พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,483 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1489/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์ต้องพิสูจน์ตามฟ้อง จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ได้หากพยานหลักฐานไม่พอ
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์ย่อมมีหน้าที่นำพยานหลักฐานมาสืบให้ฟังได้ตามฟ้องของโจทก์ จำเลยจึงมีสิทธิที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่พอให้ฟังได้ตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1489/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์ต้องพิสูจน์ตามฟ้อง การอุทธรณ์พยานหลักฐานยังฟังได้ และประเด็นใหม่ต้องยกขึ้นในศาลอุทธรณ์ก่อน
ในคดีที่จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์มีหน้าที่ต้องนำพยานหลักฐานมาสืบให้ฟังได้ตามฟ้องของโจทก์ จำเลยจึงมีสิทธิที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นว่าพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่พอให้ฟังได้ว่าจำเลยได้ขายที่ดินให้แก่โจทก์ตามฟ้อง ฎีกาของโจทก์ที่ว่า นาย จ. ผู้เข้าเป็นคู่ความแทนจำเลยไม่มีสิทธิที่จะเบิกความเป็นพยานให้จำเลย คำให้การของนาย จ.จึงรับฟังไม่ได้นั้น เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1488/2535 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านการขายทอดตลาดต้องยื่นต่อศาลภายใน 8 วัน หากไม่ทำ สิทธิอุทธรณ์ฎีกาเป็นอันตกไป
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยออกขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษา เมื่อเสร็จการขายจำเลยค้านว่าราคาสูงสุดที่ได้ยังต่ำไปขอให้ขายใหม่เจ้าพนักงานบังคับคดีเสนอศาลขออนุญาตขาย ศาลสั่งอนุญาตให้ขาย จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลภายใน 8 วัน เช่นนี้ ถือว่าจำเลยมิได้ยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดต่อศาลชั้นต้นภายใน 8 วัน นับแต่ทราบถึงเหตุที่ทำให้การขายทอดตลาดเป็นไปโดยมิชอบ ตามที่บังคับไว้ใน ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสอง เมื่อจำเลยมิได้ร้องคัดค้านการขายทอดตลาดต่อศาลชั้นต้นตามที่กฎหมายกำหนดไว้ จำเลยจะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1488/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านการขายทอดตลาดต้องยื่นต่อศาลภายใน 8 วัน มิฉะนั้นเสียสิทธิอุทธรณ์ฎีกา
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยออกขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษา เมื่อเสร็จการขายจำเลยค้านว่าราคาสูงสุดที่ได้ยังต่ำไปขอให้ขายใหม่ เจ้าพนักงานบังคับคดีเสนอศาลขออนุญาตขาย ศาลสั่งอนุญาตให้ขาย จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลภายใน 8 วันเช่นนี้ ถือว่าจำเลยมิได้ยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดต่อศาลชั้นต้นภายใน 8 วัน นับแต่ทราบถึงเหตุที่ทำให้การขายทอดตลาดเป็นไปโดยมิชอบ ตามที่บังคับไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 วรรคสอง เมื่อจำเลยมิได้ร้องคัดค้านการขายทอดตลาดต่อศาลชั้นต้นตามที่กฎหมายกำหนดไว้ จำเลยจะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 148/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องซ้ำซ้อนกรณีภาษีอากร: เมื่อมีการอุทธรณ์คำวินิจฉัยแล้ว กรมสรรพากรไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเงินภาษีซ้ำ
หุ้นส่วนคนหนึ่งของห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลโจทก์ที่ 1ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2521 โจทก์ที่ 1 จึงต้องเลิกกันในวันดังกล่าวโดยผลของกฎหมาย แต่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1249 ให้พึงถือว่ายังคงตั้งอยู่ตราบเท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี เมื่อเพิ่งมีการจดทะเบียนเลิกห้างโจทก์ที่ 1 เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2529 และจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2530 จึงถือว่าในช่วงรอบระยะเวลาบัญชีปี พ.ศ. 2527 และ 2528 โจทก์ที่ 1 ยังคงมีสภาพเป็นห้างหุ้นส่วนอยู่ ผู้ต้องเสียภาษีอุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เกี่ยวกับเงินได้ของตนต่อศาล ขอให้ศาลเพิกถอนคำวินิจฉัยคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล คำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์อาจจะถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเพิกถอนโดยคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลได้ กรมสรรพากรจึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเงินภาษีรายเดียวกันจากผู้ต้องเสียภาษีอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1465/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมอุทธรณ์และการปฏิบัติตามเงื่อนไขการอุทธรณ์หลังมีคำพิพากษา
