คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจ้าพนักงาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,471 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4724/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับบทลงโทษความผิดต่อเจ้าพนักงาน: การต่อสู้ขัดขวางโดยใช้อาวุธ
ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 138 วรรคสอง และมาตรา 140 วรรคสามนั้น การปรับบทลงโทษเพียงตามมาตรา 140 วรรคสามนั้น ยังไม่ชัดเจน เพราะไม่แน่ชัดว่าจำเลยผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษหนักกว่าโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้กึ่งหนึ่งของมาตรา 140วรรคแรก หรือวรรคสอง เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน โดยมีและใช้อาวุธปืน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามมาตรา 138 วรรคสอง, 140 วรรคแรก และวรรคสาม ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยปรับบทลงโทษให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4724/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับบทลงโทษความผิดต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้อาวุธปืน และการวินิจฉัยปัญหาความสงบเรียบร้อยของศาล
ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา138วรรคสองและมาตรา140วรรคสามนั้นการปรับบทลงโทษเพียงตามมาตรา140วรรคสามนั้นยังไม่ชัดเจนเพราะไม่แน่ชัดว่าจำเลยผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษหนักกว่าโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้กึ่งหนึ่งของมาตรา140วรรคแรกหรือวรรคสองเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยมีและใช้อาวุธปืนการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามมาตรา138วรรคสอง,140วรรคแรกและวรรคสามปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ฎีกาศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยปรับบทลงโทษให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3681/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดโดยสมรู้ร่วมคิด เจ้าพนักงานบังคับคดีส่อเจตนาช่วยเหลือผู้เข้าสู้ราคา
การที่ ฉ. เจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ทอดตลาดปรึกษากับ ป.ผู้อำนวยการกองบังคับคดีแพ่ง แล้วได้เรียก พ. ผู้เข้าสู้ราคาเข้าไปคุย แม้ ม.ผู้รับมอบอำนาจจำเลยทั้งสองให้มาดูแลการขายทอดตลาดไม่ได้ยินการคุยกัน ต่อจากนั้น ฉ. ประกาศถาม พ. อีกว่า จะให้ราคาสูงกว่า 38,000,000 บาท หรือไม่พ. ได้ยืนขึ้นเสนอให้ราคาเป็น 40,000,000 บาท การกระทำของ ฉ. และ พ.ดังกล่าวส่อเจตนาว่า ฉ. ได้เรียก พ. ไปแนะนำให้เสนอราคาเพิ่มให้สูงกว่าราคาที่ผู้คัดค้านประเมินไว้เพื่อที่ ป. จะอนุมัติให้ ฉ. ขายให้แก่ พ. นั่นเอง การที่พ. เสนอราคาเพิ่มเป็น 40,000,000 บาท แล้ว ป. อนุมัติให้ขายได้ เช่นนี้ส่อพิรุธเป็นข้อสงสัยได้ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดโดยสมรู้ราคากับ พ. ผู้เข้าสู้ราคา ซึ่งเป็นผู้ซื้อได้ การขายทอดตลาดทรัพย์จึงไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3325/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหน้าที่ประกาศภาระจำนองตามจริง การโต้แย้งหนี้จำนองเป็นเรื่องระหว่างจำเลยกับเจ้าหนี้จำนอง
เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยโดยติดจำนอง แม้จะระบุรวมดอกเบี้ยเกินกว่า 5 ปี ก็ไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นผู้วินิจฉัยหากมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับหนี้จำนองอย่างใดก็เป็นเรื่องจำเลยต้องว่ากล่าวกับเจ้าหนี้จำนองซึ่งไม่เกี่ยวกับการขายทอดตลาดประกาศขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ถึงกับเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีสิทธิร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีแก้ไขประกาศดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3319/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีผิดสัญญาประกันของพนักงานสอบสวน: เจ้าพนักงานตามตำแหน่งหน้าที่ย่อมมีอำนาจฟ้องได้
