พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,822 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1062/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างอันไม่เป็นธรรมหลังข้อตกลงสหภาพฯ และการใช้ดุลพินิจกำหนดค่าเสียหาย
เมื่อสหภาพแรงงานยื่นข้อเรียกร้องต่อนายจ้างและตกลงกันได้ ผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากข้อตกลงคือสมาชิกสหภาพแรงงานซึ่งยื่นข้อเรียกร้องนั้น จึงถือได้ว่าสมาชิกสหภาพแรงงานเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องที่สหภาพแรงงานยื่นต่อนายจ้าง ย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 123 การที่นายจ้างเลิกจ้างในระหว่างที่ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีผลใช้บังคับจึงเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม
พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 41(4) มิได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการสั่งเรื่องค่าเสียหายในกรณีเลิกจ้างอันเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมได้คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์จึงย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะกำหนดค่าเสียหายให้ลูกจ้างตามที่เห็นสมควรได้
พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 41(4) มิได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการสั่งเรื่องค่าเสียหายในกรณีเลิกจ้างอันเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมได้คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์จึงย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะกำหนดค่าเสียหายให้ลูกจ้างตามที่เห็นสมควรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ในการสั่งค่าเสียหายและการรับลูกจ้างกลับเข้าทำงานตามพ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518
คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์มีคำสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าเสียหายให้แก่ลูกจ้างได้ โดยมีอำนาจกำหนดได้ตามที่เห็นสมควรพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ. 2518 มาตรา 41(4) ไม่ต้องอาศัยเทียบเคียงกับประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานเกี่ยวกับการกำหนดค่าชดเชยเพราะไม่ใช่เป็นกรณีไม่มีบทกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเรียกร้องค่าเช่าซื้อค้างชำระหลังเลิกสัญญาเช่าซื้อ และขอบเขตค่าเสียหายจากการส่งมอบรถล่าช้า
สัญญาเช่าซื้อมีว่า ในกรณีที่สัญญานี้ต้องสิ้นสุดลงผู้เช่าซื้อจะต้องชำระเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างอยู่ทั้งหมดให้ผู้ให้เช่าซื้อจนครบ คำว่าค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระคือค่าเช่าซื้อซึ่งถึงกำหนดชำระแล้วก่อนวันที่สัญญาเช่าซื้อนั้นต้องสิ้นสุดลงและผู้เช่าซื้อยังไม่ได้ชำระเท่านั้นหาหมายถึงค่าเช่าซื้อทั้งหมดทุกงวด รวมทั้งค่าเช่าซื้องวดที่ล่วงเลยกำหนดชำระแล้วแต่ผู้เช่าซื้อยังมิได้ชำระและค่าเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระไม่ เพราะเมื่อสัญญาเช่าซื้อสิ้นสุดลงแล้วผู้เช่าซื้อก็ไม่มีหน้าที่ต้องชำระค่าเช่าซื้อสำหรับงวดต่อไปอีก
การที่ศาลพิพากษาให้ผู้เช่าซื้อจ่ายค่าเช่าซื้อถึงวันที่ผู้ให้เช่าซื้อยึดรถยนต์คืนมามีผลเท่ากับว่าได้พิพากษาให้ผู้เช่าซื้อจ่ายค่าเสียหายในการที่ผู้ให้เช่าซื้อขาดประโยชน์ไม่ได้ใช้รถยนต์นับจากวันเลิกสัญญาถึงวันที่ยึดรถยนต์คืนมาแล้ว ผู้ให้เช่าซื้อย่อมไม่มีสิทธิเรียกให้ผู้เช่าซื้อชำระค่าเสียหายในส่วนนี้อีก
การที่ศาลพิพากษาให้ผู้เช่าซื้อจ่ายค่าเช่าซื้อถึงวันที่ผู้ให้เช่าซื้อยึดรถยนต์คืนมามีผลเท่ากับว่าได้พิพากษาให้ผู้เช่าซื้อจ่ายค่าเสียหายในการที่ผู้ให้เช่าซื้อขาดประโยชน์ไม่ได้ใช้รถยนต์นับจากวันเลิกสัญญาถึงวันที่ยึดรถยนต์คืนมาแล้ว ผู้ให้เช่าซื้อย่อมไม่มีสิทธิเรียกให้ผู้เช่าซื้อชำระค่าเสียหายในส่วนนี้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 695/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โจทก์ร่วม: การฟ้องละเมิดร่วมกัน แม้ค่าเสียหายต่างกัน ก็รวมฟ้องได้ตามมาตรา 59 ว.พ.พ.
