พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,266 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าไม่มีกำหนดเวลาและการฟ้องขับไล่
การเช่าที่ไม่มีกำหนดเวลาผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาเช่าตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2500 อันเป็นระยะเมื่อสุดระยะเวลาอันเป็นกำหนดชำระค่าเช่าของเดือนที่ล่วงแล้ว และยังฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 11 มีนาคม2500 ถือว่าได้บอกเลิกสัญญาครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 566
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371-376/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเพราะเกินอำนาจศาลชั้นต้นและไม่ได้ยกประเด็นสัญญาเช่าในชั้นต้น
โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยในฐานละเมิดโดยการบุกรุกเข้าไปปลูกโรงเรือนอยู่ในที่ดินของโจทก์ อันเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายจึงขอให้ขับไล่และชดใช้ค่าเสียหายในฐานละเมิดเช่นนี้เป็นคดีที่มีทุนทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้เช่าเมื่อสัญญาเช่าไม่ได้ทำกับเจ้าของที่ดินโดยตรง
(สร้างโรงเรือนในที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริต เจ้าของที่ดินย่อมเป็นเจ้าของโรงเรือนนั้นๆ)
เช่าที่ดินเขามาเพื่อปลูกตึกแถวให้เช่าค้ากำไร แล้วสัญญากับผู้รับเหมาก่อสร้างให้ปลูกตึกลงบนที่ดินโดยยอมให้ผู้รับเหมานั้นเป็นผู้รับบุคคลเข้าเช่าตึกได้ เมื่อผู้เข้ามาเช่าตึกทำสัญญาเช่าตึกกับผู้รับเหมานั้นแล้ว โดยไม่ปรากฎว่าผู้เข้ามาเช่าตึกนั้นทราบว่าผู้รับเหมาและผู้เช่าที่ดินมีข้อสัญญากันว่าผู้เข้ามาเช่าตึกจะต้องทำสัญญาเช่าตึกกับผู้เช่าที่ดิน ดั่งนี้ผู้เข้ามาเช่าตึกย่อมไม่ผูกพันจะต้องทำตามนั้น และผู้เช่าที่ดินย่อมไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่เขา
เช่าที่ดินเขามาเพื่อปลูกตึกแถวให้เช่าค้ากำไร แล้วสัญญากับผู้รับเหมาก่อสร้างให้ปลูกตึกลงบนที่ดินโดยยอมให้ผู้รับเหมานั้นเป็นผู้รับบุคคลเข้าเช่าตึกได้ เมื่อผู้เข้ามาเช่าตึกทำสัญญาเช่าตึกกับผู้รับเหมานั้นแล้ว โดยไม่ปรากฎว่าผู้เข้ามาเช่าตึกนั้นทราบว่าผู้รับเหมาและผู้เช่าที่ดินมีข้อสัญญากันว่าผู้เข้ามาเช่าตึกจะต้องทำสัญญาเช่าตึกกับผู้เช่าที่ดิน ดั่งนี้ผู้เข้ามาเช่าตึกย่อมไม่ผูกพันจะต้องทำตามนั้น และผู้เช่าที่ดินย่อมไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่เขา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้เช่าเมื่อสัญญาเช่าไม่ได้ทำกับเจ้าของที่ดิน: ผู้เช่าไม่ต้องผูกพันสัญญาหากไม่ทราบข้อตกลงระหว่างเจ้าของที่ดินและผู้รับเหมา
(สร้างโรงเรือนในที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริตเจ้าของที่ดินย่อมเป็นเจ้าของโรงเรือนนั้นๆ)
