พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,266 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 948/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องขับไล่: สัญญาเช่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ที่ดินของโจทก์จริง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่เช่า ซึ่งอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโจทก์ ถ้าจำเลยต่อสู้ว่าที่เช่าเป็นที่สาธารณะ โจทก์หลอกลวงให้หลงเชื่อว่าเป็นที่ของโจทก์เช่นนี้ จำเลยยอมนำสืบได้ และหากข้อเท็จจริงฟังได้ตามข้อต่อสู้ของจำเลย โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 937/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์: ความสำคัญผิด กลฉ้อฉล และการบอกเลิกสัญญา
โจทก์ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่จำเลยผู้เช่า จำเลยให้การว่า ที่ทำสัญญาเช่าเพราะสำคัญผิดและต้องกลฉ้อฉลโดยโจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน แต่ความจริงเป็นที่รกร้างว่างเปล่าหรือที่ชายตลิ่งอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เช่นนี้ถือว่าคำให้การของจำเลยไม่ชัดเจนพอที่จะทำให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องกลฉ้อฉล
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กัน 5 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนการเช่าไว้ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่เมื่อพ้นกำหนด 5 ปีได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวเสียก่อนตามมาตรา 566
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กัน 5 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนการเช่าไว้ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่เมื่อพ้นกำหนด 5 ปีได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวเสียก่อนตามมาตรา 566
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 937/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ดิน: ข้อสำคัญผิด, กลฉ้อฉล, และการบอกกล่าวเลิกสัญญา
โจทก์ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่จำเลยผู้เช่า จำเลยให้การว่าที่ทำสัญญาเช่าเพราะสำคัญผิดและต้องกลฉ้อฉล โดยโจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน แต่ความจริงเป็นที่รกร้างว่างเปล่าหรือที่ชายตลิ่งอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เช่นนี้ถือว่าคำให้การของจำเลยไม่ชัดเจนพอที่จะทำให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องกลฉ้อฉล
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กัน 5 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนการเช่าไว้ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่เมื่อพ้นกำหนด 5 ปีได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวเสียก่อนตามมาตรา 566
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กัน 5 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนการเช่าไว้ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่เมื่อพ้นกำหนด 5 ปีได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวเสียก่อนตามมาตรา 566
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 925/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัว เมื่อผู้เช่าเสียชีวิต สิทธิสิ้นสุดลง ทายาทไม่มีอำนาจฟ้อง
สัญญาเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้เช่า เมื่อผู้เช่าตายสิทธิการเช่าก็ย่อมสิ้นสุดลง จะรับมรดกกันไม่ได้
โจทก์ซึ่งอ้างว่าเป็นทายาทและผู้จัดการมรดกของผู้เช่า ไม่มีอำนาจเข้าสวมสิทธิการเช่าของผู้ตาย และไม่มีอำนาจฟ้องขอบังคับจำเลยให้รื้อถอนเรือนที่ปลูกในที่ดินซึ่งผู้ตายได้เช่าที่ดินส่วนนั้นไว้จากบุคคลภายนอก
โจทก์ซึ่งอ้างว่าเป็นทายาทและผู้จัดการมรดกของผู้เช่า ไม่มีอำนาจเข้าสวมสิทธิการเช่าของผู้ตาย และไม่มีอำนาจฟ้องขอบังคับจำเลยให้รื้อถอนเรือนที่ปลูกในที่ดินซึ่งผู้ตายได้เช่าที่ดินส่วนนั้นไว้จากบุคคลภายนอก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 86/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งมอบทรัพย์ที่ยกให้ และผลของการรับค่าขนย้ายต่อการคุ้มครองสัญญาเช่า
พฤติการณ์ที่ถือได้ว่าเป็นการส่งมอบทรัพย์ที่ยกให้แก่กัน
การที่ผู้เช่าได้รับค่าขนย้ายไปจากห้องเช่าเป็นการแสดงว่าตกลงยินยอมออกจากห้องเช่าจะอ้างว่าการเช่ายังได้รับความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าฯลฯ หาได้ไม่
