คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เอกสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 567 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4537/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารในสำนวนคดีล้มละลาย: การเปิดเผยเอกสารและอำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
สำนวนการสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีล้มละลาย เอกสารใน สำนวนการสอบสวนดังกล่าวถือได้ว่าเป็นเอกสารในสำนวนคดีเรื่องอื่น ผู้ร้องสามารถตรวจตราให้ทราบได้โดยง่ายถึงความมีอยู่และความแท้จริงแห่งเอกสารนั้นกรณีเข้าข้อยกเว้น ที่ผู้คัดค้านไม่ต้องส่งสำเนาให้ผู้ร้องก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 90(1) ประกอบพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4143/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปิดเผยเอกสารในสำนวนคดี: การอ้างเอกสารที่ผู้ร้องสามารถเข้าถึงได้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มิได้ส่งสำเนาหนังสือบอกกล่าวของลูกหนี้ให้ด.ชำระหนี้และคำให้การของ ด.ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แก่ผู้ร้องก่อนวันสืบพยาน3 วัน แต่เอกสารทั้งสองฉบับอยู่ในสำนวนการสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ถือได้ว่าเป็นเอกสารในสำนวนคดีเรื่องอื่นตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา90(1) ยกตัวอย่างไว้ โดยเฉพาะผู้ร้องทั้งสี่เป็นลูกหนี้ร่วมกับ ด. สามารถตรวจตราให้ทราบได้โดยง่ายถึงความมีอยู่และความแท้จริงของเอกสาร ผู้คัดค้านจึงอ้างเอกสารทั้งสองฉบับเป็นพยานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4143/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารในสำนวนคดีอื่น: การไม่ต้องส่งสำเนาเอกสารก่อนสืบพยานตาม ป.วิ.พ. มาตรา 90(1)
หนังสือทวงถามให้ลูกหนี้ชำระหนี้และคำให้การพยานในชั้นสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่อยู่ในสำนวนการสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ถือได้ว่าเป็นเอกสารในสำนวนคดีเรื่องอื่นซึ่งคู่ความสามารถตรวจตราให้ทราบได้โดยง่ายถึงความมีอยู่และความแท้จริงแห่งเอกสารนั้น คู่ความฝ่ายที่อ้างเอกสารดังกล่าวเป็นพยานจึงไม่จำต้องส่งสำเนาเอกสารให้คู่ความอีกฝ่ายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3871/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารไม่ใช่ตั๋วสัญญาใช้เงิน แต่เป็นหลักฐานการกู้ยืม และฟ้องขาดอายุความ
เอกสารไม่มีข้อความตอนใดระบุว่าเป็น "ตั๋วสัญญาใช้เงิน"คงมีแต่ข้อความว่าเป็น "ตั๋ว" เอกสารดังกล่าวจึงขาดสาระสำคัญของตั๋วสัญญาใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 983(1)จึงมิใช่ตั๋วสัญญาใช้เงิน โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้โดยอ้างเอกสารซึ่งมีข้อความว่าจำเลยจะจ่ายเงินตามคำสั่งของโจทก์โดยไม่มีถ้อยคำชัดว่าเป็นหนี้เงินกู้หรือหนี้อย่างอื่น โจทก์ย่อมจะนำพยานหลักฐานมาสืบประกอบว่าเป็นหนี้เงินกู้ได้ เมื่อโจทก์มีหลักฐานเป็นหนังสือแสดงความเป็นหนี้ลงลายมือชื่อลูกหนี้แล้วและสืบพยานประกอบอธิบายได้ว่าหนี้นั้นเป็นหนี้สินแห่งการกู้ยืมเอกสารนั้นก็เป็นหนังสืออันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมแล้ว โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ตามหลักฐานเอกสารนั้นมีอายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164(เดิม)ที่ใช้บังคับในขณะโจทก์ จำเลยมีข้อพิพาทกัน (มาตรา 193/30ที่แก้ไขใหม่) และในเรื่องอายุความนี้ มาตรา 169(เดิม)(มาตรา 193/12 ที่แก้ไขใหม่) บัญญัติว่า อายุความให้นับเริ่มแต่ขณะที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป เมื่อจำเลยไม่เคยชำระเงินต้นและดอกเบี้ยแก่โจทก์ภายในวันที่ 15 มีนาคม 