เช่าที่ดินเขามาเพื่อปลูกตึกแถวให้เช่าค้ากำไร แล้วสัญญากับผู้รับเหมาก่อสร้างให้ปลูกตึกลงบนที่ดินโดยยอมให้ผู้รับเหมานั้นเป็นผู้รับบุคคลเข้าเช่าตึกได้เมื่อผู้เข้ามาเช่าตึกทำสัญญาเช่าตึกกับผู้รับเหมานั้นแล้ว โดยไม่ปรากฏว่าผู้เข้ามาเช่าตึกนั้นทราบว่าผู้รับเหมาและผู้เช่าที่ดินมีข้อสัญญากันว่าผู้เข้ามาเช่าตึกจะต้องทำสัญญาเช่าตึกกับผู้เช่าที่ดินดังนี้ ผู้เข้ามาเช่าตึกย่อมไม่ผูกพันจะต้องทำตามนั้น และผู้เช่าที่ดินย่อมไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่เขา
เช่าที่ดินเขามาเพื่อปลูกตึกแถวให้เช่าค้ากำไร แล้วสัญญากับผู้รับเหมาก่อสร้างให้ปลูกตึกลงบนที่ดินโดยยอมให้ผู้รับเหมานั้นเป็นผู้รับบุคคลเข้าเช่าตึกได้เมื่อผู้เข้ามาเช่าตึกทำสัญญาเช่าตึกกับผู้รับเหมานั้นแล้ว โดยไม่ปรากฏว่าผู้เข้ามาเช่าตึกนั้นทราบว่าผู้รับเหมาและผู้เช่าที่ดินมีข้อสัญญากันว่าผู้เข้ามาเช่าตึกจะต้องทำสัญญาเช่าตึกกับผู้เช่าที่ดินดังนี้ ผู้เข้ามาเช่าตึกย่อมไม่ผูกพันจะต้องทำตามนั้น และผู้เช่าที่ดินย่อมไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่เขา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพรางสัญญาเช่า: ศาลอนุญาตให้จำเลยสืบพยานเพื่อพิสูจน์เจตนาที่แท้จริงของสัญญา
โจทก์จำเลยทำสัญญาขายฝากที่ดิน แล้วจำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินนั้นในวันเดียวกัน ต่อมาเมื่อพ้นกำหนดไถ่คืนแล้ว โจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่าที่ดิน จำเลยต่อสู้ว่า ความจริงเป็นเรื่องกู้เงินโดยเอาที่ดินเป็นประกัน ส่วนการเช่าที่ดินนั้นเป็นการเลี่ยงกฎหมาย เผื่อถ้าจำเลยไถ่ที่ดินจะได้คิดแทนดอกเบี้ยซึ่งเกินกว่าอัตราในกฎหมาย คดีนี้จำเลยไม่ได้ไถ่ที่ดินคืน และจำเลยไม่เคยเข้าทำประโยชน์ในที่เช่าที่ดินที่เช่าเป็นที่ว่างเปล่าไม่ควรมีค่าเช่าถึงอัตราที่กำหนดเป็นค่าเช่ากันไว้ เช่นนี้ เท่ากับจำเลยต่อสู้ว่า สัญญาเช่าไม่สมบูรณ์ เพราะมิได้มีเจตนาที่จะให้ผูกพันด้วยการเช่ากันจริง ๆ จำเลยมีสิทธิที่จะนำพยานมาสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาที่แท้จริงของสัญญาเช่า: สิทธิในการนำสืบพยานเพื่อพิสูจน์ว่าสัญญาเช่าเป็นเพียงอำพรางเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านดอกเบี้ย
โจทก์จำเลยทำสัญญาขายฝากที่ดิน แล้วจำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินนั้นในวันเดียวกัน ต่อมาเมื่อพ้นกำหนดไถ่คืนแล้ว
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่าที่ดิน. จำเลยต่อสู้ว่า ความจริงเป็นเรื่องกู้เงินโดยเอาที่ดินเป็นประกันส่วนการเช่าที่ดินนั้นเป็นการเลี่ยงกฎหมาย เผื่อถ้าจำเลยไถ่ที่ดินคืนจะได้คิดแทนดอกเบี้ยซึ่งเกินกว่าอัตราในกฎหมายคดีนี้จำเลยไม่ได้ไถ่ที่ดินคืน และจำเลยไม่เคยเข้าทำประโยชน์ในที่เช่าที่ดินที่เช่าเป็นที่ว่างเปล่าไม่ควรมีค่าเช่าถึงอัตราที่กำหนดเป็นค่าเช่ากันไว้เช่นนี้ เท่ากับจำเลยต่อสู้ว่าสัญญาเช่าไม่สมบูรณ์ เพราะมิได้มีเจตนาที่จะให้ผูกพันด้วยการเช่ากันจริงๆ จำเลยมีสิทธิที่จะนำพยานมาสืบได้
