พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,244 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษที่หนักขึ้นโดยศาลอุทธรณ์ถือเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ไม่อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้
คดีที่ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกับศาลชั้นต้นว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายบทเดียวกันเป็นแต่ใช้ดุลพินิจในการลงโทษหนักขึ้นและลดโทษฐานปราณีน้อยลงแต่ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปีดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการฎีกาในคดีทุนทรัพย์น้อยกว่า 5,000 บาท และการวินิจฉัยข้อเท็จจริงของศาลอุทธรณ์
โจทก์ตั้งทุนทรัพย์ ไว้ในฟ้อง 2,500 บาท มาในชั้นฎีกามี ป.วิ.แพ่ง แก้ไขใหม่ว่าทุนทรัพย์ไม่เกิน 5,000 บาท ฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ ดั่งนี้ กฎหมายที่แก้ใหม่เป็นวิธีสบัญญัติ ใช้บังคับได้ทันที โจทก์จึงฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลอุทธรณ์ไม่จำต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาเสมอไป หากพยานหลักฐานมีอย่างไรในสำนวน ศาลอุทธรณ์ก็วินิจฉัยตามนั้นได้เมื่อมีประเด็น.
ศาลอุทธรณ์ไม่จำต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาเสมอไป หากพยานหลักฐานมีอย่างไรในสำนวน ศาลอุทธรณ์ก็วินิจฉัยตามนั้นได้เมื่อมีประเด็น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเนื่องจากทุนทรัพย์ไม่เกินเกณฑ์ และศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงตามสำนวนได้
โจทก์ตั้งทุนทรัพย์ ไว้ในฟ้อง 2,500 บาทมาในชั้นฎีกามีประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง แก้ไขใหม่ว่าทุนทรัพย์ไม่เกิน5,000 บาท ฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ดั่งนี้ กฎหมายที่แก้ใหม่เป็นวิธีสบัญญัติ ใช้บังคับได้ทันที โจทก์จึงฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลอุทธรณ์ไม่จำต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาเสมอไป หากพยานหลักฐานมีอย่างไรในสำนวนศาลอุทธรณ์ก็วินิจฉัยตามนั้นได้เมื่อมีประเด็น
ศาลอุทธรณ์ไม่จำต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาเสมอไป หากพยานหลักฐานมีอย่างไรในสำนวนศาลอุทธรณ์ก็วินิจฉัยตามนั้นได้เมื่อมีประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกที่ดินพิพาท ศาลอุทธรณ์แก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อย ศาลฎีกาพิพากษายืนตาม
คดีพิพาทกันด้วยเรื่องที่ดินราคา 2,000 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ผู้ร้องได้ 2 ส่วน ผู้คัดค้านได้ 1 ส่วน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ผู้ร้องและผู้คัดค้านได้คนละส่วน เช่นนี้ถือว่าเป็นการแก้น้อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1994-1995/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษทางอาญาโดยศาลอุทธรณ์และข้อจำกัดในการฎีกาในข้อเท็จจริง รวมถึงประเด็นการบรรยายฟ้อง
ศาลชั้นต้นลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.251, 59 จำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์ก็คงลงโทษตาม ม.251, 59 ดุจกัน แต่ให้จำคุก 4 ปี เช่นนี้เป็นกรณีแก้ไขน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 218
โจทก์บรรยายฟ้องหาว่า จำเลยหลายคนกระทำผิดฐานวิวาททำให้คนตายตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.253 เท่านั้น จะลงโทษจำเลยจำเลยคนที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายในคดีนี้ในฐานฆ่าคนตายตาม ม.251 ไม่ได้ แม้จะฟังได้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะบาดแผลที่ถูกจำเลยคนนั้นทำร้ายก็ตาม
ศาลชั้นต้นไม่ลงโทษจำเลยที่ 3 และโจทก์ก็ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยที่ 3 ไม่ได้
โจทก์บรรยายฟ้องหาว่า จำเลยหลายคนกระทำผิดฐานวิวาททำให้คนตายตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.253 เท่านั้น จะลงโทษจำเลยจำเลยคนที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายในคดีนี้ในฐานฆ่าคนตายตาม ม.251 ไม่ได้ แม้จะฟังได้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะบาดแผลที่ถูกจำเลยคนนั้นทำร้ายก็ตาม
ศาลชั้นต้นไม่ลงโทษจำเลยที่ 3 และโจทก์ก็ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยที่ 3 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1994-1995/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษที่ศาลอุทธรณ์ และการลงโทษจำเลยเกินขอบเขตฟ้อง
