คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฎีกา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,024 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2267/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกาย: การสมัครใจวิวาททำให้ไม่สามารถอ้างป้องกันตนเองได้ และข้อจำกัดในการฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงใหม่
การที่จำเลยทั้งสองทำร้ายกันมีสาเหตุสืบเนื่องมาจากจำเลยที่2มีเรื่องโต้เถียงกันกับย.ซึ่งเดินมากับจำเลยที่1ก่อนต่อมาจำเลยทั้งสองได้มาพบกันอีกและโต้เถียงกันก่อนที่จะลงมือทำร้ายกันตามพฤติการณ์ถือได้ว่าต่างฝ่ายต่างสมัครใจวิวาททำร้ายแม้ฝ่ายใดจะลงมือทำร้ายก่อนก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะเมื่อสมัครใจวิวาทกันแล้วจะอ้างว่าตนทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อป้องกันสิทธิของตนไม่ได้. คดีที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงแม้ศาลฎีกาจะมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงได้เพราะผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นได้รับรองว่าเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดแต่ข้อเท็จจริงที่คู่ความฎีกานั้นจะต้องเป็นข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เมื่อปรากฏว่าจำเลยมิได้ยกปัญหาที่ฎีกาขึ้นว่ากล่าวในชั้นศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลย. จำเลยเพียงแต่ชกต่อยกอดปล้ำกันมิได้ใช้อาวุธทำร้ายและเหตุที่ทำร้ายกันก็เกิดจากการวิวาทโต้เถียงไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเคยรับโทษจำคุกมาก่อนพิเคราะห์ถึงพฤติกาณณ์แห่งคดีสิ่งแวดล้อมของจำเลยทั้งสองและสภาพความผิดแล้วศาลรอการลงโทษจำเลยไว้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา56ได้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2082/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมที่ลงลายพิมพ์นิ้วมือและพยาน การวินิจฉัยนอกประเด็นในชั้นอุทธรณ์ และข้อห้ามฎีกา
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองที่ผู้ทำลงลายพิมพ์นิ้วมือและมีผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานสองคน กับมีปลัดอำเภอรักษาราชการแทนปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้ากิ่งอำเภอเป็นผู้จัดทำและลงลายมือชื่อด้วย แต่มิได้ประทับตราตำแหน่งไว้เป็นสำคัญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1655 (4) นั้น เป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ในฐานะที่เป็นพินัยกรรมธรรมดาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1656 และมาตรา 1665
คดีไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในชั้นอุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นวินิจฉัยให้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น เป็นการไม่ชอบ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ส่วนนี้ไม่มีผล การที่จำเลยฎีกาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้มาอีก จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินจฉัย
คำแก้ฎีกาของโจทก์ที่ขอให้ศาลฎีกาพิพากษานอกเหนือจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้น ต้องกระทำโดยยื่นคำฟ้องฎีกา จะเพียงแต่ขอมาในคำแก้ฎีกาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1984/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีอาญาถึงที่สุด: จำเลยที่ 1 ถูกประหารชีวิต ฎีกาต้องห้าม
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยที่ 1 คู่ความไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 1 ไปยังศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีสำหรับจำเลยที่ 1 ย่อมถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1984/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีอาญาอุกฉกรรจ์ ฆ่าปล้นทรัพย์ ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต จำเลยฎีกา แต่ศาลไม่รับวินิจฉัย
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยที่1คู่ความไม่อุทธรณ์ศาลชั้นต้นส่งสำนวนที่เกี่ยวกับจำเลยที่1ไปยังศาลอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนคดีสำหรับจำเลยที่1ย่อมถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา245วรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 186/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งและการไม่โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ทำให้ต้องห้ามฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249
