คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความเสียหาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,842 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าสินไหมทดแทนจากการเลิกสัญญาจ้างทำของ ครอบคลุมถึงกำไรที่ขาดหายไป
ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การเลิกสัญญานั้น ย่อมหมายถึงความเสียหายที่ย่อมเกิดขึ้นแต่การเลิกสัญญาหรือการไม่ชำระหนี้ การขาดประโยชน์ที่ตนควรมีควรได้ หากมิได้มีการเลิกสัญญาย่อมเป็นความเสียหายอันหนึ่ง
การจ้างทำของนั้น สินจ้างมิได้จำกัดว่าจะต้องเป็นสิ่งที่ให้ตอบแทนพอดีฉะเพาะแต่ทุนและค่าแรงงานเสมอไป สินจ้างอาจรวมถึงผลประโยชน์ที่นอกเหนือไปจากทุนและแรงงานที่เรียกกันว่ากำไร นั้นก็ได้
ผู้ว่าจ้างเลิกสัญญาจ้างทำของ โดยผู้รับจ้างมิได้ทำผิดสัญญา เป็นเหตุให้ผู้รับจ้างขาดกำไรที่ควรจะได้ ถ้าไม่มีการเลิกสัญญาไปเท่าใด ผู้ว่าจ้างต้องรับสนองชดใช้ให้เป็นค่าสินไหมทดแทน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าสินไหมทดแทนจากการเลิกสัญญาจ้างทำของ ครอบคลุมถึงกำไรที่ขาดไป
ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอย่างใดๆ อันเกิดแต่การเลิกสัญญานั้น ย่อมหมายถึงความเสียหายที่ย่อมเกิดขึ้น แต่การเลิกสัญญาหรือการไม่ชำระหนี้ การขาดประโยชน์ที่ตนควรมีควรได้ หากมิได้มีการเลิกสัญญาย่อมเป็นความเสียหายอันหนึ่ง
การจ้างทำของนั้น สินจ้างมิได้จำกัดว่าจะต้องเป็นสิ่งที่ให้ตอบแทนพอดีเฉพาะแต่ทุนและค่าแรงงานเสมอไป สินจ้างอาจรวมถึงผลประโยชน์ที่นอกเหนือไปจากทุนและแรงงานที่เรียกกันว่ากำไรนั้นก็ได้
ผู้ว่าจ้างเลิกสัญญาจ้างทำของ โดยผู้รับจ้างมิได้ทำผิดสัญญาเป็นเหตุให้ผู้รับจ้างขาดกำไรที่ควรจะได้ ถ้าไม่มีการเลิกสัญญาไปเท่าใด ผู้ว่าจ้างต้องรับสนองชดใช้ให้เป็น ค่าสินไหมทดแทน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิเช่าทรัพย์สินเกินสมควร และความรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น
เช่าโกดังเก็บของเมื่อไม่มีข้อสัญญาว่า เช่าเก็บอะไรน้ำหนักเท่าใดผู้เช่าก็เก็บของได้เพียงพอควรแก่น้ำหนักของโกดังที่จะทานได้ ถ้าเก็บของเกินน้ำหนักเช่นนั้นแล้วเกิดชำรุดเสียหาย ผู้เช่าต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชนยานพาหนะด้วยเครื่องจักรกล: หลักธรรมดาในการนำสืบ
ยานพาหนะที่เดินด้วยกำลังเครื่องจักรกลโดนกันเสียหายไม่ตกอยู่ในบังคับแห่ง มาตรา 437 ในกรณีเช่นนี้การนำสืบต้องตกอยู่ในหลักธรรมดา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเหมืองแร่ซ้อนกันและการละเมิดสิทธิของผู้เช่ารายแรก เจ้าของเหมืองและผู้เช่ารายหลังต้องรับผิดชอบในความเสียหาย
เจ้าของเหมือแร่ให้เช่าเหมืองแร่ไปแล้ว ต่อมาให้ผู้อื่นเช่าอีกเมื่อผู้เช่ารายหลังเข้าไปทำในทรัพย์ที่เช่า ก็ถือว่าเจ้าของและผู้เช่ารายหลังทำละเมิดต่อผู้เช่ารายแรกต้องรับผิดชอบในความเสียหายให้แก่ผู้เช่ารายแรา.
