พบผลลัพธ์ทั้งหมด 419 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3117/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานมีอาวุธและวัตถุระเบิด หากข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจน ศาลมีอำนาจยกฟ้องได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืนพร้อมด้วยกระสุนปืนกับลูกระเบิดไว้ในครอบครอง เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองซึ่งเป็นความผิดกระทงหนึ่งนั้น กองรวมอยู่กับลูกระเบิดอันเป็นความผิดอีกกระทงหนึ่งที่จำเลยฎีกาขึ้นมาในเมื่อรูปคดียังเป็นที่สงสัยว่าจำเลยอาจจะมิได้มีเจตนายึดถือลูกระเบิดนั้นไว้เพื่อตนและยกประโยชน์ให้จำเลยเช่นนี้ ศาลฎีกามีอำนาจยกฟ้องข้อหาฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนซึ่งเป็นกระทงความผิดที่คู่ความมิได้ฎีกาได้ด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 185
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3109/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กระสุนปืนไม่ใช่ 'อาวุธ' โดยสภาพ การพกพาจึงไม่ผิด ม.371 หากไม่มีเจตนาประทุษร้าย
กระสุนปืนไม่ใช่สิ่งที่เป็นอาวุธโดยสภาพ เมื่อโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่ากระสุนปืนของกลางเป็นสิ่งซึ่งจำเลยได้ใช้ หรือเจตนาจะใช้ประทุษร้ายร่างกายถึงอันตรายสาหัสอย่างอาวุธตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(5) การกระทำของจำเลยตามฟ้องที่บรรยายว่าจำเลยพกกระสุนของกลางไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุสมควรจึงไม่เป็นความผิดตาม มาตรา 371
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3109/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กระสุนปืนไม่ใช่ 'อาวุธ' โดยสภาพ หากไม่ได้ใช้หรือเจตนาประทุษร้าย การพกพาจึงไม่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371
กระสุนปืนไม่ใช่สิ่งที่เป็นอาวุธโดยสภาพ เมื่อโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่ากระสุนปืนของกลางเป็นสิ่งซึ่งจำเลยได้ใช้หรือเจตนาจะใช้ประทุษร้ายร่างกายถึงอันตรายสาหัสอย่างอาวุธตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(5) การกระทำของจำเลยตามฟ้องที่บรรยายว่าจำเลยพกกระสุนปืนของกลางไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุสมควรจึงไม่เป็นความผิดตาม มาตรา 371
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3248/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การยิงสวนเพื่อป้องกันภัยอันตรายจากผู้ที่ถืออาวุธและแสดงท่าทีจะทำร้ายซ้ำ
จำเลยที่ 1 เมาสุราถือปืนคาไบน์ส่งเสียงเอะอะในบริเวณงาน จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตำรวจสถานีเดียวกันยื้อยุดฉุดตัวจำเลยที่ 1 กลับบ้าน ระหว่างนี้เองปืนคาไบน์ในมือจำเลยที่ 1 ลั่นขึ้น 1 นัด กระสุนถูกจำเลยที่2 ที่ท้องทะลุหลัง ปืนลั่นแล้วจำเลยที่ 1 ยังตามเข้าไปเตะจำเลยที่ 2 มีคนเข้าช่วยแย่งปืน ปืนของจำเลยที่ 1 ได้ลั่นขึ้นอีก 1 นัด เป็นเหตุให้ จำเลยที่ 2 เข้าใจในขณะนั้นว่าจำเลยที่ 1 ตามเข้าไปเพื่อจะยิงซ้ำ จำเลยที่ 2 จึงได้ใช้ปืนพกที่มีอยู่ยิงจำเลยที่ 1 ไปในทันทีถูกที่ขาจำเลยที่ 1 ดังนี้ เห็นว่าจำเลยที่ 2 มิใช่ผู้ก่อเหตุและกระทำไปด้วยความสำคัญผิดในข้อเท็จจริงถึงภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และใกล้จะถึงตัว จำเลยที่ 2 มีสิทธิจะป้องกันชีวิตของตนได้ การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 62ประกอบด้วยมาตรา 68
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2737/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธ: การยิงเพื่อป้องกันชีวิตและร่างกาย