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 59 บัญญัติว่า"บุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปอาจเป็นคู่ความในคดีเดียวกันได้โดยเป็นโจทก์ร่วมหรือจำเลยร่วม ถ้าหากปรากฏว่าบุคคลเหล่านั้นมีผลประโยชน์ร่วมกันในมูลความแห่งคดี ......ฯลฯ" ซึ่งหมายความว่าต้องมีส่วนได้เสียร่วมกันในมูลเหตุอันเป็นรากฐานแห่งคดีนั้นโดยถือหนี้อันเป็นมูลของคดีนั้นเป็นสารสำคัญ ฉะนั้นในกรณีทำละเมิดต่อโจทก์หลายคนร่วมกันแม้ค่าเสียหายของโจทก์แต่ละคนจะแยกต่างหากจากกันได้ ก็อาจเป็นโจทก์ร่วมกันในคดีเดียวกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 695/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องร่วมคดีละเมิด: ผลประโยชน์ร่วมกันในมูลเหตุเป็นสำคัญ แม้ค่าเสียหายต่างกัน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 59 บัญญัติว่า'บุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปอาจเป็นคู่ความในคดีเดียวกันได้โดยเป็นโจทก์ร่วมหรือจำเลยร่วม ถ้าหากปรากฏว่าบุคคลเหล่านั้นมีผลประโยชน์ร่วมกันในมูลความแห่งคดี ......ฯลฯ' ซึ่งหมายความว่าต้องมีส่วนได้เสียร่วมกันในมูลเหตุอันเป็นรากฐานแห่งคดีนั้น โดยถือหนี้อันเป็นมูลของคดีนั้นเป็นสารสำคัญ ฉะนั้นในกรณีทำละเมิดต่อโจทก์หลายคนร่วมกันแม้ค่าเสียหายของโจทก์แต่ละคนจะแยกต่างหากจากกันได้ ก็อาจเป็นโจทก์ร่วมกันในคดีเดียวกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 693/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องเคลือบคลุม: การเรียกร้องค่าเสียหายต้องระบุรายละเอียดความเสียหายและเหตุผลสนับสนุนชัดเจน
โจทก์กล่าวในฟ้องแต่เพียงว่า "เมื่อจำเลยผิดสัญญากับโจทก์ ย่อมเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงิน 3,500,000 บาท" ความเสียหายนี้จะเสียหายอย่างไรเพราะเหตุอะไร และเป็นจำนวนมากน้อยเพียงใด โจทก์มิได้กล่าวและแสดงรายละเอียดมาในฟ้องเลย เป็นการยากที่จำเลยจะต่อสู้คดีได้ถูกต้อง คำฟ้องของโจทก์ในเรื่องค่าเสียหายจึงเป็นคำฟ้องที่มิได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ และคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 676/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทเลินเล่อทั้งสองฝ่าย ค่าเสียหายเป็นพับกันไป จำเลยไม่ต้องรับผิด
เมื่อคนขับรถยนต์ของฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยต่างขับรถชนกันโดยความประมาทเลินเล่อมิได้ยิ่งหย่อนกว่ากัน ก็เท่ากับว่าทั้งสองฝ่ายต่างทำละเมิดต่อกันเท่าๆ กันค่าเสียหายย่อมเป็นพับกันไปจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3892/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากสัญญาเช่า: ธนาคารมีสิทธิเรียกร้องค่าขาดประโยชน์เมื่อจำเลยผิดสัญญาโอนสิทธิเช่าและทราบวัตถุประสงค์การใช้งาน
ธนาคารโจทก์ผู้รับโอนสิทธิการเช่าได้มีเอกสารแจ้งจำเลยผู้โอนแล้วว่าจะใช้ตึกอาคารพิพาทเป็นที่ตั้งสำนักงานสาขาของธนาคารโจทก์ เมื่อจำเลยผิดสัญญาไม่จัดการโอน ฉะนั้น ค่าเสียหายเป็นค่าขาดประโยชน์ในกรณีนี้ จึงเป็นค่าเสียหายที่จำเลยได้คาดเห็นแล้ว หาใช่นอกเหนือจากการคาดการณ์ของจำเลยหรือไกลกว่าเหตุไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3854/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องค่าเสียหายจากอุบัติเหตุ: ค่าเสื่อมราคาและค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ
เอกสารท้ายฟ้องและคำขอท้ายคำฟ้องของโจทก์บรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับค่าเสื่อมราคาของรถและค่าขาดประโยชน์ในการที่ไม่ได้ใช้รถไว้โดยแจ้งชัด รวมทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา ซึ่งจำเลยสามารถเข้าใจได้ดี ฟ้องของโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับค่าเสื่อมราคาของรถและค่าขาดประโยชน์ในการที่ไม่ได้ใช้รถจึงสมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง และปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ทั้งเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์จึงมีอำนาจวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3769/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกร้องค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม: สิทธิในการฟ้องร้องต่อศาลแรงงานและคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์เป็นสิทธิแยกต่างหาก ไม่ถือเป็นฟ้องซ้ำ
เงินที่โจทก์มีสิทธิได้รับเมื่อถูกเลิกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน และตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 582 เป็นคนละส่วนกับค่าเสียหายตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์มาตรา 41(4) แม้โจทก์จะได้รับเงินตามประกาศและกฎหมายดังกล่าวไปแล้วก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องเรียกเงินตาม พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ มาตรา 41(1) อีก ฟ้องโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำ