้เงินกู้ โจทก์ก็ต้องคืนปืนที่เป็นประกันให้ จะให้จำเลยชำระหนี้เสียก่อน ส่วนปืนจะคืนภายหลังหาได้ไม่ ฉะนั้น เมื่อโจทก์ไม่ยอมคืนปืนก็ถือว่าจำเลยไม่ผิดนัด ยังไม่ต้องชำระหนี้เงินกู้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1014/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงจากการอ้างเท็จเพื่อขอกู้เงิน - เช็คเป็นเพียงหลักประกัน
โจทก์จะให้จำเลยกู้เงินถ้ามีหลักฐานมาประกัน จำเลยจึงพูดอวดอ้างว่าตนมีบัญชีเงินฝากในธนาคารแล้วควักเอาเช็คออกมาเซ็นชื่อให้ โจทก์หลงเชื่อจำเลยในการอวดอ้างแสดงข้อความเท็จนี้ จึงจ่ายเงินให้จำเลยกู้ยืมไปนั้น ดังนี้ เป็นความผิดฐานฉ้อโกงแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลักษณะการกู้เงินที่มีหลักประกัน (ใบรับของคลังสินค้า) และผลกระทบต่อการเป็นเจ้าหนี้มีประกันในคดีล้มละลาย รวมถึงผลของการย้ายที่อยู่เพื่อเลี่ยงหนี้
ทำหนังสือสัญญากู้เงินโจทก์ และรับเงินไปโดยนำใบรับของคลังสินค้ามามอบไว้ดังนี้ เป็นการกู้เงินโดยมีใบรับของคลังสินค้าเป็นประกัน มิใช่จำนำ และต่อมาจำเลยก็นำสินค้านั้นขายไปหมดแล้วโจทก์จึงมิใช่เจ้าหนี้มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 10
จำเลยเป็นหนี้โจทก์ แล้วจำเลยย้ายที่อยู่หลายคราวเป็นการถาวรเมื่อจำเลยย้ายไปโดยไม่แจ้งให้เจ้าหนี้ทราบเวลาโจทก์ฟ้องก็ส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องให้ไม่ได้ ต้องประกาศหนังสือพิมพ์ ดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยได้ไปเสียจากเคหสถานที่เคยอยู่ เพื่อประวิงการชำระหนี้ หรือมิให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ ต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัว ตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา8(4)ข.
จำเลยเป็นหนี้โจทก์ แล้วจำเลยย้ายที่อยู่หลายคราวเป็นการถาวรเมื่อจำเลยย้ายไปโดยไม่แจ้งให้เจ้าหนี้ทราบเวลาโจทก์ฟ้องก็ส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องให้ไม่ได้ ต้องประกาศหนังสือพิมพ์ ดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยได้ไปเสียจากเคหสถานที่เคยอยู่ เพื่อประวิงการชำระหนี้ หรือมิให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ ต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัว ตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา8(4)ข.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1490/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องหนี้และการทำลายหลักประกัน ศาลอนุญาตฟ้องได้เมื่อจำเลยทำลายหลักประกันหนี้
ในฟ้องโจทก์อ้างสิทธิเรียกร้องเงินกู้ เพราะจำเลยไม่มีสิทธิที่จะได้รับประโยชน์แห่งเงื่อนเวลา จำเลยไม่ได้ต่อสู้อย่างใด คงปฏิเสธว่าไม่ได้กู้ไปตามฟ้อง ทั้งปัญหาข้อนี้ไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ดังนี้เกี่ยวกับเรื่องเงื่อนเวลา จึงไม่เป็นประเด็นที่ศาลจะยกขึ้นวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 396/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเงินกู้ที่มีหลักประกันทางที่ดิน: ข้อตกลงที่เป็นโมฆะเมื่อราคาที่ดินสูงเกินกว่าจำนวนเงินกู้
กู้เงินแล้วมอบที่ดินมีโฉนดให้ทำต่างดอกเบี้ย ตกลงกันว่าถ้าไม่ใช้เงินคืนภายใน 3 เดือนโอนที่ดินที่ประกันให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้ให้กู้ดังนี้ เป็นเรื่องสัญญากู้ธรรมดานั่นเอง หาใช่เป็นสัญญาจะซื้อขายที่ดินไม่แม้จะพ้นกำหนด 3 เดือนแล้ว ไม่ใช้เงินคืนก็ตามเมื่อปรากฏว่ากู้กันเพียง 1000 บาท ส่วนที่ดินที่ประกันมีราคา 3000 บาท ผู้ให้กู้จะเอาที่ดินที่ประกันตามสัญญากันไว้ไม่ได้ ข้อตกลงเช่นนี้เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรค 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1021/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกล่าวเท็จเพื่อผัดชำระหนี้ไม่ถึงขั้นฉ้อโกง หากไม่มีการหลอกลวงให้ทำหนังสือสำคัญ
พูดเท็จเพื่อขอผัดชำระหนี้ โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของโรงแรมเครื่องเรือนเครื่องใช้ในโรงแรมขอนำเครื่องเรือนเครื่องใช้ในโรงแรมมาจำนำไว้ แต่ขอยืมเอาไปใช้ก่อน ผู้เสียหายหลงเชื่อและยอมให้ผัดชำระหนี้ ดังนี้ หาเป็นผิดทางอาญาฐานฉ้อโกงไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้เงินโดยใช้สิทธิหุ้นส่วนเป็นหลักประกันก่อนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนไม่ใช่ผู้ค้ำประกัน
ผู้เป็นหุ้นส่วนห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่จดทะเบียนกู้เงินเขามาแม้เขียนในสัญญากู้ว่า "เอาสิทธิหุ้นส่วนของบริษัทพักตรพริ้งซึ่งผู้กู้มีสิทธิเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ครึ่งหนึ่ง" มาเป็นหลักทรัพย์ประกันก็ดี เงินที่กู้มาก็ย่อมเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้กู้โดยส่วนตัว การที่พูดว่าเอาสิทธิหรือหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนมาเป็นประกันเงินกู้ในสัญญากู้ที่ทำกันเองนั้น หาก่อให้เกิดเป็นการจำนำหรือบุริมสิทธิในอันที่จะติดตามไปบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของนิติบุคคล ซึ่งเกิดมาภายหลังนั้นไม่ เมื่อผู้กู้ไม่ชำระเงินจนถูกผู้ให้กู้ฟ้องศาล ศาลบังคับให้ชำระแล้วผู้ให้กู้จะไปยึดทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วน ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในภายหลังนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 510/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้แทนกันและการเรียกร้องสิทธิในที่ดินที่ถูกยึดถือเพื่อเป็นหลักประกัน
บิดากู้เงินผู้อื่นมาแล้วมอบที่นาไว้ให้เขายึดถือทำกินต่างดอกเบี้ยภายหลังบิดาตาย น้าจึงไปชำระเงินกู้และไถ่ถอนที่นาคืนมาจากเจ้าหนี้แทนบุตรดังนี้ บุตรมีอำนาจฟ้องน้า ขอให้รับชำระหนี้เงินกู้และคืนนาให้แก่บุตรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1021/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคืนหลักประกันหลังคดีถึงที่สุด แม้จะมีการอุทธรณ์ระหว่างดำเนินคดี
คดีอาญา เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วต้องคืนหลักประกันแก่ผู้ที่ควรรับไป