การที่ผู้เช่าได้รับค่าขนย้ายไปจากห้องเช่าเป็นการแสดงว่าตกลงยินยอมออกจากห้องเช่าจะอ้างว่าการเช่ายังได้รับความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าฯลฯ หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าระงับแล้ว ผู้เช่าไม่ยอมออก เจ้าของมีสิทธิเรียกเงินกินเปล่าจากผู้เช่าเดิมได้
การเช่าตึกเพื่อใช้เป็นที่ประกอบธุรกิจการค้านั้น เมื่อสัญญาเช่าระงับแล้ว ผู้เช่าไม่ยอมออกจากตึกเช่า หากมีผู้มาขอเช่าและให้เงินกินเปล่าแก่ผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่าย่อมมีสิทธิเรียกเงินกินเปล่าจากผู้เช่าเดิมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าและการรอนสิทธิในทรัพย์สินของผู้เช่าหลังบอกเลิกสัญญา
เมื่อตึกพิพาทมิได้เป็นเคหะจำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯแล้ว ก็ไม่มีทางที่จำเลยจะมาคัดค้านว่าโจทก์ทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ ประการใดได้ เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่ากับจำเลยโดยชอบแล้ว จำเลยยังขืนอยู่ในตึกของโจทก์โดยไม่มีสิทธิ์อย่างใด จึงเป็นการจงใจกระทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายให้โจทก์ต้องเสียหายในสิทธิแห่งทรัพย์สินของโจทก์ จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อกม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าและการพิพากษาคดีขับไล่ เมื่อจำเลยยังคงอยู่ในอสังหาริมทรัพย์หลังบอกเลิกสัญญา
เมื่อตึกพิพาทมิได้เป็นเคหะ จำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ แล้วก็ไม่มีทางที่จำเลยจะมาคัดค้านว่าโจทก์ทำผิด พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯประการใดได้
เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่ากับจำเลยโดยชอบแล้วจำเลยยังขืนอยู่ในตึกของโจทก์โดยไม่มีสิทธิอย่างใดจึงเป็นการจงใจกระทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายให้โจทก์ต้องเสียหายในสิทธิแห่งทรัพย์สินของโจทก์จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อกฎหมาย
เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่ากับจำเลยโดยชอบแล้วจำเลยยังขืนอยู่ในตึกของโจทก์โดยไม่มีสิทธิอย่างใดจึงเป็นการจงใจกระทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายให้โจทก์ต้องเสียหายในสิทธิแห่งทรัพย์สินของโจทก์จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 681-686/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิให้เช่าหลังยกตึกให้เทศบาล: คำพิพากษาตามยอมสร้างสิทธิได้ แม้ไม่มีสัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษร
เดิมโจทก์เช่าที่ดินจากเทศบาลปลูกตึกพิพาท และจำเลยเป็นผู้เช่าตึกพิพาทจากโจทก์ ต่อมาเทศบาลได้ฟ้องขับไล่โจทก์ให้รื้อตึกพิพาท ในคดีนั้นศาลพิพากษาตามยอม คือโจทก์ยอมยกตึกพิพาทให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเทศบาลและทางเทศบาลยอมให้โจทก์เช่าตึกพิพาทต่อไปอีก 1 ปี โดยมีเงื่อนไขว่าให้โจทก์ไปทำสัญญาเช่าเป็นหนังสือต่อเทศบาลภายในวันที่ 1 เม.ย.98 แต่แล้วโจทก์ก็มิได้ไปทำสัญญาเช่ากับเทศบาลเลยเช่นนี้ คำพิพากษาตามยอมนั้นแสดงว่าเทศบาลยอมให้โจทก์เช่าตึกพิพาทนี้แล้วด้วย ส่วนเงื่อนไขที่ว่าต้องไปทำสัญญาเช่าเป็นหนังสือนั้น เป็นแต่เพียงพิธีการ ภายหลังจากที่โจทก์ยกตึกพิพาทให้เทศบาลนั้นแล้ว เทศบาลไม่ได้เปลี่ยนแปลงฐานะที่จะให้เช่าโจทก์จึงมีสิทธิให้จำเลยเช่าตึกพิพาทและมีสิทธิฟ้องจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ & ข้อตกลงนอกสัญญาเช่า: ข้อห้ามการสืบพยานเพิ่มเติมเอกสาร
ผู้มอบอำนาจให้ดำเนินคดีได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือในหนังสือมอบอำนาจและมีบุคคล 2 คนลงลายมือชื่อเป็นพยานในหนังสือมอบอำนาจนั้นแม้มิได้มีข้อความไว้ด้วยว่ารับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้มอบอำนาจก็นับว่าเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือนั้นด้วย (อ้างฎีกาที่ 521/2496)
ผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์จะขอนำสืบพยานบุคคลว่าได้มีข้อตกลงกันไว้ว่าเมื่อหมดสัญญาเช่าแล้วก็ต้องทำสัญญาเช่ากันใหม่โดยในหนังสือสัญญาเช่าไม่มีข้อความเช่นว่านั้นเลย หาได้ไม่เพราะเป็นการขอสืบพยานบุคคลเพิ่มเติมข้อความในเอกสารซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
ผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์จะขอนำสืบพยานบุคคลว่าได้มีข้อตกลงกันไว้ว่าเมื่อหมดสัญญาเช่าแล้วก็ต้องทำสัญญาเช่ากันใหม่โดยในหนังสือสัญญาเช่าไม่มีข้อความเช่นว่านั้นเลย หาได้ไม่เพราะเป็นการขอสืบพยานบุคคลเพิ่มเติมข้อความในเอกสารซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94