คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ใบอนุญาต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 358 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2466/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายสุรานอกเวลา แม้ไม่ได้ระบุใบอนุญาตในคำฟ้อง ศาลฎีกาวินิจฉัยฟ้องสมบูรณ์ได้หากมีข้อเท็จจริงแสดงการกระทำความผิด
โจทก์ฟ้องด้วยวาจาปรากฏตามบันทึกคำฟ้องประกอบกับหลักฐานการฟ้องคดีด้วยวาจาว่า เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2518 เวลา 01.30 นาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาที่ห้ามมิให้ผู้ใดจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยได้บังอาจจำหน่ายสุราแม่โขงและเบียร์ให้ ส. และ ว. โดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ศาลชั้นต้นมิได้บันทึกความที่ว่าจำเลยเป็นผู้ได้รับอนุญาตขายสุราไว้ก็ตาม ก็ย่อมแสดงอยู่ในตัวว่าจำเลยต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตขายสุราประเภทใดประเภทหนึ่งระหว่างประเภทที่ 3 ถึงประเภทที่ 6 ตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 จึงจะต้องห้ามมิให้ขายสุรานอกเหนือเวลาที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 253 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2515 ข้อ 2 กำหนดไว้ หากจำเลยมิใช่ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขายสุราตามความในกฎหมายว่าด้วยสุรา จำเลยก็ขายสุราไม่ได้เลยไม่ว่าภายในหรือนอกเวลาที่กำหนด ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1971/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดต่ออายุใบอนุญาตขับขี่ไม่ถือว่าไม่มีใบอนุญาตตามกรมธรรม์ประกันภัย หากเคยมีใบอนุญาตมาก่อน
กรมธรรม์ประกันภัยซึ่งมีเงื่อนไขว่า ห้ามมิให้ขับรถยนต์คันที่เอาประกันโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตขับขี่หรือตามกฎหมายนั้น ก็เพื่อไม่ให้ผู้ที่ขับรถยนต์ไม่เป็นหรือไม่ได้รับอนุญาตขับรถยนต์จากเจ้าพนักงานมาขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัย ฉะนั้น การที่ผู้ขับได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์จากเจ้าพนักงานแล้ว แต่ขาดต่ออายุใบอนุญาตในระหว่างที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุนั้น จึงถือไม่ได้ว่าไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์จากเจ้าพนักงานตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย อันจะทำให้ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1847/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองต้องเป็นไปตามจำนวนในใบอนุญาต การฝากเลี้ยงไม่ทำให้จำนวนที่ครอบครองถูกต้อง
ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีไว้ในความครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง ไม่อาจครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองเกินกว่าที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต และการครอบครองดังว่านี้ย่อมหมายความถึงการมีไว้ในครอบครองตามจำนวนในใบอนุญาตของตนเอง หาใช่หมายถึงการมีสิทธิครอบครอง ซึ่งอาจฝากให้ผู้อื่นดูแลแทนกันได้ไม่ เมื่อจำเลยมีไว้ในครอบครองเกินกว่าปริมาณทีจำเลยได้รับอนุญาต จึงต้องมีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1583-1584/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเช่าโรงแรม: แม้ใบอนุญาตไม่ต่อ แต่การเช่ายังมีผล โจทก์ต้องชำระค่าเช่าตามสัญญา
