คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เพิกถอนนิติกรรม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 218 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 221/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายเมื่อกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้โอนไปยังบุคคลอื่นแล้ว ศาลยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องคดีในฐานะเป็นผู้จัดการมรดก มีคำขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินระหว่างผู้จัดการมรดกคนเก่ากับจำเลยและให้แก้ชื่อหลังโฉนดเป็นชื่อโจทก์ในฐานะเป็นผู้จัดการมรดกแต่ปรากฏว่าในขณะนั้นที่ดินไม่ได้เป็นของจำเลยแล้วเพราะได้จดทะเบียนโอนต่อไปยังคนภายนอกแล้วกรรมสิทธิที่ดินไม่ได้คงอยู่กับจำเลยอันศาลอาจพิจารณาพิพากษาให้เพิกถอนเสียได้ คำขอท้ายฟ้องของโจทก์ดังกล่าวจึงไม่มีข้อที่ศาลจะพึงพิจารณาพิพากษาในเวลานั้นศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1162-1164/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิในที่ดินมรดกที่มีข้อพิพาท และการเพิกถอนนิติกรรมเนื่องจากผู้รับโอนรู้ถึงการเสียเปรียบของเจ้าหนี้เดิม
สัญญามีข้อความว่า " ที่ดินมรดกเรื่องนายคำ ร้องคัดค้านนายอ่องซึ่งเป็นส่วนของนางเทียบนายแว้นั้นข้าพเจ้าเป็นน้องนางเทียบ นายแว้เป็นผู้รับมรดกที่ดินรายนี้ ข้าพเจ้ายอมยกที่ดินรายนี้มีเท่าใดให้นายอ่องทั้งสิ้น เพราะข้าพเจ้าได้รับเงินนายอ่องไป 410 บาท โดยขายให้นายอ่อง จึงได้ลงลายมือไว้เป็นสำคัญ " ดังนี้ เป็นสัญญาจะซื้อขายที่ดินตามธรรมดา
การที่ผู้ซื้อที่ดิน ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินส่วนหนึ่งออกเงินค่าธรรมเนียมศาลและค่าทนายความให้แก่ผู้ขายที่ดิน เพื่อฟ้องบุคคลผู้ขัดขวางสิทธิเกี่ยวกับที่ดินแปลงนั้นย่อมไม่เป็นการขัดต่อความสงบ เพราะเป็นการป้องกับประโยชน์ส่วนได้เสียตามปกติไม่ใช่เป็นการแสวงประโยชน์จากการที่บุคคลอื่นเข้าเป็นความกัน
ผู้ขายได้ทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่ผู้ซื้อและรับเงินไว้บางส่วน แต่ยังไม่ได้โอนเพราะผู้ขายกำลังฟ้องบุคคลที่ 3 เป็นจำเลย เรื่องขัดขวางไม่ยอมให้รับมรดกที่ดินแปลงนั้นภายหลังผู้ขายได้ทำสัญญาประนีประนอมกับบุคคลที่ 3 โดยโอนที่ดินให้เป็นของบุคคลที่ 3 ดังนี้เป็นเหตุให้ผู้ซื้อซึ่งเป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบเพราะมี+สิทธิชำระได้ บุคคลที่ 3 จึงเข้าลักษณะเป็นผู้ได้ลาภงอกเงยจากผู้ขาย ซึ่งเป็นลูกหนี้นิติกรรมที่ผู้ขายโอนให้แก่บุคคลที่ 3 จึงอาจถูกเพิกถอนได้ตาม ป.พ.พ.ม. 237

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 576/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้จะซื้อที่ดินเมื่อคดีถึงที่สุดช้า การเพิกถอนนิติกรรมโอนขายที่ดินที่ไม่สุจริต
สิทธิของผู้จะซื้อที่ดินตามสัญญาจะซื้อขายที่ดิน เมื่อนำคดีมาสู่ศาลจนศาลพิพากษาให้ผู้จะขายโอนขายที่ดินให้แก่ผู้จะซื้อขายนั้นแล้ว แม้คดีจะยังไม่ถึงที่สุด ก็อยู่ในฐานะเป็นผู้อันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อนตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1300 แล้ว ฉะนั้นถ้าผู้จะขาย ที่ดินนั้นแก่ผู้อื่นไปในระหว่างที่คดียังไม่ถึงที่สุด โดยผู้ซื้อไม่สุจริตแล้ว ผู้จะซื้อก็มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมนั้นเสียได้ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 237, 1300.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 576/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้จะซื้อที่ดินหลังศาลพิพากษา: เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายซ้ำได้
สิทธิของผู้จะซื้อที่ดินตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินนั้นเมื่อนำคดีมาสู่ศาลจนศาลพิพากษาให้ผู้จะขายโอนขายที่ดินให้แก่ผู้จะซื้อตามสัญญาจะซื้อขายนั้นแล้ว แม้คดีจะยังไม่ถึงที่สุด ก็อยู่ในฐานะเป็นผู้อันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 แล้ว ฉะนั้นถ้าผู้จะขายขายที่ดินนั้นแก่ผู้อื่นไปในระหว่างที่คดียังไม่ถึงที่สุด โดยผู้ซื้อไม่สุจริตแล้ว ผู้จะซื้อก็มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมนั้นเสียได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237,1300