พันตำรวจโท ธ. เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยฐาน ผิดสัญญาประกันและเป็น พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจเดียวกันกับพันตำรวจโท ป. ผู้รับสัญญาประกัน ต่าง ปฏิบัติราชการในตำแหน่งหน้าที่ พนักงานสอบสวนด้วยกันไม่ใช่ ทำแทนกันจึงมี อำนาจฟ้องคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3215/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานปฏิบัติ/ละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ
จำเลยเป็นปลัดอำเภอได้รับแต่งตั้งจากนายอำเภอให้ทำการตรวจสอบผลงานตามโครงการสร้างงานในชนบทของสภาตำบล การแต่งตั้งดังกล่าวเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ในทางราชการ จำเลยจึงเป็นเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ต้องเดินทางไปตรวจสอบผลงานตามโครงการที่ได้รับมอบหมายแล้วรายงานให้นายอำเภอทราบ การที่จำเลยทำรายงานว่า สภาตำบลได้จ้างเหมาเครื่องจักรกลขุดดินถูกต้องตามโครงการแล้ว เห็นควรให้คณะกรรมการสภาตำบลดำเนินการเบิกจ่ายเงินค่าจ้างทั้ง ๆ ที่งานตามโครงการยังไม่แล้วเสร็จ โดยจำเลยได้ร่วมออกไปดูการตรวจสอบรับมอบงานของคณะกรรมการตรวจรับการจ้างดังกล่าวด้วยอีกทั้งงานในส่วนที่ยังไม่แล้วเสร็จนั้นอาจตรวจสอบและพบเห็นได้โดยง่าย ดังนี้การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเป็นเหตุให้นายอำเภอและสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้รับความเสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 157

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3215/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานตรวจสอบงานราชการรายงานเท็จทำให้เกิดความเสียหายทางราชการ ความผิด ม.157
แม้จำเลยเป็นปลัดอำเภอไม่มีหน้าที่ในการตรวจรับมอบงานเพราะมิได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตรวจรับการจ้างแต่เมื่อนายอำเภอได้แต่งตั้งให้จำเลยทำการตรวจสอบผลงานดังกล่าวซึ่งเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ในทางราชการจำเลยจึงเป็น เจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ต้องตรวจสอบผลงานตามที่ได้รับมอบหมายแล้วรายงานให้นายอำเภอทราบการที่จำเลยทำรายงานเท็จจึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเป็นเหตุให้นายอำเภอได้รับความเสียหายอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3215/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบอนุมัติเบิกจ่ายเงินเกินจริงจากโครงการสร้างงานในชนบท
จำเลยเป็นปลัดอำเภอได้รับแต่งตั้งจากนายอำเภอให้ทำการตรวจสอบผลงานตามโครงการสร้างวานในชนบทของสภาตำบลการแต่งตั้งดังกล่าวเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ในทางราชการจำเลยจึงเป็นเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ต้องเดินทางไปตรวจสอบผลงานตามโครงการที่ได้รับมอบหมายแล้วรายงานให้นายอำเภอทราบการที่จำเลยทำรายงานว่าสภาตำบลได้จ้างเหมาเครื่องจักรกลขุดดินถูกต้องตามโครงการแล้วเห็นควรให้คณะกรรมการสภาตำบลดำเนินการเบิกจ่ายเงินค่าจ้างนั้นๆที่งานตามโครงการยังไม่แล้วเสร็จโดยจำเลยได้ร่วมออกไปดูการตรวจสอบรับมอบงานของคณะกรรมการตรวจรับการจ้างดังกล่าวด้วยอีกทั้งงานในส่วนที่ยังไม่แล้วเสร็จนั้นอาจตรวจสอบและพบเห็นได้โดยง่ายดังนี้การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเป็นเหตุให้นายอำเภอและสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้รับความเสียหายการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2450/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียกเก็บเงินค่าหุ้นค้างชำระหลังมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจเรียกเก็บได้