2519ตามที่ระบุในเอกสาร จำเลยจึงตกเป็นผู้ผิดนัดชำระเงินหรือปฏิบัติการชำระหนี้ใด ๆ ตามที่ระบุไว้ในเอกสารนั้น และการผิดนัดดังกล่าวเอกสารนั้นระบุให้มีผลว่าตั๋วหรือเอกสารนั้นถึงกำหนดได้ทันที และจ่ายเงินโดยไม่ต้องทวงถามสุดแล้วแต่ผู้ถือจะเลือกซึ่งมีความหมายว่า โจทก์มีสิทธิเลือกให้จำเลยชำระหนี้ทั้งหมดได้ทันทีโดยไม่ต้องทวงถามก่อน ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม2519 อายุความจึงเริ่มนับตั้งแต่วันดังกล่าว โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2530 นับจากวันที่ 16 มีนาคม 2519ถึงวันฟ้องเกิน 10 ปี ฟ้องของโจทก์จึงขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3628/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบความสัมพันธ์ตัวการ-ตัวแทน การรับฟังพยานนอกคำให้การ และการรับฟังเอกสารที่ไม่ติดอากรแสตมป์
การนำสืบถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวการกับตัวแทน เพื่อให้ทราบถึงความจริงเกี่ยวกับการทำสัญญาเป็นมาอย่างไร ไม่เป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94(ข) ภาพถ่ายหนังสือมอบอำนาจเป็นสำเนาเอกสารไม่ใช่คู่ฉบับหรือคู่ฉีกแห่งตราสาร ไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร และไม่ต้องห้ามในการที่ศาลจะรับฟังเอกสารนั้นเป็นพยาน คำฟ้องของโจทก์บรรยายว่า จำเลยผิดนัดชำระค่าเช่าเกิน 6 เดือนและไม่ชำระภาษีโรงเรือนตามเงื่อนไขในสัญญาเช่า จำเลยให้การว่าที่โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยไม่ชำระค่าภาษีโรงเรือนและค่าเช่าจำเลยขอปฏิเสธว่าไม่เคยผิดเงื่อนไขในสัญญาเช่า รายละเอียดจะได้เสนอศาลในชั้นพิจารณาต่อไป คำให้การของจำเลยจึงเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดปฏิเสธว่าจำเลยไม่ผิดสัญญาตามฟ้อง คดีมีประเด็นว่าจำเลยผิดสัญญาเช่าหรือไม่ จำเลยมีสิทธินำพยานเข้าสืบตามประเด็นดังกล่าวได้ ไม่เป็นการนำสืบนอกคำให้การ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3274/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสาร 'ทดรองจ่าย' ไม่ถือเป็นหลักฐานการกู้ยืม แม้ลูกหนี้ลงลายมือชื่อรับเงิน
การที่ใบสำคัญคู่จ่ายมีข้อความเพียงว่า ทดรองจ่ายให้คุณสมศักดิ์ (ลูกหนี้) เท่านั้น แม้ลูกหนี้จะลงลายมือชื่อเป็นผู้รับเงินไว้ด้วย ก็มีความหมายเพียงว่าออกเงินหรือทรัพย์ไปก่อนไม่มีข้อความที่แสดงว่าลูกหนี้ต้องใช้เงินคืนแก่เจ้าหนี้หรือกำหนดการเสียดอกเบี้ยกันไว้อันเป็นลักษณะของการกู้ยืม จะฟังเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมไม่ได้ จึงเป็นหนี้ที่จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้ ต้องห้ามมิให้เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 94(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3188/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องแสดงสภาพแห่งข้อหาชัดเจน และการรับฟังสำเนาเอกสารแทนต้นฉบับเมื่อต้นฉบับสูญหาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ถอนเงินของโจทก์จากธนาคาร2 ครั้ง ครั้งแรกวันที่ 26 มิถุนายน 2528 เป็นเงิน 500,000 บาทครั้งที่สองเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2529 เป็นเงิน 200,000 บาทและเบียดบังเอาเป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต แล้วหลบหนีไปเป็นละเมิดต่อโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหาย ซึ่งเป็นคำฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาแล้ว ไม่จำเป็นที่โจทก์จะต้องบรรยายว่าจำเลยที่ 1จงใจหรือประมาทเลินเล่ออีก คำฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม โจทก์นำสืบว่า ต้นฉบับสัญญาค้ำประกันสูญหายเพราะถูกจำเลยที่ 1ลักไป ได้แจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจไว้แล้ว