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1192/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสภาพหนี้หลังการเสียชีวิตของผู้ทำสัญญาเดิม และการเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายเนื่องจากผู้ซื้อไม่สุจริต
มารดาทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่เขา โดยได้รับเงินค่าที่ดินนั้นไว้บางส่วน และส่งมอบที่ดินให้เขาครอบครองแล้ว ครั้นมารดาถึงแก่กรรม บุตรผู้เป็นทายาทได้ไปขอรับเงินค่าที่ดินนั้นเพิ่มเติมจากผู้ซื้อ และรับว่าจะปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายที่ดินนั้น ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินให้แก่เขา แล้ว กลับเอาที่ดินไปจดทะเบียนการซื้อขายกันที่อำเภอ เมื่อปรากฎว่าญาติผู้ซื้อรับโอนที่ดินรายนี้ไว้โดยไม่สุจริต ล่วงรู้ถึงพฤติการณ์อันทำให้ผู้ซื้อคนแรกเป็นเจ้าหนี้ผู้ขายต้องเสียเปรียบแล้ว ผู้ซื้อคนแรกก็มีสิทธิที่จะขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายรายหลังนี้ได้ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 237

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1619/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินและการเพิกถอนนิติกรรมเนื่องจากจำเลยรู้ถึงสิทธิของผู้ซื้อเดิม
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกันโดยผู้ขายได้รับชำระราคาที่ดินแล้ว แต่ยังทำโอนไม่ได้เพราะพนักงานที่ดินส่งโฉนดไปยังกรมที่ดินเสีย ผู้ขายจึงมอบที่ดินที่ขายให้ผู้ซื้อครอบครองไปพลางก่อนจนกว่า กรมที่ดินจะส่งโฉนดคืนมาจึงจะทำโอนกัน ผู้ซื้อจึงได้เข้าครอบครองที่ดินนั้นตลอดมา 4 ปีเศษ ดังนี้ ถือได้ว่าผู้ซื้ออยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนเกี่ยวกับที่ดินนั้นได้ก่อนแล้วตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1300

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1592/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์ฎีกาในประเด็นเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายหลังศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษาแล้ว
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ 7,000 บาทจากจำเลยที่ 1 และอ้างว่าจำเลยที่ 1 ขายที่ดินแก่จำเลยที่ 2 เพื่อฉ้อโจทก์ จึงขอให้ทำลายนิติกรรมซื้อขายด้วยศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินกู้ 7,000 บาทแก่โจทก์ส่วนข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขาย ยกเสียโจทก์อุทธรณ์ในข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขาย ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืนอีก ดังนี้ โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 866/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาแบ่งที่ดินที่ทำขึ้นจากการข่มขู่ และการบอกล้างโมฆียะกรรม การเพิกถอนนิติกรรม
ข่มขู่ให้เจ้าของที่ดินทำสัญญาแบ่งที่ดินให้ ภายหลังเจ้าของที่ดินทำสัญญาโอนขายที่ดินนั้นให้ผู้อื่น จึงฟ้องขอให้เพิกถอนการโอน เจ้าของที่ดินต่อสู้กรรมสิทธิ์ และขอบอกล้างโมฆียะกรรมนั้นเสียในชั้นให้การต่อสู้คดีดังนี้ศาลจะบังคับให้แบ่งที่ตามสัญญาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโดยเจตนาฉ้อโกง ผู้ซื้อรายแรกมีสิทธิฟ้องเพิกถอนนิติกรรมและการเรียกร้องค่าเสียหาย
สัญญาจะขายที่ดินแก่เขาแล้ว กลับเอาไปขายแก่คนอื่นเสีย เมื่อปรากฏว่า คนซื้อภายหลังนี้ทราบอยู่ก่อนแล้วว่าผู้ขายได้ตกลงจะขายที่นี้แก่ผู้ซื้อคนแรก ทั้งตนเองก็ยังได้เคยขอซื้อต่อจากเขา แต่เขาไม่ขายให้เช่นนี้ ดังนี้ย่อมฟังได้ว่าการซื้อขายรายหลังนี้ เป็นการสมยอมเพื่อฉ้อโกงผู้ซื้อ ผู้ซื้อย่อมฟ้องให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนนี้ และบังคับให้ผู้ขายโอนขายที่นี้แก่เขา กับให้ผู้ซื้อรายหลังใช้ค่าเสียหายแก่เขาอีกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิโดยไม่สุจริตของผู้รับมรดก - เพิกถอนนิติกรรม - การครอบครองปรปักษ์
ภรรยาได้ประกาศรับมฤดกที่ดินของสามีแล้วโอนขายให้บุคคลอื่น แม้จะปรากฎว่าภรรยามิได้จดทะเบียนสมรสก็ดี แต่ได้มีการไหว้ผีตามประเพณี และอยู่ร่วมกันโดยเปิดเผยจนมีบุตรด้วยกัน 3 คน การที่โอนขายให้แก่บุคคลผู้นั้น ก็เนื่องจากสัญญาเดิมที่สามีได้ทำไว้ ซึ่งเป็นการชอบด้วยศีลธรรม เมื่อภรรยามาประกาศรับมฤดก โจทก์ก็ไม่มาคัดค้าน ปล่อยให้ภรรยารับมฤดกมาโอนขายแก่บุคคลผู้นั้น ๆ รับซื้อไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน โจทก์จึงขอให้เพิกถอนนิติกรรม ดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 5 จะมาขอให้เพิกถอนนิติกรรมนั้นไม่ได้.
of 22