พบผลลัพธ์ทั้งหมด 271 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3933/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดี: ศาลต้องไต่สวนเหตุผลก่อนมีคำสั่งตัดสิน
โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยขอให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปโดยไม่ติดใจสืบพยาน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและนัดฟังคำพิพากษา ก่อนถึงวันนัดฟังคำพิพากษา 1 วัน โจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่อ้างว่าไม่จงใจขาดนัดพิจารณา ดังนี้การพิจารณายังไม่เสร็จสิ้นอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีฝ่ายเดียว ศาลชั้นต้นชอบที่จะดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสอง ให้ได้ความว่าการขาดนัดของโจทก์เป็นไปโดยจงใจหรือมีเหตุอันสมควรหรือไม่ การที่ศาลชั้นต้นไม่ทำการไต่สวนแต่มีคำสั่งว่าให้โจทก์ยื่นคำร้องเข้ามาเมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณา ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนก็เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาจึงต้องพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องของโจทก์ แล้วมีคำสั่งและคำพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3933/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีและการไต่สวนเหตุผล ศาลต้องพิจารณาเหตุผลการขาดนัดก่อนมีคำพิพากษา
โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยขอให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปโดยไม่ติดใจสืบพยาน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์ขาดนัดพิจารณาและนัดฟังคำพิพากษา ก่อนถึงวันนัดฟังคำพิพากษา 1 วัน โจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่อ้างว่าไม่จงใจขาดนัดพิจารณา ดังนี้การพิจารณายังไม่เสร็จสิ้นอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีฝ่ายเดียว ศาลชั้นต้นชอบที่จะดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสอง ให้ได้ความว่าการขาดนัดของโจทก์เป็นไปโดยจงใจหรือมีเหตุอันสมควรหรือไม่ การที่ศาลชั้นต้นไม่ทำการไต่สวนแต่มีคำสั่งว่า ให้โจทก์ยื่นคำร้องเข้ามาเมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตาม บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณา ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนก็เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาจึงต้องพิพากษายก คำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้อง ของโจทก์ แล้วมีคำสั่งและคำพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3933/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีและการพิจารณาคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ ศาลต้องไต่สวนเพื่อวินิจฉัยเหตุผลที่แท้จริง
โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์จำเลยขอให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปโดยไม่ติดใจสืบพยานศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและนัดฟังคำพิพากษาก่อนถึงวันนัดฟังคำพิพากษา1วันโจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่อ้างว่าไม่จงใจขาดนัดพิจารณาดังนี้การพิจารณายังไม่เสร็จสิ้นอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีฝ่ายเดียวศาลชั้นต้นชอบที่จะดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา205วรรคสองให้ได้ความว่าการขาดนัดของโจทก์เป็นไปโดยจงใจหรือมีเหตุอันสมควรหรือไม่การที่ศาลชั้นต้นไม่ทำการไต่สวนแต่มีคำสั่งว่าให้โจทก์ยื่นคำร้องเข้ามาเมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้วจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณาที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนก็เป็นการไม่ชอบศาลฎีกาจึงต้องพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องของโจทก์แล้วมีคำสั่งและคำพิพากษาใหม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3139/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์ที่ถูกยึดขายทอดตลาด: ศาลมีอำนาจไต่สวนก่อนสั่ง
ผู้มีกรรมสิทธิ์ร่วมตามส่วนในทรัพย์ที่ถูกยึดมาขายทอดตลาดมีสิทธิร้องขอให้จ่ายเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 การร้องขอไม่มีกำหนดระยะเวลาไว้ ร้องขอภายหลังจากการขายทอดตลาดแล้วได้
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้จ่ายเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินซึ่งผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยให้แก่ผู้ร้องตามส่วน ศาลชั้นต้นสั่งจ่ายเงินให้แก่ผู้ร้องโดยมิได้สอบถามโจทก์ก่อน ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านอ้างว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิร้อง ผู้ร้องไม่มีกรรมสิทธิ์ร่วมและเป็นหนี้ร่วม ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งจ่ายเงินให้แก่ผู้ร้อง การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งโดยมิได้ยกคำร้องของผู้ร้อง แต่ให้ทำการไต่สวนคำร้องต่อไป ถือได้ว่าศาลชั้นต้นรับคำร้องของผู้ร้องไว้พิจารณา และคำร้องของผู้ร้องไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตตามคำร้องโดยไม่ต้องทำการไต่สวนก่อน เมื่อโจทก์คัดค้านคำร้อง ศาลชั้นต้นมีอำนาจทำการไต่สวนก่อนที่จะสั่งคำร้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 21 (4) คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา เมื่อคดีอยู่ระหว่างไต่สวนพิจารณาสั่งคำร้องของผู้ร้อง โจทก์ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ขอให้ยกเลิกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 (1)
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้จ่ายเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินซึ่งผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยให้แก่ผู้ร้องตามส่วน ศาลชั้นต้นสั่งจ่ายเงินให้แก่ผู้ร้องโดยมิได้สอบถามโจทก์ก่อน ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านอ้างว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิร้อง ผู้ร้องไม่มีกรรมสิทธิ์ร่วมและเป็นหนี้ร่วม ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งจ่ายเงินให้แก่ผู้ร้อง การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งโดยมิได้ยกคำร้องของผู้ร้อง แต่ให้ทำการไต่สวนคำร้องต่อไป ถือได้ว่าศาลชั้นต้นรับคำร้องของผู้ร้องไว้พิจารณา และคำร้องของผู้ร้องไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตตามคำร้องโดยไม่ต้องทำการไต่สวนก่อน เมื่อโจทก์คัดค้านคำร้อง ศาลชั้นต้นมีอำนาจทำการไต่สวนก่อนที่จะสั่งคำร้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 21 (4) คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา เมื่อคดีอยู่ระหว่างไต่สวนพิจารณาสั่งคำร้องของผู้ร้อง โจทก์ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ขอให้ยกเลิกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2221/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตอำนาจศาลฟ้องล้มละลาย: จำเลยมีสิทธิไต่สวนเมื่ออ้างภูมิลำเนาต่างจากที่ฟ้อง
หากโจทก์ยื่นคำฟ้องขอให้ล้มละลายต่อศาลซึ่งลูกหนี้มิได้มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตการยื่นคำฟ้องของโจทก์ และการรับฟ้องไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปของศาล ย่อมขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย พระราชบัญญัติล้มละลาย เป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนมีผลในทางตัดสิทธิเสรีภาพของจำเลย ควรให้โอกาสจำเลยต่อสู้คดีได้เต็มที่เมื่อจำเลยกล่าวอ้างสำเนาทะเบียนบ้านเป็นหลักฐานสนับสนุนขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้อง ที่ศาลล่างสั่งยกคำร้อง โดยไม่ฟังข้อเท็จจริงตามข้อกล่าวอ้างของจำเลยก่อน ย่อมไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3333/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไต่สวนคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความและการยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถา
หากศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาได้ผู้ร้องก็จะได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลเพื่อใช้แทนผู้ชนะคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมที่จะต้อง ชำระเกี่ยวกับคำฟ้องอุทธรณ์ที่ผู้ร้องยื่นต่อศาลนั้น ผู้ร้องก็ยังไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องชำระในชั้นนี้ การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องนำค่าฤชาธรรมเนียมมาชำระก่อนจึงค่อยกำหนดนัดไต่สวนคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความ แทนที่ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นางส.ร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้เป็นมารดา ทรัพย์สินที่อาจได้มาตามคำพิพากษาซึ่งจะตกได้แก่ผู้ร้องก็จะเป็นสินส่วนตัวของผู้ร้อง มิใช่เป็นสินสมรสระหว่างผู้ร้องกับสามี กรณีจึงมิใช่เป็นกรณีที่ผู้ร้องเข้า ไปจัดการ สินสมรสอันจะต้องจัดการร่วมกับสามี หรือต้องได้รับความยินยอมจากสามีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1476,1477, และ 1478
นางส.ร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้เป็นมารดา ทรัพย์สินที่อาจได้มาตามคำพิพากษาซึ่งจะตกได้แก่ผู้ร้องก็จะเป็นสินส่วนตัวของผู้ร้อง มิใช่เป็นสินสมรสระหว่างผู้ร้องกับสามี กรณีจึงมิใช่เป็นกรณีที่ผู้ร้องเข้า ไปจัดการ สินสมรสอันจะต้องจัดการร่วมกับสามี หรือต้องได้รับความยินยอมจากสามีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1476,1477, และ 1478
