คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลอุทธรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,244 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลล่างและลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่าง และให้จำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปีคู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหาได้ไม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ถึงแม้ว่าจำเลยจะอ้างว่าคดีมีปัญหาข้อกฎหมาย แต่บรรยายมาเป็นการคัดค้านเกี่ยวกับการวินิจฉัยข้อเท็จจริงดังนี้ก็ย่อมต้องห้ามฎีกาเช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษรวมกะทงความผิดต่อเนื่อง: ศาลฎีกาตัดสินว่าไม่ชอบที่ศาลอุทธรณ์นำโทษความผิดที่ถึงที่สุดแล้วมารวมกับโทษฐานลักทรัพย์
โจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำอนาจารและลักทรัพย์ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกระทำอนาจารข้อหาฐานลักทรัพย์ให้ยกโจทก์แต่ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ดังนี้ข้อหาฐานอนาจารจึงถึงที่สุดแล้ว แม้ศาลอุทธรณ์จะฟังว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์อีกกะทงหนึ่งก็ตาม ศาลอุทธรณ์จะพิพากษารวมกะทงลงโทษจำเลยโดยเอาโทษฐานอนาจารซึ่งถึงที่สุดแล้วมารวมเข้าด้วย(โดยพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ตาม ก.ม.อาญา ม.288 กะทงหนึ่ง และ ม. 246 อีกกะทงหนึ่ง แต่รวมกะทงลงโทษจำเลยให้จำคุกจำเลย 1 ปี ฯลฯ) ดังนี้หาเป็นการชอบไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นในคดีอาญาที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีต่อกะทง
เมื่อจำเลยต้องโทษจำคุกสองกะทง ๆ หนึ่ง 5 ปี อีกกะทงหนึ่ง 1 ปี ซึ่งแต่ละกะทงไม่เกิน 5 ปีโดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นแล้ว จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญา: การฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
เมื่อจำเลยต้องโทษจำคุกสองกระทงๆ หนึ่ง 5 ปี อีกกระทงหนึ่ง 1 ปีซึ่งแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามโดยศาลชั้นต้นแล้วจำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596-598/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเท็จและการรับรองพยานหลักฐานจากสำนวนอื่น ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
คดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ เมื่อศาลตรวจฟ้องถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158 และสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องแล้วก็ถือว่าเป็นฟ้องตามกฎหมายและจะถือว่าผู้ถูกฟ้องยังไม่เป็นจำเลยหาได้ไม่ หากแต่ได้รับผ่อนผันยกเว้นสำหรับการดำเนินคดีในเบื้องต้นเท่านั้นฉะนั้นถ้าจะเป็นฟ้องเท็จก็อาจเป็นผิดตาม กฎหมายอาญา มาตรา 158,159 ได้ คดีอาญาที่คู่ความเพียงแต่อ้างสำนวนการพิจารณาในคดีอื่นมาเป็นพยานหลักฐานในคดีหลังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการพิจารณาและสืบพยานในศาลตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 579/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามตาม ม.219 เมื่อศาลชั้นต้นและอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงต่างกัน
คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ยกฟ้องโจทก์ยืนตามศาลชั้นต้นโดยอาศัยข้อเท็จจริงนั้นแม้จะเป็นข้อเท็จจริงแต่ละอย่างทั้งสองศาลก็ตามโจทก์ก็ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามตามมาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานหลังจำเลยรับสารภาพ และอำนาจศาลอุทธรณ์ในการสั่งสืบพยานเพิ่มเติม
ในคดีอาญาที่มีอัตราโทษจำคุก ถึง 10 ปี เมื่อจำเลยรับสารภาพแล้ว แม้จะได้สืบผู้เสียหายไปยังไม่ทันเสร็จ ศาลชั้นต้นจะงดสืบพะยานโจทก์เสียและพิพากษาลงโทษจำเลยก็ได้ เมื่อเห็นว่าตามฟ้อง คำรับสารภาพของจำเลยและคำพะยานที่สืบแล้วเป็นที่พอใจว่าจำเลยได้กระทำจริง
เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นควรจะได้สืบพะยานต่อไป ก็ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพะยานให้แล้วส่งสำนวนคืนให้ศาลอุทธรณ์เพื่อวินิจฉัยตาม ม. 208 ข้อ 1. ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามม.208 ข้อ 2. ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานหลังจำเลยรับสารภาพ และอำนาจศาลอุทธรณ์ในการสั่งสืบพยานเพิ่มเติม
ในคดีอาญาที่มีอัตราโทษจำคุกถึง 10 ปีเมื่อจำเลยรับสารภาพแล้วแม้จะได้สืบผู้เสียหายไปยังไม่ทันเสร็จ
ศาลชั้นต้นจะงดสืบพยานโจทก์เสียและพิพากษาลงโทษจำเลยก็ได้เมื่อเห็นว่าตามฟ้องคำรับสารภาพของจำเลยและคำพยานที่สืบแล้วเป็นที่พอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง
เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นควรจะได้สืบพยานต่อไปก็ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานให้แล้วส่งสำนวนคืนให้ศาลอุทธรณ์เพื่อวินิจฉัยตาม มาตรา 208 ข้อ 1. ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตาม มาตรา 208 ข้อ 2 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษทางอาญาเนื่องจากถูกยั่วยุให้เข้าต่อสู้ และการพิจารณาข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์แก้ไข
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปี ตาม ม. 251,+ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้ลดโทษจำเลยฐานยั่วโทษะตาม ม.55 ด้วย คงจำคุก 1 ปี 6 เดิอน ดังนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้มาก คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
การที่ฝ่ายหนึ่งยั่วโทษะอีกฝ่ายหนึ่งให้เข้าต่อสู้ทำร้ายกันก็อาจลดโทษฐานยั่วโทษะตาม ม.55 ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 10/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 339/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันเกินกว่าเหตุและการลดโทษในคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
คดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 249,53 ให้จำคุก 20 ปี และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยผิดตาม มาตรา249,53 เช่นเดียวกับศาลชั้นต้น แต่แก้อัตราโทษเป็นจำคุกจำเลยไว้เพียง 6 ปีและลดตามมาตรา 59 อีกคงเหลือโทษจำคุกเพียง 4 ปี เช่นนี้เป็นการแก้มาก ฎีกาได้ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 (ประชุมใหญ่)
of 225