โจทก์และจำเลยต่างฟ้องกันเกี่ยวกับการเช่าโรงแรม ก่อนสืบพยานคู่ความแถลงตกลงกันเพื่อเลิกคดี เรื่องค่าเช่าที่ค้างนั้นตกลงกันว่า โจทก์ย่อมชำระค่าเช่าที่ค้างมาทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งจะได้คิดตัวเลขกันต่อไปว่าค้างค่าเช่ามาเท่าใด ต่อมาจำเลยแถลงว่าโจทก์ยังค้างค่าเช่ารวม 10 เดือน โจทก์แถลงโต้แย้งว่าค้าง 4 เดือนเท่านั้น อีก 6 เดือนต่อจากนั้นโจทก์ถือว่าไม่ใช่ค่าเช่า เพราะการเช่าต้องมีใบอนุญาตให้ดำเนินการโรงแรมได้ แต่ทางการไม่ต่อใบอนุญาตให้เพราะจำเลยไปร้องไม่ให้ต่อใบอนุญาต ดังนี้เมื่อโจทก์มิได้เถียงว่าโจทก์ไม่ต้องรับผิดชำระค่าเช่าสำหรับระยะเวลา 6 เดือนหลังนี้ เพราะว่าได้เลิกสัญญาเช่ากันแล้ว เมื่อการเช่ายังมีอยู่โจทก์ก็ต้องรับผิดในเรื่องค่าเช่า และที่โจทก์อ้างว่าจำเลยไปร้องขอให้ทางการไม่อนุญาตให้ดำเนินกิจการโรงแรมในที่ที่เช่านั้น เมื่อปรากฏแก่ศาลว่าโรงแรมยังดำเนินการอยู่ในระหว่างนั้น โจทก์ยังคงได้รับประโยชน์จากการที่ใช้ทรัพย์สินที่เช่า โจทก์จึงต้องชำระค่าเช่าตอบแทน ศาลย่อมพิพากษาให้โจทก์ชำระค่าเช่าที่ค้างอยู่ทั้ง 10 เดือน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเคลื่อนย้ายซากสัตว์เข้าเขตโรคระบาดที่มีใบอนุญาตแต่ขัดเงื่อนไข ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์มาตรา 34 มิใช่ความผิดตามมาตราที่ฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยนำซากสัตว์เคลื่อนย้ายผ่านเข้ามาในเขตโรคระบาดสัตว์และสงสัยว่ามีโรคระบาดสัตว์โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ มาตรา 17 และ 42 ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยเคลื่อนย้ายซากสัตว์ผ่านเข้ามาในเขตโรคระบาดและสงสัยว่ามีโรคระบาดสัตว์โดยมีหนังสืออนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว แต่ใบอนุญาตดังกล่าวอนุญาตให้เคลื่อนย้ายซากสัตว์เข้าในหรือผ่านได้เฉพาะเขตปลอดโรคระบาด ดังนี้การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงฝ่าฝืนเงื่อนไขในใบอนุญาตอันเป็นความผิดตามมาตรา 34 วรรค 2 และ 49 ไม่เป็นความผิดตามบทมาตราที่โจทก์ฟ้องศาลจะลงโทษจำเลยไม่ได้เพราะข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณา ไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรค 3 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2499 มาตรา 13

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเคลื่อนย้ายซากสัตว์เข้าเขตโรคระบาดที่มีใบอนุญาตแต่ขัดเงื่อนไข ศาลยกฟ้องเนื่องจากความผิดตามที่ฟ้องไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนำซากสัตว์เคลื่อนย้ายผ่านเข้ามาในเขตโรคระบาดสัตว์ และสงสัยว่ามีโรคระบาดสัตว์โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ มาตรา 17 และ 42 ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยเคลื่อนย้ายซากสัตว์ผ่านเข้ามาในเขตโรคระบาดและสงสัยว่ามีโรคระบาดสัตว์โดยมีหนังสืออนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วแต่ใบอนุญาตดังกล่าวอนุญาตให้เคลื่อนย้ายซากสัตว์เข้าในหรือผ่านได้เฉพาะเขตปลอดโรคระบาด ดังนี้การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงฝ่าฝืนเงื่อนไขในใบอนุญาตอันเป็นความผิดตามมาตรา 34 วรรค 2 และ 49 ไม่เป็นความผิดตามบทมาตราที่โจทก์ฟ้อง ศาลจะลงโทษจำเลยไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรค 3 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2499 มาตรา 13

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1765/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองวัตถุระเบิดเพื่อใช้ในกิจการของห้างหุ้นส่วนโดยได้รับอนุญาต แม้ใบอนุญาตออกในนามผู้จัดการ