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ไม่เต็มตามฟ้องโจทก์มิได้อุทธรณ์ฎีกา แม้จะได้ความว่า ตามทางพิจารณาว่าโจทก์เสียหายมากกว่าที่ศาลชั้นต้นกะให้ ก็ไม่มีทางแก้ไข.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 56/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทต้องเจาะจงตัวบุคคล คำกล่าวทั่วไปถึงพรรคการเมืองไม่ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทต่อสมาชิก
การที่จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามกฎหมายนั้นถ้อยคำที่กล่าวจะต้องมุ่งเจาะจงตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
กล่าวความว่า คำโฆษณาของพวกและพรรคประชาธิปัตย์เป็นการหลอกลวงราษฎรให้หลงเชื่อ ดังนี้ แม้โจทก์จะแสดงได้ว่าโจทก์เป็นพรรคประชาธิปัตย์ด้วยคนหนึ่ง ก็ไม่ถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายในคดีหมิ่นประมาทเพราะถ้อยคำนั้นมิได้มุ่งหมายถึงโจทก์โดยเฉพาะ
ฟ้องรัฐมนตรีหาว่าใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ทางทุจริตและผิดพระราชบัญญัติการเลือกตั้งโดยออกคำสั่งกล่าวถึงการกระทำของคณะประชาธิปัตย์บางคนกระทำการไม่ชอบต่างๆ แต่มิได้เจาะจงตัวผู้ใดนั้นไม่ถือว่าเป็นการเจาะจงตัวบุคคลหนึ่งบุคคลใดในคณะประชาธิปัตย์ ฉะนั้นคนหนึ่งคนใดในคณะนั้น จึงไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความเสียหายร้ายแรงเพื่อลงโทษฐานทำร้ายร่างกายต้องชัดเจนว่าเป็นการทำให้เสียโอกาสในการทำงาน
โจทก์สืบว่าผู้ถูกทำร้ายทำงานไม่ได้เกินกว่า 20 วันแต่ไม่ปรากฏว่า เป็นงานประกอบการหาเลี้ยงชีพตามปกติหรืองานอะไรนั้น จะลงโทษฐานทำร้ายถึงสาหัส ตาม มาตรา256(8) ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องคดีเลือกตั้ง: ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งแล้ว ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องหากเจ้าพนักงานผิดหน้าที่
กรณีที่หาว่าเจ้าพนักงานไม่ปิดบัตรตัวอย่างและไม่ปิดประกาศบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เป็นการผิด พระราชบัญญัติการเลือกตั้งนั้น ถ้าผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ไปลงคะแนนแล้วย่อมถือว่าผู้นั้นไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษเจ้าพนักงาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สามีไม่มีอำนาจฟ้องอาญาแทนภรรยา หากความเสียหายเกิดขึ้นก่อนสมรส และไม่มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก
สามีไม่มีอำนาจฟ้องความผิดทางอาญา ที่ภรรยาของตนเป็นผู้เสียหาย ในเมื่อมูลความผิดนั้นมีมาก่อนที่ตนได้เป็นสามีภริยากัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยประมาทเลินเล่อจนเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน การฟ้องร้องต้องอาศัยบทบัญญัติที่ชัดเจน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเผาฟืนในเตาเพื่อเคี่ยวนมมีลักษณะน่ากลัวอันตรายแก่คนและห้องแถวและเกิดไหม้หลังคาห้องแถวคิดเป็นเงิน 20 บาท ขอให้ลงโทษตาม ม.186,187 ก.ม.อาญา ศาลพิจารณาเห็นว่า จำเลยควรมีผิดเพียงฐานประมาทตาม ม.201 และโจทก์ไม่ได้กล่าวถึงการประมาท และไม่ได้อ้างกฎหมายเรื่องการประมาทลงโทษจำเลยไม่ได้ (ฎีกาที่ 574/2483)
of 185