พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,218 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการวินิจฉัยคุณแก่จำเลยแม้ไม่ได้ยกข้อต่อสู้ และความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนาจากบันดาลโทสะ
คดีอาญา หากปรากฏในทางพิจารณาจะวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลย ในทางใดได้ แม้จำเลยจะมิได้โต้แย้งมา ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเป็นผลดีแก่จำเลยได้
จำเลยและผู้ตายเป็นสามีภริยากัน ได้เกิดทะเลาะกัน เพราะจำเลยตีบุตร ผู้ตายตีจำเลย ๆ กำลังนั่งกินหมากอยู่ จึงใช้มีดเขียนหมากแทงสวนไป 1 ที ถูกที่ชายโครงข้างขวา ค่อนข้างไปทางหลังลึกทะลุใน ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ จำเลยย่อมมีผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา
จำเลยและผู้ตายเป็นสามีภริยากัน ได้เกิดทะเลาะกัน เพราะจำเลยตีบุตร ผู้ตายตีจำเลย ๆ กำลังนั่งกินหมากอยู่ จึงใช้มีดเขียนหมากแทงสวนไป 1 ที ถูกที่ชายโครงข้างขวา ค่อนข้างไปทางหลังลึกทะลุใน ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ จำเลยย่อมมีผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการวินิจฉัยผลดีแก่จำเลยแม้มิได้ยกขึ้นเอง และการพิจารณาความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา
คดีอาญา หากปรากฏในทางพิจารณาจะวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลยในทางใดได้ แม้จำเลยจะมิได้โต้แย้งมา ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเป็นผลดีแก่จำเลยได้
จำเลยและผู้ตายเป็นสามีภริยากัน ได้เกิดทะเลาะกันเพราะจำเลยตีบุตร ผู้ตายตีจำเลย จำเลยกำลังนั่งกินหมากอยู่จึงใช้มีดเจียนหมากแทงสวนไป 1 ที ถูกที่ชายโครงข้างขวา ค่อนข้างไปทางด้านหลังลึกทะลุใน ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยย่อมมีผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา
จำเลยและผู้ตายเป็นสามีภริยากัน ได้เกิดทะเลาะกันเพราะจำเลยตีบุตร ผู้ตายตีจำเลย จำเลยกำลังนั่งกินหมากอยู่จึงใช้มีดเจียนหมากแทงสวนไป 1 ที ถูกที่ชายโครงข้างขวา ค่อนข้างไปทางด้านหลังลึกทะลุใน ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยย่อมมีผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 707/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดต่างกรรมต่างกระทง ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจยกฟ้องความผิดที่ไม่ได้อุทธรณ์
เมื่อโจทก์จำเลยไม่ได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นในความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยคงอุทธรณ์คัดค้านเฉพาะในความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานเท่านั้น ถือว่า ความผิดตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯลฯ เป็นอันยุติแล้ว ศาลอุทธรณ์ย่อมไม่มีอำนาจที่จะยกฟ้องโจทก์ในข้อหาตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯลฯ เพราะเป็นความผิดต่างกรรมคนละกระทง คนละพระราชบัญญัติกับความผิดที่มีอุทธรณ์ขึ้นมา โจทก์อาจแยกฟ้องกระทงความผิดละสำนวนก็ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2502)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแขวงคดีปรับเกินสองพันบาท: การลดโทษและขอบเขตการพิจารณาคดี
คดีที่มีโทษปรับเกินกว่าสองพันบาท เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงด้วยวาจา หากศาลจะวางโทษและลดโทษแล้วเหลือโทษปรับไม่ถึงสองพันบาท ศาลแขวงย่อมมีอำนาจพิพากษาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ และอำนาจศาลในการวินิจฉัย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาแม้จำเลยให้การรับสารภาพ หากทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันตนเองศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยให้เป็นผลดีแก่จำเลยได้