ห้างหุ้นส่วนจำกัด จ. มี บ.เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ได้ประทานบัตรทำเหมืองแร่ที่บริเวณเขาศูนย์ 3 แปลง ใบอนุญาตให้มีและใช้วัตถุระเบิดออกให้ในนามของ บ.เป็นส่วนตัว แต่ก็ระบุมีไว้ใช้ในการทำเหมืองแร่ที่อยู่ในประทานบัตรของห้างหุ้นส่วนจำกัด จ.เห็นชัดว่าขออนุญาตมีเพื่อใช้ในกิจการของห้างดังกล่าว ดังนั้น การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการแผนกเหมืองแร่ของห้างหุ้นส่วนจำกัด จ.ในการปฏิบัติหน้าที่ในทางการที่จ้าง ได้นำแก๊ประเบิดตามใบอนุญาตดังกล่าวที่เก็บรักษาไว้ที่เหมืองแร่แปลงที่ 1 เพื่อไปใช้ยังแปลงที่ 3 ของห้างหุ้นส่วนจำกัดนายจ้าง จึงไม่มีความผิดฐานมีแก๊ประเบิดไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2518)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาฝากเงินหลอกลวงเพื่อหลีกเลี่ยงการเพิกถอนใบอนุญาต ประเด็นเจตนาและการรู้เห็นเป็นใจ
โจทก์กู้เงินจำเลยและฝากเงินประจำแก่จำเลยเพื่อหลอกลวงทางราชการโดยแสดงใบรับเงินฝากว่าโจทก์มีเงิน ทางราชการจะได้ไม่ถอนใบอนุญาตกิจการประกันภัย อันเป็นการรู้เห็นเป็นใจ ไม่ใช่เจตนาแท้จริงเป็นโมฆะ
จำเลยให้การว่าสัญญาฝากเงินที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นเจตนาลวงหากจะมีการฝากกันจริง ก็ได้ถอนไปแล้ว ดังนี้ ไม่ถือว่าเป็นสองแง่ขัดกัน จำเลยนำสืบได้ตามที่ให้การ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกันภัยรถยนต์: การยกเว้นความรับผิดเมื่อผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตถูกต้อง
กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์มีข้อความยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยในกรณีที่ผู้ขับขี่รถยนต์ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ถูกต้องตามกฎหมายอันสามารถใช้ขับขี่ยานยนต์เอาประกันภัยผู้ขับรถมีแต่ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ตาม พระราชบัญญัติรถยนต์ แต่ไม่มีใบอนุญาตตาม พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 765/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตใบอนุญาตค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง: ใช้ได้ทั่วไปในจังหวัดที่ออกใบอนุญาต ตราบเท่าที่ไม่มีข้อจำกัดตามกฎหมาย
ใบอนุญาตระบุข้อความว่า ให้จำเลยค้าหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อการค้าซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมีสถานการค้าสัตว์ป่าคุ้มครองชื่อห้องภาพสุราษฎร์ ฯลฯ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และระบุว่าจำเลยตั้งสถานการค้าอยู่ ณ ที่ใดเท่านั้น แต่จะใช้คุ้มครองได้ภายในเขตท้องที่ใดเพียงใดไม่มีระบุไว้ ทั้งไม่มีข้อห้ามว่าจำเลยจะทำการค้า นอกสถานที่ดังกล่าวไม่ได้ ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2503 และกฎกระทรวงฉบับที่ 3(พ.ศ. 2505) ออกตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าวก็มิได้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับเขตของใบอนุญาตหรือมีข้อห้ามประการใดเกี่ยวกับวิธีการทำการค้าสัตว์ป่าคุ้มครองนอกสถานที่ ทั้งค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ค้าซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองก็กำหนดไว้เพียงอัตราเดียวมิได้กำหนดให้แบ่งแยกเขตไว้อย่างใบอนุญาตให้ล่าสัตว์ป่าคุ้มครองใบอนุญาตให้ค้าซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองจึงใช้ได้ทั่วไปในจังหวัดที่ได้รับใบอนุญาต การที่จำเลยไปซื้อนกขุนทองและถูกจับพร้อมด้วยนกขุนทองที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดเดียวกัน จึงไม่มีความผิด
of 36