คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กฎหมาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,377 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองบุตรนอกกฎหมาย: การเลี้ยงดูและจดทะเบียนเป็นหลักฐานการรับรองตามกฎหมาย
บุตรนอกกฎหมายนั้นเมื่อมีพฤติการณ์แสดงออก เช่น บิดาได้เลี้ยงดู ให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนว่าเป็นบุตรของตน และให้ใช้นามสกุล เช่นนี้แล้วย่อมเป็นการแสดงว่าบิดาได้รับรองแล้วตาม ป.พ.พ. มาตรา 1627 ไม่จำเป็นต้องไปจดทะเบียนตาม พ.ร.บ.ครอบครัว ซึ่งผิดกับกรณีที่จะจดทะเบียนเด็กให้เป็นบุตรตาม ป.พ.พ. มาตรา 1527 และพ.ร.บ.จดทะเบียนครอบครัว พ.ศ. 2478 มาตรา 19 (ฎีกาที่ 1503/2497)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองบุตรนอกกฎหมาย: พฤติการณ์เลี้ยงดูและจดทะเบียนเป็นบุตรเพียงพอตามกฎหมาย
บุตรนอกกฎหมายนั้นเมื่อมีพฤติการณ์แสดงออก เช่น บิดาได้เลี้ยงดู ให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนว่าเป็นบุตรของตน และให้ใช้นามสกุล เช่นนี้ แล้วย่อมเป็นการแสดงว่าบิดาได้รับรองแล้วตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 ไม่จำเป็นต้องไปจดทะเบียนตาม พระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัวซึ่งผิดกับกรณีที่จะจดทะเบียนเด็กให้เป็นบุตรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1527 และพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พ.ศ.2478 มาตรา 19
(ฎีกาที่ 1503/2497)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขยายเวลาไถ่ถอนการขายฝากเกินกำหนดตามกฎหมาย มิชอบด้วย ป.พ.พ. มาตรา 496
ขายฝากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกันถูกต้องตามกฎหมาย กำหนดไถ่ถอนภายใน 1 ปี ในวันครบกำหนดได้ตกลงขยายการไถ่ถอนกันด้วยปากเปล่าต่อไป 1 ปี ครั้งครบกำหนดได้ตกลงทำหนังสือว่ายอมให้ต่อการไถ่ถอนกันไปอีก 1 ปี ต่อมาภายในกำหนดเวลาไถ่ถอนครั้งที่ 2 ผู้ขายฝากไปขอไถ่ถอน ดังนี้ ถือว่าข้อตกลงนั้นเป็นการขยายเวลาไถ่ถอนการขายฝาก ไม่ใช่เป็นเรื่องคำมั่นจะขายทรัพย์ที่ขายฝาก
เมื่อถึงกำหนดไถ่ถอนการขายฝาก จะตกลงขยายเวลาการขายฝากในภายหลังไม่ได้ ขัดต่อป.พ.พ. มาตรา 496

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้ใหม่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ทำให้หนี้เดิมยังคงมีผลบังคับใช้
จำเลยตกลงเอาที่นาเนื้อที่ 70 ไร่ ตีราคาชำระเท่าหนี้เงินของโจทก์ ต่อมาประมวลกฎหมายที่ดินออกประกาศใช้ตามมาตรา 34 ให้บุคคลมีที่ดินเพื่อทำการเกษตรกรรมได้ไม่เกิน 50 ไร่ และปรากฎว่ายังมิได้มีการโอนที่นาให้โจทก์ตามข้อตกลงนั้น หนี้อันจะพึงเกิดขึ้นเพราะแปลงหนี้ใหม่นี้มิได้เกิดขึ้น หนี้เงินเดิมจึงยังหาระงับไปไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีธนบัตรปลอม แม้ธนบัตรจะถูกยกเลิกใช้ภายหลังการกระทำผิด ก็ยังคงเป็นความผิดตามกฎหมาย
การมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งธนบัตรปลอมของรัฐบาลต่างประเทศนั้น แม้ภายหลังการกระทำผิด รัฐบาลเจ้าของธนบัตรจะได้ประกาศเลิกใช้ธนบัตรนั้นก็ตาม ถ้าไม่ใช่เป็นการยกเลิกบทกฎหมายที่บัญญัติถึงความผิดแล้ว ผู้กระทำผิดก็ยังคงต้องรับโทษอยู่
ความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งธนบัตรปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา244 เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดจึงนำเอากฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 203 ที่แก้ไขแล้วมาลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1054/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องล้มละลายต้องมีองค์ประกอบครบถ้วนตามกฎหมาย การมีหนี้สินเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ
หลักกฎหมายในการที่จะฟ้องขอให้ลูกหนี้ล้มละลายได้ จะต้องประกอบพร้อมทั้ง 3 ประการตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา9 มิใช่เพียงข้อใดข้อหนึ่งเพียงข้อเดียวเท่านั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวตามข้อสันนิษฐานใน มาตรา 8 โดยโจทก์ได้ทวงถามหลายครั้ง จำเลยก็ไม่ชำระหนี้แต่จำเลยนำสืบได้ว่าจำเลยไม่ได้เป็นหนี้ใครและจำเลยมีทรัพย์สมบัติมาก เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว จะฟ้องให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 90/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน: จำเลยต้องมีความผิดหรือไม่ และบทกฎหมายที่ใช้
จะอ้างแต่เพียงว่าบาดเจ็บของจำเลยทั้งสองถูกอะไรไม่ปรากฏแต่ผลเกิดจากจำเลยทั้งสองชกต่อยและกอดปล้ำทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันยืนยันขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญา มาตรา254,256 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 638/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกิจการโดยผลของกฎหมาย ไม่ใช่การโอนหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
การรถไฟแห่งประเทศไทยรับโอนกิจการของกรมรถไฟกระทรวงคมนาคมมาโดยผลของกฎหมายจึงไม่ใช่ลักษณะโอนหนี้และฉะนั้นกรมรถไฟจึงไม่ต้องแจ้งการโอนหนี้ให้ลูกหนี้ทราบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 559/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยรับการชน ความรับผิดในการพิสูจน์เปลี่ยนเป็นของจำเลยตามกฎหมาย
แม้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 84 จะบังคับให้ฝ่ายที่กล่าวอ้างข้อเท็จจริงใดๆ เป็นฝ่ายนำสืบก็ดีแต่เมื่อจำเลยรับแล้วว่า รถยนต์ที่จำเลยควบคุมมาชนรถจักรยานสามล้อโจทก์เช่นนี้หน้าที่นำสืบปลดเปลื้องความรับผิดย่อมตกแก่จำเลย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 437

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลบหนีจากการควบคุมตัวโดยการหักโซ่ ไม่ถือเป็นการหลบหนีจากที่คุมขังตามกฎหมาย
การล่ามโซ่ไม่ใช่ที่คุมขังตาม มาตรา 164
จำเลยหักโซ่หลบหนีไปจากการควบคุมระหว่างผู้ใหญ่บ้านควบคุมตัวไปส่งพนักงานสอบสวน ดังนี้จำเลยมีความผิดตามมาตรา 163 เท่านั้น.
of 238