พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,865 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1728/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คเป็นหลักฐานรับเงิน ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค แม้มีการแก้เช็ค
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยได้ออกเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อเป็นหลักฐานแห่งกากรรับเงิน ฉะนั้นย่อมแสดงว่า คู่กรณีไม่มีเจตนาให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ถึงแม้จะมีการแก้เช็คกัน(แก้วันที่) ก็ญังไม่พอฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะใช้เงินตามเช็คนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1728/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คเป็นหลักฐานการรับเงิน ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยได้ออกเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อเป็นหลักฐานแห่งการรับเงิน ฉะนั้นย่อมแสดงว่าคู่กรณี ไม่มีเจตนาให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3 ถึงแม้จะมีการแก้เช็คกัน (แก้วันที่) ก็ยังไม่พอฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะใช้เงินตามเช็คนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1728/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คเป็นหลักฐานการรับเงิน ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยได้ออกเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อเป็นหลักฐานแห่งการรับเงิน. ฉะนั้นย่อมแสดงว่าคู่กรณี.ไม่มีเจตนา.ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น. จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3. ถึงแม้จะมีการแก้เช็คกัน (แก้วันที่) ก็ยังไม่พอฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะใช้เงินตามเช็คนั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คที่ไม่สามารถใช้ได้ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค แม้ผู้รับเช็คไม่ตรงตามฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คสั่งจ่ายให้แก่บุคคลตามที่ระบุในฟ้อง โดยเจตนาจะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็ค ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คแต่ทางพิจารณาปรากฏว่าจำเลยออกเช็คจ่ายให้แก่บุคคลอื่นนอกจากที่ระบุมาในฟ้อง ดังนี้ ความต่างกันดังกล่าวไม่ใช่ข้อสารสำคัญอันจะถือเป็นเหตุยกฟ้อง
จำเลยออกเช็คให้ผู้มีชื่อคนหนึ่ง ช. เอาไปหมุนหาเงินจากคนอื่นจำเลยจึงต้องรับผิดต่อผู้ทรงเช็คนั้น เมื่อผู้ทรงเช็คเอาไปขั้นเงิน และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยก็ต้องมีความผิด.
จำเลยออกเช็คให้ผู้มีชื่อคนหนึ่ง ช. เอาไปหมุนหาเงินจากคนอื่นจำเลยจึงต้องรับผิดต่อผู้ทรงเช็คนั้น เมื่อผู้ทรงเช็คเอาไปขั้นเงิน และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยก็ต้องมีความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คโดยไม่มีเจตนาให้ใช้เงิน แม้ผู้รับเช็คไม่ตรงตามฟ้อง ไม่เป็นเหตุยกฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คสั่งจ่ายให้แก่บุคคลตามที่ระบุในฟ้องโดยเจตนาจะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็คขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คแต่ทางพิจารณาปรากฏว่าจำเลยออกเช็คจ่ายให้แก่บุคคลอื่นนอกจากที่ระบุมาในฟ้องดังนี้ ความต่างกันดังกล่าวไม่ใช่ข้อสารสำคัญอันจะถือเป็นเหตุยกฟ้อง
จำเลยออกเช็คให้บุคคลหนึ่งเอาไปหมุนหาเงินจากคนอื่นจำเลยจึงต้องรับผิดต่อผู้ทรงเช็คนั้นเมื่อผู้ทรงเช็คเอาไปขั้นเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยก็ต้องมีความผิด
จำเลยออกเช็คให้บุคคลหนึ่งเอาไปหมุนหาเงินจากคนอื่นจำเลยจึงต้องรับผิดต่อผู้ทรงเช็คนั้นเมื่อผู้ทรงเช็คเอาไปขั้นเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยก็ต้องมีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คที่ไม่สามารถใช้เงินได้ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค แม้ผู้รับเช็คจะแตกต่างจากที่ฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คสั่งจ่ายให้แก่บุคคลตามที่ระบุในฟ้องโดยเจตนาจะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็ค. ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค.แต่ทางพิจารณาปรากฏว่าจำเลยออกเช็คจ่ายให้แก่บุคคลอื่นนอกจากที่ระบุมาในฟ้อง. ดังนี้ ความต่างกันดังกล่าวไม่ใช่ข้อสารสำคัญอันจะถือเป็นเหตุยกฟ้อง.
จำเลยออกเช็คให้บุคคลหนึ่งเอาไปหมุนหาเงินจากคนอื่น.จำเลยจึงต้องรับผิดต่อผู้ทรงเช็คนั้น. เมื่อผู้ทรงเช็คเอาไปขั้นเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยก็ต้องมีความผิด.
จำเลยออกเช็คให้บุคคลหนึ่งเอาไปหมุนหาเงินจากคนอื่น.จำเลยจึงต้องรับผิดต่อผู้ทรงเช็คนั้น. เมื่อผู้ทรงเช็คเอาไปขั้นเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยก็ต้องมีความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้เงินโดยใช้เช็คเป็นประกัน ไม่ถือเป็นเจตนาออกเช็คเพื่อไม่ให้ใช้เงินตามเช็ค
จำเลยขอยืมเงินโจทก์ โจทก์ไม่มีจำเลยจึงขอให้ไปยืมคนอื่นมาให้ ผู้ให้กู้ให้โจทก์รับรองว่าจะคืนภายใน 2 เดือน จึงจะให้ยืม จำเลยจึงเขียนเช็ค 2 ฉบับไม่ได้ลงวันที่ โจทก์สลักหลังเช็คทั้งสองฉบับ แล้วมอบให้จำเลยไปขอเงินที่ผู้ให้กู้ เมื่อครบกำหนดจำเลยไม่ชำระ ผู้ให้กู้ทวงถามโจทก์ โจทก์จึงใช้เงินให้ และยึดเช็ค 2 ฉบับนั้นไว้แล้วทวงถามจำเลย จำเลยชำระให้ครึ่งหนึ่ง โจทก์จึงคืนเช็คให้จำเลยหนึ่งฉบับ เมื่อทวงถามให้ชำระอีก จำเลยไม่ชำระโจทก์จึงเขียนวันที่ลงในเช็ค แล้วเอาไปเข้าบัญชีธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโจทก์จึงนำคดีมาฟ้อง ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการกู้เงินโดยเอาเช็คเป็นประกันเงินกู้ มิใช่จำเลยออกเช็คเพื่อแลกเงินสดหรืออกเช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้ และไม่ใช่เป็นการออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คเพื่อประกันเงินกู้ ไม่ถือเจตนาออกเช็คโดยไม่มีเงินจ่าย แม้ผู้รับรองเงินกู้มีส่วนรู้เห็น
จำเลยขอยืมเงินโจทก์ โจทก์ไม่มี จำเลยจึงขอให้ไปยืมคนอื่นมาให้ ผู้ให้กู้ให้โจทก์รับรองว่าจะคืนภายใน 2 เดือนจึงจะให้ยืม จำเลยจึงเขียนเช็ค 2 ฉบับไม่ได้ลงวันที่ โจทก์สลักหลังเช็คทั้งสองฉบับแล้วมอบให้จำเลยไปขอเงินที่ผู้ให้กู้ เมื่อครบกำหนดจำเลยไม่ชำระ ผู้ให้กู้ทวงถามโจทก์ โจทก์จึงใช้เงินให้ และยึดเช็ค 2 ฉบับนั้นไว้ แล้วทวงถามจำเลย จำเลยชำระให้ครึ่งหนึ่งโจทก์จึงคืนเช็คให้จำเลย 1 ฉบับ เมื่อทวงถามให้ชำระอีกจำเลยไม่ชำระ โจทก์จึงเขียนวันที่ลงในเช็ค แล้วเอาไปเข้าบัญชี ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงนำคดีมาฟ้อง ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการกู้เงินโดยเอาเช็คเป็นประกันเงินกู้ มิใช่จำเลยออกเช็คเพื่อแลกเงินสดหรือออกเช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้ และไม่ใช่เป็นการออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้เงินโดยใช้เช็คเป็นประกัน ไม่ใช่เจตนาหลอกลวงผู้รับเช็ค ศาลยกฟ้อง