ศาลชั้นต้นลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251,59จำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์ก็คงลงโทษตาม มาตรา 251,59 ดุจกัน แต่ให้จำคุก 4 ปี เช่นนี้เป็นกรณีแก้ไขน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
โจทก์บรรยายฟ้องหาว่าจำเลยหลายคนกระทำผิดฐานวิวาททำให้คนตายตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 253 เท่านั้นจะลงโทษจำเลยคนที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายในคดีนี้ในฐานฆ่าคนตายตาม มาตรา 251 ไม่ได้ แม้จะฟังได้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะบาดแผลที่ถูกจำเลยคนนั้นทำร้ายก็ตาม
ศาลชั้นต้นไม่ลงโทษจำเลยที่ 3 และโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยที่ 3 ไม่ได้
โจทก์บรรยายฟ้องหาว่าจำเลยหลายคนกระทำผิดฐานวิวาททำให้คนตายตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 253 เท่านั้นจะลงโทษจำเลยคนที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายในคดีนี้ในฐานฆ่าคนตายตาม มาตรา 251 ไม่ได้ แม้จะฟังได้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะบาดแผลที่ถูกจำเลยคนนั้นทำร้ายก็ตาม
ศาลชั้นต้นไม่ลงโทษจำเลยที่ 3 และโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยที่ 3 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลฎีกาเมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงขัดกับข้อจำกัดการอุทธรณ์
เมื่อศาลฎีกาเห็นว่า คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ไม่ถูกกฎหมาย เพราะเป็นคดีต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ซึ่งศาลอุทธรณ์ต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลชั้นต้น แต่ศาลอุทธรณ์กลับวินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงไปเสียตรงข้าม ดังนี้ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาโดยถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นฟังมา ไปได้ทีเดียว (โดยไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1692/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์ในการวินิจฉัยข้อเท็จจริงนอกเหนือจากที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัย และการไม่ตรงกับประเด็นฟ้อง
การวินิจฉัยข้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์จะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยจากคำพยานหลักฐานในท้องสำนวน แต่เรื่องนี้ศาลชั้นต้นยังหาได้วินิจฉัยประเด็นเรื่องโจทก์ได้บอกเลิกการเช่าแก่จำเลยแล้ว และเรื่องจำเลยใช้สถานที่ประกอบการค้า ศาลอุทธรณ์จึงวินิจฉัยไม่ตรงตามข้อหาในชั้นฟ้องอุทธรณ์ เป็นการไม่ชอบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1545/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเนื่องจากคดีทุนทรัพย์น้อยกว่า 5,000 บาท และศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
คดีโจทก์เป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ไม่เกิน 5,000 บาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และโจทก์ยื่นฎีกาเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2499 ดังนี้ฎีกาของโจทก์จึงเป็นฎีกาที่ต้องห้ามตามความในมาตรา 25 แห่ง พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2499 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2499 เป็นต้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1541/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีซ้ำเกี่ยวกับการแบ่งมรดก ศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดประเด็นสำคัญ โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีใหม่ได้
เกี่ยวกับที่ดินแปลงเดียวกันทุกคดี
คดีแรกถึงที่สุดเพียงศาลชั้นต้น ซึ่งพิพากษาให้แบ่งที่ดินเฉพาะส่วนที่โจทก์จะได้รับตามพินัยกรรม ข้อ 1. เพราะโจทก์ขอรับเพียงส่วนตามพินัยกรรมเท่านั้น
คดีที่ 2. ถึงที่สุดชั้นศาลอุทธรณ์ โดยให้ยกคำชี้ขาดของศาลชั้นต้นที่ชี้ขาดไว้ว่าโจทก์จำเลยปกครองที่พิพาทร่วมกัน
โจทก์จึงมาฟ้องขอแบ่งที่ดินซึ่งเป็นกองกลางตามพินัยกรรม ข้อ 3. เช่นนี้ การฟ้องคดีใหม่นี้ ไม่เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีแรกและคดีที่ 2.
คดีแรกถึงที่สุดเพียงศาลชั้นต้น ซึ่งพิพากษาให้แบ่งที่ดินเฉพาะส่วนที่โจทก์จะได้รับตามพินัยกรรม ข้อ 1. เพราะโจทก์ขอรับเพียงส่วนตามพินัยกรรมเท่านั้น
คดีที่ 2. ถึงที่สุดชั้นศาลอุทธรณ์ โดยให้ยกคำชี้ขาดของศาลชั้นต้นที่ชี้ขาดไว้ว่าโจทก์จำเลยปกครองที่พิพาทร่วมกัน
โจทก์จึงมาฟ้องขอแบ่งที่ดินซึ่งเป็นกองกลางตามพินัยกรรม ข้อ 3. เช่นนี้ การฟ้องคดีใหม่นี้ ไม่เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีแรกและคดีที่ 2.