แม้ศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสองอุทธรณ์อย่างคนอนาถา และสั่งว่าหากจำเลยยังติดใจอุทธรณ์ ให้จำเลยนำค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์มาชำระต่อศาลชั้นต้นใน 10 วันแต่เมื่อจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการชำระเงินออกไปอีก 15 วัน ศาลชั้นต้นก็ได้สั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาไปเพียง7 วัน อันเป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นใช้อำนาจทั่วไปที่มีอยู่สั่งขยายระยะเวลาการชำระเงินให้จำเลยทั้งสอง เพื่อประโยชน์แก่ความยุติธรรม จำเลยจึงมีสิทธิยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นในเรื่องการขอขยายระยะเวลาการชำระเงินดังกล่าวได้ตามป.วิ.พ. มาตรา 223 การที่จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ในเรื่องเกี่ยวกับการขอขยายระยะเวลาการชำระเงินค่าธรรมเนียมอุทธรณ์เป็นการยื่นอุทธรณ์ภายหลังจากที่ศาลชั้นต้นพิพากษาชี้ขาดตัดสินคดีแล้ว และย่อมทำให้การบังคับคดีต้องล่าช้าไป อันอาจเสียหายแก่โจทก์ผู้ชนะคดีได้ จำเลยจึงต้องนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1465/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำสั่งศาลและการปฏิบัติตามเงื่อนไขการอุทธรณ์เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว จำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์พร้อมกับคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสองอุทธรณ์อย่างคนอนาถาและสั่งว่าหากจำเลยทั้งสองยังติดใจอุทธรณ์ให้จำเลยทั้งสองนำค่าธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์มาชำระต่อศาลชั้นต้นใน 10 วัน จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการชำระเงินออกไปอีก 15 วัน เมื่อศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาไปเพียง 7 วัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นใช้อำนาจทั่วไปที่มีอยู่สั่งขยายระยะเวลาการชำระเงินให้จำเลยทั้งสองเพื่อประโยชน์แก่ความยุติธรรม จำเลยทั้งสองย่อมมีสิทธิยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 และเมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ จำเลยทั้งสองก็มีสิทธิยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์ได้ตามมาตรา 234โดยต้องนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล แม้อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการขอขยายระยะเวลาการชำระเงินค่าธรรมเนียมอุทธรณ์ก็ตาม แต่เป็นการยื่นอุทธรณ์ภายหลังจากที่ศาลชั้นต้นพิพากษาชี้ขาดตัดสินคดีแล้ว จำเลยทั้งสองจึงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของกฎหมายดังกล่าวสำหรับในกรณีเช่นนี้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1465/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำสั่งศาลและการปฏิบัติตามเงื่อนไขการชำระค่าธรรมเนียมเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีแล้ว จำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์พร้อมกับคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ จำเลยทั้งสองอุทธรณ์อย่างคนอนาถา และสั่งว่าหากจำเลยทั้งสอง ยังติดใจอุทธรณ์ให้จำเลยทั้งสองนำค่าธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ มาชำระต่อศาลชั้นต้นใน 10 วัน จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอขยาย ระยะเวลาการชำระเงินออกไปอีก 15 วัน แต่ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาต ให้ขยายระยะเวลาไปเพียง 7 วัน อันเป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้น ใช้อำนาจทั่วไปที่มีอยู่สั่งขยายระยะเวลาการชำระเงินให้จำเลย ทั้งสองเพื่อประโยชน์แก่ความยุติธรรม จำเลยทั้งสองจึงยื่นอุทธรณ์ คัดค้านคำสั่งดังกล่าว ซึ่งย่อมมีสิทธิจะทำได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 และเมื่อศาลชั้นต้น สั่งไม่รับอุทธรณ์จำเลยทั้งสองก็มีสิทธิยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ต่อศาลอุทธรณ์ได้ตาม มาตรา 234 โดย ต้องนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวง มาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล แม้อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการขอขยายระยะ เวลาการชำระเงินค่าธรรมเนียมอุทธรณ์ก็ตาม แต่ก็เป็นยื่นอุทธรณ์ ภายหลังจากที่ศาลชั้นต้นพิพากษาชี้ขาดตัดสินคดีแล้ว และเมื่อ มีการอุทธรณ์ย่อมทำให้การบังคับคดีต้องล่าช้าไป อาจเสียหาย แก่โจทก์ผู้ชนะคดีได้ จำเลยทั้ง สองจึงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ของกฎหมายดังกล่าวสำหรับในกรณีเช่นนี้ด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยเกินกว่าที่โจทก์อุทธรณ์ ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขได้
คดีนี้ โจทก์ร่วมอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษข้อหาบุกรุก เฉพาะจำเลยที่ 1, ที่ 3 และที่ 4 และโจทก์ก็มิได้อุทธรณ์แต่อย่างใด ดังนั้น คดีเฉพาะจำเลยที่ 2 ในข้อหาบุกรุกตามที่โจทก์ฟ้องจึงเป็นอันยุติแล้วตั้งแต่ศาลชั้นต้น การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานบุกรุกตาม ป.อ. มาตรา 362 ประกอบมาตรา 365 (2) อีกนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยที่ 2 จะมิได้ฎีกา ศาลฎีกาเห็นสมควรพิพากษาแก้ไขให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยที่ไม่ได้รับการอุทธรณ์ในข้อหาบุกรุก ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาให้ถูกต้อง
คดีนี้ โจทก์ร่วมอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษข้อหาบุกรุก เฉพาะจำเลยที่ 1, ที่ 3 และที่ 4 และโจทก์ก็มิได้อุทธรณ์แต่อย่างใด ดังนั้น คดีเฉพาะจำเลยที่ 2ในข้อหาบุกรุกตามที่โจทก์ฟ้องจึงเป็นอันยุติแล้วตั้งแต่ศาลชั้นต้น การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2ฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 ประกอบมาตรา 365(2) อีกนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยที่ 2 จึงมิได้ฎีกา ศาลฎีกาเห็นสมควรพิพากษาแก้ไขให้ถูกต้องได้