จำเลยขอยืมเงินโจทก์ โจทก์ไม่มี. จำเลยจึงขอให้ไปยืมคนอื่นมาให้. ผู้ให้กู้ให้โจทก์รับรองว่าจะคืนภายใน 2เดือนจึงจะให้ยืม. จำเลยจึงเขียนเช็ค 2 ฉบับไม่ได้ลงวันที่. โจทก์สลักหลังเช็คทั้งสองฉบับแล้วมอบให้จำเลยไปขอเงินที่ผู้ให้กู้. เมื่อครบกำหนดจำเลยไม่ชำระ.ผู้ให้กู้ทวงถามโจทก์ โจทก์จึงใช้เงินให้ และยึดเช็ค 2 ฉบับนั้นไว้ แล้วทวงถามจำเลย. จำเลยชำระให้ครึ่งหนึ่งโจทก์จึงคืนเช็คให้จำเลย 1 ฉบับ. เมื่อทวงถามให้ชำระอีกจำเลยไม่ชำระ. โจทก์จึงเขียนวันที่ลงในเช็ค แล้วเอาไปเข้าบัญชี ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน. โจทก์จึงนำคดีมาฟ้อง. ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการกู้เงินโดยเอาเช็คเป็นประกันเงินกู้ มิใช่จำเลยออกเช็คเพื่อแลกเงินสดหรือออกเช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้ และไม่ใช่เป็นการออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1540/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องอาญาเช็ค - การแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐาน ไม่ถือเป็นคำร้องทุกข์แต่เพียงลำพัง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2(7) ตอนท้ายที่บัญญัติว่า "และการกล่าวหาเช่นนั้นได้กล่าวโดยมีเจตนาจะให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษ" นั้นเป็นคำกว้าง ๆ ฉะนั้นตามที่เจ้าหน้าที่บันทึกไว้ว่า "ผู้แจ้ง(โจทก์) เกรงว่าเช็คจะขาดอายุความจึงได้นำความมาแจ้งไว้เป็นหลักฐาน" นั้นจึงบ่งให้เห็นว่าโจทก์ต้องการให้จำเลยได้รับโทษแล้ว และโจทก์ได้ร้องทุกข์ภายในกำหนดอายุคาม ส่วนการที่จะดำเนินคดีที่กล่าวมาเมื่อได้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ไม่เกี่ยวกับโจทก์ เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการอย่างใด จนโจทก์ไปแจ้งอีกเมื่อพ้นอายุความแล้วจึงได้ทำการสอบ ไม่ทำให้คดีโจทก์ขาดอายุความ
เช็คที่จำเลยสั่งจ่ายเป็นเช็คลงวันที่จ่ายล่วงหน้าซึ่งถือว่าเป็นวันออกเช็คที่จำเลยจะต้องรับผิดตามเช็คไม่ใช่ถือเอาวันเขียนเช็คเป็นวันออกเช็ค ดังนั้นแม้โจทก์จะรู้ในขณะจำเลยเขียนเช็คว่าจำเลยไม่มีเงินสดในธนาคารอันจะใช้ให้โจทก์ได้ความเช็ค ก็ไม่ถือว่าโจทก์ร่วมกระทำผิดกับจำเลยและไม่ถือว่าโจทก์มิใช่ผู้เสียหาย
เช็คที่จำเลยสั่งจ่ายเป็นเช็คลงวันที่จ่ายล่วงหน้าซึ่งถือว่าเป็นวันออกเช็คที่จำเลยจะต้องรับผิดตามเช็คไม่ใช่ถือเอาวันเขียนเช็คเป็นวันออกเช็ค ดังนั้นแม้โจทก์จะรู้ในขณะจำเลยเขียนเช็คว่าจำเลยไม่มีเงินสดในธนาคารอันจะใช้ให้โจทก์ได้ความเช็ค ก็ไม่ถือว่าโจทก์ร่วมกระทำผิดกับจำเลยและไม่ถือว่าโจทก์มิใช่ผู้เสียหาย