ฎีกาจำเลยมิได้โต้เถียงว่าจำเลยยังไม่ทราบคำสั่งศาลชั้นต้นที่กำหนดเวลาให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ถูกต้องไม่ชอบด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างไรฎีกาในข้อที่ว่าจำเลยมิได้มีเจตนาจะทิ้งอุทธรณ์ก็ดี หรืออุทธรณ์เพื่อต้องการให้ศาลสูงวินิจฉัยก็ดี มิใช่เป็นการโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งต้องห้ามฎีกาตาม ป.วิ.พ.มาตรา249.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 186/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชัดแจ้ง – เหตุต้องห้ามการฎีกา – ไม่โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ฎีกาจำเลยมิได้โต้เถียงว่าจำเลยยังไม่ทราบคำสั่งศาลชั้นต้นที่กำหนดเวลาให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ถูกต้องไม่ชอบด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างไรฎีกาในข้อที่ว่าจำเลยมิได้มีเจตนาจะทิ้งอุทธรณ์ก็ดีหรืออุทธรณ์เพื่อต้องการให้ศาลสูงวินิจฉัยก็ดีมิใช่เป็นการโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ซึ่งเป็นฎีกาไม่ชัดแจ้งต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้รับช่วงสิทธิฟ้องของบริษัทประกันภัย และการไม่ต้องห้ามฎีกาเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ
โจทก์ที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากมูลละเมิดแยกกันมาเป็นส่วนสัดในสำนวนเดียวกัน โดยโจทก์ที่ 1 ฟ้องเรียกค่าซ่อมรถยนต์มามีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าหมื่นบาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ชนะคดี ยกฟ้องโจทก์ที่ 3 และศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้เพียงโจทก์ที่ 2 ชนะคดี โดยยกฟ้องโจทก์ที่ 1 เสียด้วย ดังนี้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษากลับสำหรับคดีเฉพาะโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 1 จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ผู้รับประกันภัยซึ่งได้ชำระค่าซ่อมรถยนต์คันที่รับประกันภัยไว้แก่ผู้รับซ่อมไป เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาประกันภัยเพื่อประโยชน์ของเจ้าของรถยนต์ผู้เอาประกันภัย จึงได้รับช่วงสิทธิมาฟ้องเรียกค่าซ่อมรถได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยคดีโดยฝ่าฝืนพยานหลักฐาน และการนับโทษต่อจากโทษในคดีเด็กและเยาวชน
การที่โจทก์ฎีกาว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีโดยฝ่าฝืนพยานหลักฐานในสำนวนเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ปัญหาว่าจะนำโทษของจำเลยในคดีนี้นับต่อจากโทษของจำเลยในคดีอื่นได้หรือไม่นั้นไม่มีบทบัญญัติห้ามอุทธรณ์ฎีกาจึงฎีกาได้ การที่จำเลยเคยถูกศาลคดีเด็กและเยาวชนมีคำสั่งให้ฝึกอบรมอยู่ณสถานพินิจและคุ้มครองเด็กนั้นการฝึกอบรมดังกล่าวเป็นวิธีการสำหรับเด็กและเยาวชนหาใช่เป็นการลงโทษไม่แม้จำเลยจะมาทำผิดในคดีใหม่อีกก็ไม่อาจนับโทษต่อจากการฝึกอบรมได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1235/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับพิจารณา: คดีจำคุกไม่เกิน 1 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ไม่รอการลงโทษ จำเลยฎีกาไม่ได้ตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก1ปีรอการลงโทษไว้2ปีศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าไม่รอการลงโทษคดีต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามป.วิ.อ.มาตรา219เมื่อจำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้ฎีกาตามมาตรา221ศาลฎีกาจึงไม่อาจรับพิจารณาได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1235/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์แก้คำพิพากษาไม่รอการลงโทษ และจำเลยไม่ได้รับอนุญาตฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก1ปีรอการลงโทษไว้2ปีศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าไม่รอการลงโทษคดีต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา219เมื่อจำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้ฎีกาตามมาตรา221ศาลฎีกาจึงไม่อาจรับพิจารณาได้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
of 303