พบผลลัพธ์ทั้งหมด 264 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของร่วมในการฟ้องแย่งคืนที่ดิน: เจ้าของร่วมมีสิทธิฟ้องผู้รบกวนการครอบครองที่ดินที่ตนมีสิทธิร่วมกันได้
โจทก์กับพวกร่วมกันยึดถือที่ดินเป็นเจ้าของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของร่วมคนหนึ่งย่อมฟ้องผู้ที่เข้ามารบกวนหรือแย่งที่ดินที่โจทก์กับพวกถือสิทธิเป็นเจ้าของนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 349/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรังวัดสอบเขตที่ดินโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่วม และการแก้ไขโฉนดที่ดินโดยเจ้าพนักงานที่ดินถือเป็นการละเมิด
กระทรวงเกษตราธิการได้ประกาศให้เจ้าของที่ดินในเขตไฟไหม้นำเจ้าพนักงานทำการรังวัดสอบเขตและปักหลักเขตหมายที่ดินใหม่ เจ้าของที่ดินร่วมได้นำเจ้าพนักงานรังวัดสอบเขตโดยเจ้าของที่ดินร่วมอีกผู้หนึ่งมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย การรังวัดสอบเขตจึงเป็นการมิชอบ เมื่อเจ้าพนักงานที่ดินได้ทำการแก้ไขเนื้อที่ดินและผนึกแผนที่หลังโฉนดตามที่รังวัดสอบเขตใหม่ เช่นนี้ การกระทำของเจ้าพนักงานที่ดินจึงเป็นการละเมิดต่อเจ้าของที่ดินที่มิได้รู้เห็นในการรังวัดสอบเขตใหม่และต้องชดใช้ค่าเสียหายด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 349/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโฉนดที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจากการรังวัดสอบเขตที่ไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่วม ละเมิดก่อให้เกิดความเสียหาย
กระทรวงเกษตราธิการได้ประกาศให้เจ้าของที่ดินในเขตไฟไหม้นำเจ้าพนักงานทำการรังวัดสอบเขตและปักหลักเขตหมายที่ดินใหม่เจ้าของที่ดินร่วมได้นำเจ้าพนักงานรังวัดสอบเขตโดยเจ้าของที่ดินร่วมอีกผู้หนึ่งมิได้รู้เห็นยินยอมด้วยการรังวัดสอบเขตจึงเป็นการมิชอบเมื่อเจ้าพนักงานที่ดินได้ทำการแก้ไขเนื้อที่ดินและผนึกแผนที่หลังโฉนดตามที่รังวัดสอบเขตใหม่เช่นนี้ การกระทำของเจ้าพนักงานที่ดินจึงเป็นการละเมิดต่อเจ้าของที่ดินที่มิได้รู้เห็นในการรังวัดสอบเขตใหม่และต้องชดใช้ค่าเสียหายด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1326/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบียดบังทรัพย์สินร่วม ช้างเป็นทรัพย์สินที่เจ้าของร่วมกัน การกระทำดังกล่าวมีผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352
บรรยายฟ้องว่า ร่วมทุนกันซื้อช้างเป็นเจ้าของร่วมกันแล้วผลัดกันเลี้ยงเพื่อหาประโยชน์ ครั้นจำเลยเลี้ยงแล้วถึงคราวที่ต้องผลัดให้เจ้าของร่วมเลี้ยงบ้าง จำเลยกลับบังอาจมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาไว้เลี้ยงเพื่อประโยชน์ตนเสียแต่ฝ่ายเดียว ดังนี้ ฟ้องมีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ต้องรับไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 978/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของร่วมในที่ดิน สินสมรส การโอนทรัพย์โดยไม่ได้รับความยินยอมของคู่สมรส และผลกระทบต่อผู้รับโอน
หญิงมีสามีขายที่ดินสินบริคณห์ได้เฉพาะส่วนของหญิง เมื่อสามีสละละทิ้งตน แต่การโอนไม่ผูกพันส่วนของสามี ผู้รับโอนต่อๆ ไปจะอ้าง มาตรา 1299 มายันสามีซึ่งไม่มีชื่อในโฉนดด้วยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 559/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกทรัพย์คืนจากผู้รับเนรคุณ ไม่ต้องบรรยายถ้อยคำหมิ่นประมาท และสิทธิถอนคืนเฉพาะส่วนเจ้าของร่วม