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่าที่ดิน. จำเลยต่อสู้ว่า ความจริงเป็นเรื่องกู้เงินโดยเอาที่ดินเป็นประกันส่วนการเช่าที่ดินนั้นเป็นการเลี่ยงกฎหมาย เผื่อถ้าจำเลยไถ่ที่ดินคืนจะได้คิดแทนดอกเบี้ยซึ่งเกินกว่าอัตราในกฎหมายคดีนี้จำเลยไม่ได้ไถ่ที่ดินคืน และจำเลยไม่เคยเข้าทำประโยชน์ในที่เช่าที่ดินที่เช่าเป็นที่ว่างเปล่าไม่ควรมีค่าเช่าถึงอัตราที่กำหนดเป็นค่าเช่ากันไว้เช่นนี้ เท่ากับจำเลยต่อสู้ว่าสัญญาเช่าไม่สมบูรณ์ เพราะมิได้มีเจตนาที่จะให้ผูกพันด้วยการเช่ากันจริงๆ จำเลยมีสิทธิที่จะนำพยานมาสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ และการสิ้นสุดนิติสัมพันธ์สัญญาเช่า
ฟ้องขับไล่เกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนพระองค์โดยบรรยายฟ้องว่าหม่อมเจ้าหญิงอัจฉราฉวีเทวกุล ผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ฯ
โจทก์ เช่นนี้ ถือว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องได้ตามกฎหมายในฐานะเป็นผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์แล้ว
โจทก์ เช่นนี้ ถือว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องได้ตามกฎหมายในฐานะเป็นผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแต่งตั้งตัวแทนบอกเลิกสัญญาเช่าโดยวาจาเป็นโมฆะหรือไม่ แม้กฎหมายไม่ได้บังคับทำเป็นหนังสือ
การบอกเลิกสัญญาเช่า กฎหมายมิได้บังคับว่า จะต้องทำเป็นหนังสือ ดังนั้น แม้โจทก์จะเพียงมอบอำนาจด้วยวาจาให้บุคคลที่สามบอกเลิกสัญญาเช่าแทนโจทก์บุคคลที่สามที่ว่านั้น ก็ย่อมเป็นตัวแทนของโจทก์โดยชอบเพราะถือได้ว่าการตั้งตัวแทนเช่นนี้ เป็นการแต่งตั้งแสดงออกชัดแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1175/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือตามกฎหมาย การฟ้องบังคับทำสัญญาจึงไม่ชอบ
การที่โจทก์ฟ้องคดีขอให้บังคับจำเลยทำสัญญาจดทะเบียนการเช่าอสังหาริมทรัพย์ให้โจทก์ตามที่ได้ตกลงกันไว้นั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็ย่อมฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ การที่โจทก์อ้างว่า ได้ชำระเงินแป๊ะเจี๊ยะหรือเงินกินเปล่า ให้จำเลยไปแล้วนั้น หากโจทก์จะได้ชำระจริงก็ดี ได้ตกลงกันร่างสัญญาเช่าขึ้นแล้วก็ดี ก็หาทำให้โจทก์มีสิทธิในเรื่องนี้ดีขึ้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1175/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การฟ้องบังคับทำสัญญาจึงไม่สมบูรณ์
การที่โจทก์ฟ้องคดีขอให้บังคับจำเลยทำสัญญาจดทะเบียนการเช่าอสังหาริมทรัพย์ให้โจทก์ตามที่ได้ตกลงกันไว้นั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็ย่อมฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ การที่โจทก์อ้างว่า ได้ชำระเงินแป๊ะเจี๊ยะหรือเงินกินเปล่าให้จำเลยไปแล้วนั้นหากโจทก์จะได้ชำระจริงก็ดี ได้ตกลงกันร่างสัญญาเช่าขึ้นแล้วก็ดีก็หาทำให้โจทก์มีสิทธิในเรื่องนี้ดีขึ้นไม่