จำเลยไปทวงเงินที่ผู้ตายเป็นหนี้อยู่ผู้ตายกลับต่อยจำเลยและติดตามเข้าไปทำร้ายซ้ำเติมอีกจำเลยอายุเพียง 19 ปี รูปร่างเล็กและเตี้ยกว่าผู้ตายไม่มีทางสู้แรงปะทะของผู้ตายได้จึงใช้มีดแทงไป 1 ที บังเอิญมีดไปถูกที่สำคัญเข้า ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
จำเลยไปทวงเงินที่ผู้ตายเป็นหนี้อยู่ผู้ตายกลับต่อยจำเลยและติดตามเข้าไปทำร้ายซ้ำเติมอีกจำเลยอายุเพียง 19 ปี รูปร่างเล็กและเตี้ยกว่าผู้ตายไม่มีทางสู้แรงปะทะของผู้ตายได้จึงใช้มีดแทงไป 1 ที บังเอิญมีดไปถูกที่สำคัญเข้า ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 551/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแขวงในการพิพากษายกฟ้องคดีไม่มีมูล แม้เป็นคดีเกินอำนาจ
คดีเกินอำนาจศาลแขวง เมื่อศาลแขวงไต่สวนแล้วเห็นว่าคดีไม่มีมูลก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องได้ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวง ๆ มาตรา 14 จะทำเป็นคำพิพากษาหรือคำสั่ง ก็มีผลอย่างเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 551/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแขวงในการพิพากษายกฟ้องคดีไม่มีมูล แม้เป็นคดีเกินอำนาจ
คดีเกินอำนาจศาลแขวง เมื่อศาลแขวงไต่สวนแล้วเห็นว่าคดีไม่มีมูลก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องได้ตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ มาตรา 14 จะทำเป็นคำพิพากษาหรือคำสั่งก็มีผลอย่างเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาพยานหลักฐานขัดแย้งในคดีอาญา และการใช้อำนาจเรียกสำนวนคดีอื่นมาพิจารณาเพื่อประกอบการวินิจฉัย
ในคดีอาญา ฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยสมคบกันจำเลยอีกคนหนึ่งซึ่งถูกฟ้องศาลไปก่อนแล้ว และปรากฏว่าจำเลยในคดีก่อนถูกศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง ส่วนจำเลยในคดีหลังถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษ จำเลยที่ถูกศาลลงโทษฎีกา และขอให้ศาลเรียกสำนวนคดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องจำเลยอีกคนหนึ่งมาประกอบการวินิจฉัย โดยอ้างว่าพยานโจทก์ทั้ง 2 คดี เป็นพยานชุดเดียวกัน เบิกความ 2 ครั้ง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีเกี่ยวกับตัวจำเลยต่างกัน ดังนี้ ศาลฎีกาย่อมอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 208, 225, 228 เรียกสำนวนคดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาปล่อยจำเลยมาประกอบการวินิจฉัยได้ และเมื่อเห็นว่าคำพยานโจทก์ที่เบิกความ 2 ครั้ง ขัดแย้งกัน ศาลฎีกาก็ตัดสินยกฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371-376/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเพราะเกินอำนาจศาลชั้นต้นและไม่ได้ยกประเด็นสัญญาเช่าในชั้นต้น
โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยในฐานละเมิดโดยการบุกรุกเข้าไปปลูกโรงเรือนอยู่ในที่ดินของโจทก์ อันเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายจึงขอให้ขับไล่และชดใช้ค่าเสียหายในฐานละเมิดเช่นนี้เป็นคดีที่มีทุนทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่ารักษาทรัพย์ยึดช้าง: ศาลมีอำนาจสั่งตามความเหมาะสมโดยอาศัย ป.วิ.พ. มาตรา 161
ค่ารักษาทรัพย์ เป็นค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี ซึ่งศาลอาจจะพิจารณาสั่งให้ได้ตามที่เห็นสมควรตาม ป.วิ.พ.มาตรา 161.