คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อำนาจศาล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,218 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่ารักษาทรัพย์ยึดช้าง: ศาลมีอำนาจสั่งจ่ายตามความเห็นสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ค่ารักษาทรัพย์ เป็นค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี ซึ่งศาลอาจจะพิจารณาสั่งให้ได้ตามที่เห็นสมควรตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานต่างประเด็น และอำนาจศาลในการไม่อนุญาตเลื่อนคดี
เหตุที่กฎหมายบัญญัติให้ฝ่ายที่นำสืบภายหลังถามค้านพยานของฝ่ายที่นำสืบก่อนเพื่อที่ตนจะนำพยานสืบหักล้างหรือเพื่อพิสูจน์ไว้เสียก่อนนั้น ก็เพื่อให้พยานของฝ่ายที่ต้องนำสืบก่อนมีโอกาศอธิบายถึงข้อความเหล่านั้น แต่ถ้าพยานของแต่ละฝ่ายต่างอ้างว่าอยู่คนละแห่ง คนละฐานที่ รู้เห็นเหตุการณ์คนละอย่าง ต่างประเด็นกัน เช่นนี้ ฝ่ายที่นำสืบภายหลังก็ไม่ต้องถามค้านพยานของฝ่ายที่นำสืบก่อนดังกล่าวข้างต้น
การขอเลื่อนคดี แม้อีกฝ่ายไม่คัดค้าน แต่เมื่อศาลเห็นว่าไม่มีเหตุจำเป็นพอที่จะเลื่อนคดี จะไม่อนุญาตให้เลื่อนก็ได้
ทนายโจทก์ลงชื่อรับรองในคำร้องที่ขอเลื่อนว่า "รอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว" เช่นนี้ ถือได้ว่าทนายโจทก์ได้ทราบคำสั่งศาลที่ไม่อนุญาติให้เลื่อนคดีในวันที่ศาลสั่งนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถามค้านพยาน & การเลื่อนคดี: ศาลมีอำนาจพิจารณาตามความจำเป็น และการนำสืบต้องสอดคล้องกัน
เหตุที่กฎหมายบัญญัติให้ฝ่ายที่นำสืบภายหลังถามค้านพยานของฝ่ายที่นำสืบก่อนเพื่อที่ตนจะนำพยานสืบหักล้างหรือเพื่อพิสูจน์ไว้เสียก่อนนั้นก็เพื่อให้พยานของฝ่ายที่ต้องนำสืบก่อนมีโอกาสอธิบายถึงข้อความเหล่านั้น แต่ถ้าพยานของแต่ละฝ่ายต่างอ้างว่าอยู่คนละแห่ง คนละฐานที่รู้เห็นเหตุการณ์คนละอย่าง ต่างประเด็นกัน เช่นนี้ฝ่ายที่นำสืบภายหลังก็ไม่ต้องถามค้านพยานของฝ่ายที่นำสืบก่อนดังกล่าวข้างต้น
การขอเลื่อนคดี แม้อีกฝ่ายไม่คัดค้านแต่เมื่อศาลเห็นว่าไม่มีเหตุจำเป็นพอที่จะเลื่อนคดี จะไม่อนุญาตให้เลื่อนก็ได้
ทนายโจทก์ลงชื่อรับรองในคำร้องที่ขอเลื่อนว่า 'รอฟังคำสั่งอยู่ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว' เช่นนี้ ถือได้ว่าทนายโจทก์ได้ทราบคำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีในวันที่ศาลสั่งนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1279/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการปรับปรุงการจัดการมรดกตามพินัยกรรมเมื่อมีพฤติการณ์เปลี่ยนแปลง และการตีความเจตนาผู้ทำพินัยกรรม
ผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมนั้น เมื่อมีพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงไป ศาลมีอำนาจที่จะถอดถอนหรือสั่งตั้งผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลเพิ่มเติมได้
พินัยกรรมมีข้อความว่า ข้อ 3 เงินผลประโยชน์ที่เก็บได้จากพื้นที่และตึกเรือนโรงดังกล่าวไว้ใน ข้อ 1 นั้น เวลานี้ได้ประมาณ 1,800 บาท ซึ่งได้กำหนดส่วนแบ่งให้แก่ 1. หม่อมราชวงศ์กระจ่าง 2. หม่อมราชวงศ์กระจัด สองคนนี้คนหนึ่งเดือนละ 40 บาท แบ่งให้บุตร คือ 1. ฯลฯ แปดคนนี้คนหนึ่งเดือนละ 10 บาท ฯลฯ ดังนี้ถือว่า การที่ผู้มีส่วนได้ตามพินัยกรรมจะได้คนละเท่าใดนั้น มิได้กำหนดเป็นจำนวนบาทตายตัวตลอดไป หากขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ว่า "เวลานี้ได้ประมาณ 1,800 บาท เป็นหลัก นอกจากนั้น ข้อความในพินัยกรรม ข้อ4 ยังกล่าวอีกว่า ถ้าจำนวนเงินผลประโยชน์ที่ได้จากพื้นที่จะลดน้อยลงไปจากหลักที่กำหนด ก็ให้แบ่งให้แก่ผู้มีส่วนได้ลดลงตามส่วนที่จะพึงแบ่งได้ในเวลานั้นทุกประการ" แสดงให้เห็นเจตนาของผู้ทำพินัยกรรมโดยชัดว่า มิประสงค์จะกำหนดให้ผู้มีส่วนได้เป็นจำนวนบาทตายตัว ตามที่ระบุไว้นั้นเวลาทำพินัยกรรมเมื่อ 30 ปีก่อน ที่ดินที่ปรากฏในพินัยกรรมมีผลประโยชน์เดือนละ 1,800 บาท เวลาปัจจุบันนี้ ความจริงมีผลประโยชน์เท่าใด ผู้มีส่วนได้ตามพินัยกรรมก็มีสิทธิที่จะได้ตามอัตราส่วนตามค่าของเงินที่ระบุไว้นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1196/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลฎีกาในการลงโทษกระทงความผิดอื่น แม้ศาลชั้นต้นไม่ลงโทษ หากศาลฎีกายกฟ้องกระทงหลัก