อันเป็นการแสดงเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถส่งต้นฉบับเอกสารเป็นพยานหลักฐานได้การที่ศาลชั้นต้นรับฟังสำเนาสัญญาค้ำประกัน จึงเท่ากับศาลชั้นต้นอนุญาตให้นำสำเนาเอกสารมาสืบได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(2) ศาลย่อมรับฟังสำเนาเอกสารแทนต้นฉบับเอกสารได้โดยชอบด้วยกฎหมาย การรับฟังสำเนาเอกสารเป็นพยานหลักฐานแทนต้นฉบับเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(2) หาใช่เป็นการรับฟังต้นฉบับเอกสารเป็นพยานหลักฐาน อันจะต้องปิดอากรแสตมป์ที่ต้นฉบับนั้นไม่ ทั้งสำเนาเอกสารดังกล่าวก็มิใช่ต้นฉบับหรือคู่ฉบับหรือคู่ฉีก จึงไม่อยู่ในบังคับที่ต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2698/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับบุตรโดยเอกสารสัญญาทดแทนค่าเลี้ยงดู ศาลรับรองเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ตายได้ทำบันทึกมีข้อความระบุว่า ผู้ร้องยินยอมรับเงินจำนวน 15,000 บาท เป็นค่าทดแทนกรณีที่ผู้ร้องมีบุตรกับผู้ตาย โดยผู้ร้อง ลงลายมือชื่อในฐานะผู้ให้สัญญา ส่วนผู้ตายลงลายมือชื่อในฐานะ ผู้รับสัญญา บันทึกดังกล่าวถือได้ว่าเป็นเอกสารของผู้ตายที่ยอมรับ ว่าเด็กหญิง ม. เป็นบุตรของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1555(3) แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2698/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับบุตรโดยเอกสาร: บันทึกยินยอมรับเงินค่าทดแทนเป็นหลักฐานการยอมรับเด็กเป็นบุตร
ผู้ตายได้ทำบันทึกมีข้อความระบุว่า ผู้ร้องยินยอมรับเงินจำนวน15,000 บาท เป็นค่าทดแทนกรณีที่ผู้ร้องมีบุตรกับผู้ตาย โดยผู้ร้องลงลายมือชื่อในฐานะผู้ให้สัญญา ส่วนผู้ตายลงลายมือชื่อในฐานะผู้รับสัญญา บันทึกดังกล่าวถือได้ว่าเป็นเอกสารของผู้ตายที่ยอมรับว่าเด็กหญิง ม. เป็นบุตรของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1555(3) แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2003/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความนัยของเอกสารประกวดราคา: การเสนอราคาในนามนิติบุคคล แม้ข้อความระบุชื่อผู้จัดการ
ประกาศของจำเลยที่ 1 เรื่องประกวดราคาเช่าสะพานท่าเทียบเรือวางเงื่อนไขไว้ว่า ผู้ยื่นซองจะต้องเป็นนิติบุคคลเท่านั้นคณะกรรมการรับซองของจำเลยที่ 1 ก็รับซองประกวดราคาไว้ว่าเป็นของโจทก์ แม้ใบเสนอการประกวดราคาจะกรอกข้อความว่า "ข้าพเจ้าบังเอียนโลหะคุปต์ ผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงน้ำแข็งเฉลิมพล" ก็เป็นการกรอกข้อความไปตามแบบพิมพ์ บ.ไม่มีสิทธิยื่นซองในฐานะส่วนตัวเพราะขัดกับเงื่อนไขตามประกาศ เมื่อโจทก์ฟ้องว่าโจทก์เข้ายื่นซองประกวดราคา จำเลยทั้งสามก็ไม่ได้ให้การโต้เถียงว่าเสนอราคาในนามของ บ. เป็นการส่วนตัว แต่กลับยอมรับว่าโจทก์ได้เข้าประกวดราคาและเสนอราคาสูงสุดจริง และจำเลยที่ 1 แจ้งให้โจทก์เข้าทำสัญญาแล้ว แต่โจทก์ไม่ยอมเข้าทำสัญญาเอง เห็นได้ว่าโจทก์และจำเลยทั้งสามต่างก็ยอมรับข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นผู้เสนอราคาไม่เคยโต้แย้งว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสนอราคา นอกจากนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 10 เดิม และมาตรา 132 เดิมให้ตีความเอกสารตามนัยที่จะทำให้เป็นผลบังคับได้ และให้เพ่งเล็งถึงเจตนาอันแท้จริงยิ่งกว่าถ้อยคำสำนวนหรือตัวอักษรดังนั้นในกรณีนี้จึงต้องถือว่า บ. เสนอราคาในนามของโจทก์ มิใช่เสนอราคาในฐานะส่วนตัว เพราะหากถือว่า บ.เสนอราคาในฐานะส่วนตัวย่อมทำให้การเสนอราคาไร้ผล และขัดกับเจตนาของคู่กรณี การที่โจทก์อุทธรณ์ว่าโจทก์มีอำนาจฟ้อง ขอให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ จำเลยทั้งสามฎีกา ดังนี้อุทธรณ์ของโจทก์และฎีกาของจำเลยทั้งสามต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียงศาลละ 200 บาท
of 57