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1891/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีแล้วกลับมาพิจารณาต่อ เมื่อคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายไม่เป็นผล และการไต่สวนข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีไปตามคำร้องของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ซึ่งเข้าดำเนินคดีแทนจำเลย เมื่อโจทก์ได้ไปยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายแล้วเท่ากับเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องต่อเนื่องเกี่ยวโยงกับคดีนี้หากการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายไม่อาจดำเนินไปจนถึงที่สุดได้เพราะศาลฎีกาพิพากษากลับให้ยกฟ้องใน คดีล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงยกคำขอของโจทก์เสีย โจทก์ ก็ชอบที่จะกลับมาดำเนินคดีต่อไปได้ คำสั่งจำหน่ายคดีของศาลชั้นต้น หาได้ประสงค์ให้คดีเสร็จเด็ดขาดไปจากศาลทีเดียวไม่ โจทก์ยื่นคำร้องว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยกคำขอรับชำระหนี้ของโจทก์เนื่องจากศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องในคดีล้มละลาย โจทก์ จึงขอให้ศาลนำคดีนี้ขึ้นพิจารณาต่อไป จำเลยยื่นคำคัดค้านว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ทำการสอบสวนคำขอรับชำระหนี้ของโจทก์และทำความเห็นเสนอต่อศาลจนกระทั่งศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ไม่มีมูลหนี้ที่โจทก์อ้างและพิพากษายกคำขอรับชำระหนี้ของโจทก์ คดีถึงที่สุดไปแล้ว ดังนี้ หากได้ความจริงตามคำคัดค้านของจำเลยโจทก์ก็ต้องผูกพันตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่มีมูลหนี้ในคดีนี้อีก ย่อมไม่มีเหตุที่จะให้ ยกคดีนี้ขึ้นพิจารณาต่อไป ศาลชั้นต้นจึงชอบที่จะทำการไต่สวนให้ได้ความว่าเป็นความจริงดังคำร้องของโจทก์หรือคำคัดค้านของจำเลย การที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของโจทก์โดยมิได้ทำการไต่สวนให้ได้ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญก่อนและศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ถือว่าศาลล่างทั้งสองมิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณาและมีเหตุสมควรที่จะให้พิจารณาคดีใหม่ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243 ประกอบด้วยมาตรา 247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1832/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการจดทะเบียนสมรสของบุคคลสัญชาติอื่น: อำนาจหน้าที่นายทะเบียนและการไต่สวนของศาล
เกี่ยวกับการจดทะเบียนสมรสนั้น พระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช 2478 มาตรา 10 บัญญัติให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนสมรสให้เมื่อมีการร้องขอ การที่นายทะเบียนจะปฏิเสธได้ก็ต่อเมื่อปรากฏว่ามิได้เป็นไปตามเงื่อนไขแห่ง มาตรา 1448 ถึงมาตรา1454และมาตรา1458 ตามที่ได้ ตรวจชำระใหม่ ซึ่งมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติ จดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช 2478 ห้ามมิให้นายทะเบียนจดทะเบียนสมรสในกรณีที่นายทะเบียนไม่ยอมรับจดทะเบียนสมรสผู้มีส่วนได้เสียก็มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องต่อศาล โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม เมื่อศาลไต่สวนได้ความว่าการเป็นไปตามเงื่อนไขแห่งกฎหมายครบถ้วนแล้ว ก็ให้ศาลมีคำสั่ง ไปให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนได้ตามมาตรา 15 แห่ง พระราชบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3533/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีใหม่เมื่อจำเลยอ้างไม่ทราบวันนัด – ศาลต้องไต่สวนพยานหลักฐานก่อนชี้ขาด
จำเลยที่ 3 ซึ่งขาดนัดพิจารณาได้ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยอ้างว่ามิได้ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ จึงมิได้จงใจขาดนัดพิจารณา เมื่อข้อเท็จจริงยังโต้แย้งกันอยู่ว่าจำเลยที่ 3 ได้ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์แล้วหรือไม่ ย่อมต้องพิจารณาจากทางไต่สวนพยานหลักฐานของคู่ความ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องโดยถือว่าจำเลยที่ 3 ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์แล้ว และศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงจากพฤติการณ์ต่างๆ ในสำนวนแล้วพิพากษาให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีเฉพาะจำเลยที่ 3 ใหม่ตั้งแต่เวลาที่ขาดนัดโดยมิได้ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนพยานหลักฐานของคู่ความก่อน ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209 ประกอบด้วยมาตรา 21. ศาลฎีกาจึงให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ 3 และมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1146/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันระบุความผิดเช็คไม่ชัดเจน ฟ้องไม่สมบูรณ์ แม้มีหลักฐานในชั้นไต่สวน
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 นั้น เกิดขึ้นในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
โจทก์ฟ้องคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค โดยบรรยายฟ้องว่า "......เมื่อวันที่ .... พฤษภาคม 2523 (ไม่ได้ระบุวันที่) โจทก์นำเช็คดังกล่าวไปเบิกเงินจากธนาคาร แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน" ถือไม่ได้ว่าเป็นการระบุวันกระทำผิดหรือวันที่ความผิดเกิดขึ้น จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์
โจทก์ฟ้องคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค โดยบรรยายฟ้องว่า "......เมื่อวันที่ .... พฤษภาคม 2523 (ไม่ได้ระบุวันที่) โจทก์นำเช็คดังกล่าวไปเบิกเงินจากธนาคาร แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน" ถือไม่ได้ว่าเป็นการระบุวันกระทำผิดหรือวันที่ความผิดเกิดขึ้น จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์