เมื่อศาลชั้นต้นมิได้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯลฯไว้เพราะได้ลงโทษในกระทงหนักแล้ว คือ ความผิดฐานพยายามฆ่าคน หากศาลฎีกาวินิจฉัยฟังว่า จำเลยไม่ต้องรับโทษฐานพยายามฆ่าคน ดังนี้ ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจที่จะกำหนดโทษให้จำเลยต้องรับโทษในความผิดตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯลฯ ได้ ทั้งนี้โดยเห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นวางโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคน นั้น คงจะได้พิจารณาว่า เป็นการลงโทษหนักอยู่แล้ว จึงวางแต่กระทงหนัก เมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยไม่ต้องรับโทษฐานพยายามฆ่าคน ศาลฎีกาก็ควรวางโทษจำเลยในความผิดฐานมีอาวุธปืนไม่ได้รับอนุญาต (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1088/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษทางอาญาจากข้อหาบาดเจ็บสาหัสเป็นบาดเจ็บทั่วไป ศาลมีอำนาจลงโทษตามข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้
โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัสโดยประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ทาง พิจารณาได้ความว่า บาดแผลของผู้เสียหายไม่ถึงสาหัส ศาลก็ลงโทษจำเลยตาม มาตรา 390 ไม่เรียกว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1088/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อหาจากบาดเจ็บสาหัสเป็นบาดเจ็บทั่วไป ศาลมีอำนาจลงโทษได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัสโดยประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา300 ทางพิจารณาได้ความว่า บาดแผลของผู้เสียหายไม่ถึงสาหัส ศาลก็ลงโทษจำเลยตามมาตรา 390 ไม่เรียกว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยนอกเหนือพยานหลักฐาน ศาลฎีกามีอำนาจไม่รับฟังและพิพากษากลับได้
กรณีที่เป็นการวินิจฉัยนอกคำพยานหลักฐานในสำนวนเมื่อข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาเป็นการวินิจฉัยนอกคำพยานหลักฐานในสำนวนศาลฎีกาย่อมไม่จำต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยนอกสำนวนนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 169/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเมื่อโจทก์ขาดนัด และอำนาจศาลในการชี้ขาดคดีตามมาตรา 133
การจำหน่ายคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา132 นั้นไม่เป็นบทบังคับเด็ดขาดศาลอาจชี้ขาดคดีตามมาตรา133 ก็ได้ แต่การจะชี้ขาดดังกล่าวจะทำได้ต่อเมื่อสิ้นการพิจารณา(มาตรา133) ถ้าเป็นเรื่องขาดนัดต้องดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา201 คือศาลสั่งจำหน่ายคดีเว้นแต่จำเลยจะแจ้งต่อศาลว่าตนตั้งใจจะดำเนินคดีต่อไปและศาลได้มีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาแล้ว ทั้งมีการแสดงว่าการพิจารณาได้เสร็จสิ้นแล้วด้วย เมื่อท้องสำนวนไม่ปรากฏว่าศาลได้สั่งให้โจทก์ขาดนัดจำเลยแสดงความจำนงจะดำเนินคดีต่อไปและมีรายงานแสดงว่าการพิจารณาได้เสร็จสิ้นแล้วศาลก็ได้แต่สั่งจำหน่ายคดีจะตัดสินให้ยกฟ้องหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1524/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำและขอบเขตคำพิพากษา: ศาลฎีกาอนุญาตฟ้องซ้ำได้หากคำพิพากษาเดิมเปิดช่องไว้ และคำพิพากษาใช้ยันบุคคลนอกคดีได้
แม้คดีนี้จะมีประเด็นเดียวกับคดีก่อน แต่เมื่อมีคำพิพากษาศาลให้อำนาจแก่โจทก์ที่จะเรียกร้องที่พิพาทอีกได้แล้วฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
เมื่อจำเลยที่ 2 ตั้งประเด็นต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของนายเสงี่ยมเช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 และศาลฎีกาได้พิพากษาไว้ในคดีก่อนระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ว่าไม่ใช่ของนายเสงี่ยม นายเสงี่ยมไม่ได้เกี่ยวข้องครอบครองที่พิพาทแล้ว คำพิพากษาดังกล่าวซึ่งเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์จึงใช้ยันจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลนอกคดีได้
of 222