การที่จะเรียกเงินค่าหุ้นซึ่งยังจะต้องส่งอีกในแต่ละคราวนั้นเป็นดุลพินิจของกรรมการที่จะเรียกจากผู้ถือหุ้นเมื่อใด เป็นจำนวนเท่าใดก็ได้ตราบเท่าที่บริษัทยังคงดำรงอยู่ หาใช่ว่าต้องเรียกภายในกำหนด 10 ปี นับแต่วันจดทะเบียนบริษัทไม่
กรรมการบริษัทจำเลยไม่เคยส่งคำบอกกล่าวเรียกเงินค่าหุ้นซึ่งยังจะต้องส่งอีกไปยังผู้ถือหุ้น ดังนั้น เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์บริษัทจำเลยเด็ดขาด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงมีอำนาจตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483มาตรา 22 และ 119 เรียกให้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทจำเลยชำระเงินค่าหุ้นซึ่งยังจะต้องส่งอีกทั้งหมดได้ สิทธิเรียกร้องของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่ขาดอายุความ
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์บริษัทจำเลยเด็ดขาดแล้วเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือยืนยันให้ผู้ร้องชำระค่าหุ้นที่ผู้ร้องค้างชำระแก่จำเลยผู้ร้องก็ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งยกคำสั่งยืนยันหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องโดยมิได้กำหนดให้ผู้ร้องชำระเงินค่าหุ้นแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ด้วยนั้น ยังไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 119วรรคสาม ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ผู้ร้องชำระค่าหุ้นแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1581/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสร้างหลุมฝังศพใกล้บ้านผู้อื่น: ละเมิด, สุสาน, ดุลพินิจเจ้าพนักงาน
ตามสภาพของหลุมฝังศพย่อมก่อให้เกิดความหวาดกลัวในเรื่องภูติผีวิญญาน และเป็นที่รังเกียจแก่ผู้ที่มิใช่ญาติผู้ตายซึ่งมีบ้านเรือนอยู่ใกล้หลุมฝังศพการที่จำเลยที่ 1 สร้างหลุมฝังศพหรือฮวงซุ้ยเพื่อเก็บศพของ ส.สามีจำเลยที่ 1ในที่ดินของตนเองห่างจากบ้านของโจทก์ทั้งสองประมาณ 10 เมตร โดยที่ดินของโจทก์ทั้งสองและจำเลยที่ 1 เป็นที่อยู่อาศัย ไม่เคยมีหลุมฝังศพมาก่อนและไม่ปรากฎว่าบริเวณใกล้เคียงมีหลุมฝังศพแต่อย่างใด ทั้งตามประเพณีแห่งท้องถิ่นก็ไม่นิยมให้มีการฝังศพในเขตหมู่บ้าน ดังนี้ การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ทั้งสองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1337
พ.ร.บ. สุสานและฌาปนสถาน พ.ศ.2528 มาตรา 10 เป็นบทบัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดฝังศพไว้ในสถานที่อื่นนอกจากสุสานสาธารณะหรือสุสานเอกชนเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น หากฝ่าฝืนจะต้องมีความผิด การที่จำเลยที่ 1 ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ฝังศพตามบทกฎหมายดังกล่าวจึงมีผลเพียงว่าจำเลยที่ 1 มิได้ตกเป็นผู้กระทำผิดต่อพระราชบัญญัติสุสานและฌาปนสถานฯเท่านั้น หามีผลทำให้จำเลยที่ 1 มีอำนาจกระทำการใด ๆ ให้โจทก์ทั้งสองได้รับความเสียหายไม่
มาตรา 10 และ 25 แห่ง พ.ร.บ.สุสานและฌาปนสถานดังกล่าวมิได้กำหนดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นต้องออกคำสั่งให้ผู้ฝ่าฝืนมาตรา 10รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือเคลื่อนย้ายศพที่ฝังไว้ออกไป คงให้อำนาจแก่เจ้าพนักงาน-ท้องถิ่นที่จะใช้ดุลพินิจสั่งให้ดำเนินการดังกล่าวหรือไม่ก็ได้ แม้ปรากฎว่าจำเลยที่ 1 ถูกลงโทษฐานกระทำความผิดตามมาตรา 10 แล้ว และได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ฝังศพไว้ที่เดิมต่อไปก็ตาม แต่ปรากฎว่านายอำเภอจำเลยที่ 2 และผู้ว่าราชการจังหวัดจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ใช้ดุลพินิจอนุญาตโดยได้ดำเนินการตามขั้นตอนและอาศัยข้อมูลความเห็นที่สอดคล้องต้องกันของผู้ที่เกี่ยวข้องตามสมควรแล้ว ดังนี้การกระทำของจำเลยที่ 2 และที่ 3จึงไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ทั้งสอง
of 148