ผู้ตายทั้งสองขึ้นไปลักทรัพย์บนเรือในเวลากลางคืนโดยมีพวกหลายคน จำเลยซึ่งเป็นยามเฝ้าเรือร้องถาม ผู้ตายคนหนึ่งชักมีดโถมเข้าจะแทง จำเลยจึงใช้ปืนยิงไปทางผู้ตายหลายนัดในช่วงเวลาอันกระชั้นชิดนั้น ถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2322/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวิวาทและการป้องกันตน: แม้มีอาวุธ การสมัครใจวิวาททำให้การอ้างป้องกันตนไม่สำเร็จ
จำเลยโต้เถียงกับผู้ตายแล้วสมัครใจเข้าวิวาทต่อสู้กันผู้ตายและผู้เสียหายมีอาวุธในมือจะเข้าทำร้ายจำเลย จำเลยยิงผู้ตายและผู้เสียหาย จำเลยอ้างว่าป้องกันไม่ได้
จำเลยโดดขึ้นรถสามล้อเครื่องที่ขับผ่านมาบังคับให้ขับเร็ว ๆ คนขับขับเร็วขึ้นกว่าปกติไม่ได้ เพราะสภาพการจราจรในขณะนั้น เป็นความผิดฐานพยายามซึ่งไม่บรรลุผลตาม มาตรา 309,80
จำเลยโดดขึ้นรถสามล้อเครื่องที่ขับผ่านมาบังคับให้ขับเร็ว ๆ คนขับขับเร็วขึ้นกว่าปกติไม่ได้ เพราะสภาพการจราจรในขณะนั้น เป็นความผิดฐานพยายามซึ่งไม่บรรลุผลตาม มาตรา 309,80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2009/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิ่วข่มขู่ในการปล้นทรัพย์ ศาลตัดสินความผิดฐานปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัว
จำเลยชักสิ่วออกมาขู่จะทำร้ายในการปล้น เป็นการปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวไปตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1776/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมรสที่เกิดจากการข่มขู่ด้วยอาวุธ และการฟ้องเพิกถอนการสมรสเป็นโมฆียะกรรม
ชายมีปืนขู่พาหญิงไปร่วมประเวณีและจดทะเบียนสมรส หญิงเพิกถอนได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1491 วรรค2 เดิม ซึ่งใช้อยู่ในขณะเกิดเหตุ การฟ้องคดีเป็นการบอกล้างโมฆียะกรรมไปในตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1668/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล้นทรัพย์ด้วยอาวุธ: การปรับบทลงโทษที่ถูกต้องและการขยายผลถึงจำเลยที่ไม่ได้ฎีกา
จำเลยมีอาวุธปืนและลูกระเบิดติดตัวไปในการปล้นทรัพย์ และขู่ว่าจะใช้หากเจ้าทรัพย์ขัดขืน โดยไม่ได้ยิงปืนหรือใช้วัตถุระเบิดทำให้เกิดระเบิดขึ้นแต่อย่างใด เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง ฐานปล้นโดยมีอาวุธติดตัวไปด้วยเท่านั้น ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 340 วรรคสี่ และเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 147/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวความผิดเดียวกัน: การฟ้องซ้ำฐานมีอาวุธและพาอาวุธเมื่อเคยถูกตัดสินแล้ว
ความผิดฐานมีอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิดซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงครามนั้น กฎหมายต้องการให้เป็นความผิดในลักษณะเดียวกันฉะนั้น การที่จำเลยมีอาวุธปืนกลและลูกระเบิดไว้ในครอบครองในขณะเดียวกันจึงเป็นความผิดแต่กรรมเดียว ส่วนความผิดฐานพาอาวุธไปในทางสาธารณะนั้น แม้ว่าอาวุธปืนที่จำเลยพาไปจะเป็นปืนกลก็ดี ปืนพกก็ดี ถ้าพาปืนเหล่านั้นไปในขณะเดียวกัน ก็ย่อมเป็นความผิดกรรมเดียวกัน เมื่อจำเลยได้ถูกลงโทษในการกระทำฐานมีอาวุธซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม และในการกระทำฐานพาอาวุธไปในทางสาธารณะเสร็จเด็ดขาดไปแล้วโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องคดีนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)
เมื่อมีเหตุตามกฎหมายที่จำเลยไม่ควรต้องรับโทษในคดีนี้ซ้ำอีก แม้จำเลยจะไม่ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกฟ้องโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 185,215,225
เมื่อมีเหตุตามกฎหมายที่จำเลยไม่ควรต้องรับโทษในคดีนี้ซ้ำอีก แม้จำเลยจะไม่ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกฟ้องโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 185,215,225