คำฟ้องคดีแพ่งเรียกทรัพย์คืนอ้างว่าผู้รับเนรคุณโดยกล่าวหมิ่นประมาทผู้ให้นั้น ไม่จำต้องบรรยาถ้อยคำหมิ่นประมาทก็นำสืบได้
เจ้าของร่วมแต่ผู้เดียวก็อาจฟ้องขอถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับเนรคุณได้ในทรัพย์ส่วนที่เป็นของตน
เมื่อศาลล่างพิจารณายกฟ้องโดยยังมิได้ฟังข้อเท็จจริงซึ่งจำต้องฟังเมื่อวินิจฉัยคดี ศาลฎีกาย่อมยกคำพิพากษาศาลล่างและให้ดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่
เจ้าของร่วมแต่ผู้เดียวก็อาจฟ้องขอถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับเนรคุณได้ในทรัพย์ส่วนที่เป็นของตน
เมื่อศาลล่างพิจารณายกฟ้องโดยยังมิได้ฟังข้อเท็จจริงซึ่งจำต้องฟังเมื่อวินิจฉัยคดี ศาลฎีกาย่อมยกคำพิพากษาศาลล่างและให้ดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 559/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกทรัพย์คืนเนื่องจากผู้รับเนรคุณ แม้ไม่บรรยายคำหมิ่นประมาทก็สืบได้ และเจ้าของร่วมฟ้องได้เฉพาะส่วนของตน
คำฟ้องคดีแพ่งเรียกทรัพย์คืนอ้างว่าผู้รับเนรคุณโดยกล่าวหมิ่นประมาทผู้ให้นั้น ไม่จำต้องบรรยายถ้อยคำหมิ่นประมาทก็นำสืบได้
เจ้าของร่วมแต่ผู้เดียวก็อาจฟ้องขอถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับเนรคุณได้ในทรัพย์ส่วนที่เป็นของตน
เมื่อศาลล่างพิจารณายกฟ้องโดยยังมิได้ฟังข้อเท็จจริงซึ่งจำต้องฟังเมื่อวินิจฉัยคดี ศาลฎีกาย่อมยกคำพิพากษาศาลล่างและให้ดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่
เจ้าของร่วมแต่ผู้เดียวก็อาจฟ้องขอถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับเนรคุณได้ในทรัพย์ส่วนที่เป็นของตน
เมื่อศาลล่างพิจารณายกฟ้องโดยยังมิได้ฟังข้อเท็จจริงซึ่งจำต้องฟังเมื่อวินิจฉัยคดี ศาลฎีกาย่อมยกคำพิพากษาศาลล่างและให้ดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิร้องขัดทรัพย์ของสามีในทรัพย์สินที่ภรรยาเป็นเจ้าของร่วม แม้ไม่ได้ระบุในคำร้อง
แม้ในคำร้องจะมิได้กล่าวว่าทรัพย์ที่ร้องขัดทรัพย์เป็นของภรรยาผู้ร้องแต่ในชั้นพิจารณานำสืบได้ความว่าเป็นทรัพย์ของภรรยาผู้ร้องก็ถือได้ว่าผู้ร้องมีสิทธิร้องขัดทรัพย์ทรัพย์ของภรรยาได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์สินร่วมกันระหว่างสามีภริยาโดยไม่จดทะเบียน: การพิสูจน์เจตนาให้เป็นเจ้าของร่วม
พฤติการณ์ที่จำเลยกับบิดาโจทก์อยู่กินกันฉันท์สามีภริยาและนำเอาเงินซื้อขายที่นาเดิมของจำเลยมาซื้อแล้วทำนาที่ซื้อใหม่นี้ร่วมกันจนบิดาโจทก์ตายเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าจำเลยกับบิดาโจทก์ได้ร่วมเข้าทำมาหากินด้วยกัน มีเจตนาให้ทรัพย์ที่ซื้อหามาใหม่นี้เป็นทรัพย์ร่วมกัน ทรัพย์ที่ได้มาในระหว่างอยู่กินร่วมกันทำนองนี้ ไม่ว่าจะใช้จ่ายเงินของฝ่ายใดซื้อหามาต้องถือว่าทั้งสองฝ่ายต่างเป็นเจ้าของร่วม (อ้างฎีกาที่ 303/2488)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถือครองทรัพย์สินร่วมกันระหว่างอยู่กินฉันท์สามีภริยา แม้ใช้เงินฝ่ายเดียวซื้อ
พฤติการณ์ที่จำเลยกับบิดาโจทก์อยู่กินกันฉันท์สามีภริยาและนำเอาเงินซื้อขายที่นาเดิมของจำเลยมาซื้อแล้วทำนาที่ซื้อใหม่นี้ร่วมกันจนบิดาโจทก์ตายเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าจำเลยกับบิดาโจทก์ได้ร่วมเข้าทำมาหากินด้วยกันมีเจตนาให้ทรัพย์ที่ซื้อหามาใหม่นี้เป็นทรัพย์ร่วมกันทรัพย์ที่ได้มาในระหว่างอยู่กินร่วมกันทำนองนี้ ไม่ว่าจะใช้จ่ายเงินของฝ่ายใดซื้อหามาต้องถือว่าทั้งสองฝ่ายต่างเป็นเจ้าของร่วม
(อ้างฎีกาที่ 303/2488)
(อ้างฎีกาที่ 303/2488)