คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญญาเช่า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,266 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจบอกเลิกสัญญาเช่าทางวาจาได้
การมอบให้ทนายความบอกกล่าวเลิกการเช่าบ้าน ไม่มีกฎหมายกำหนดให้ทำเป็นหนังสือการตั้งตัวแทนในการนี้ด้วยวาจาก็ใช้ได้
(อ้างฎีกาที่ 178/2496)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 486/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานะโจทก์จากผู้มีสิทธิเช่าเป็นผู้ไม่มีสิทธิ ทำให้การบังคับคดีขับไล่จำเลยต้องงดไว้ จนกว่ากรมธนารักษ์จะทำสัญญาเช่ากับจำเลยโดยตรง
ศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลย รื้อเรือนออกจากที่ดินที่จำเลยเช่าจากโจทก์ ต่อมาปรากฏว่า ศาลพิพากษาคดีระหว่างโจทก์กับเจ้าของที่ดิน ว่าโจทก์หมดสิทธิตามสัญญาที่โจทก์เช่าที่นั้นจากเจ้าของ และได้ความต่อไปว่า เจ้าของตกลงให้จำเลยเช่า ดังนี้ ฐานะในคดีของโจทก์เปลี่ยนเป็นว่าโจทก์ไม่มีมูลที่จะใช้ที่ดินนี้ต่อไป และจำเลยอาจคงอยู่ในที่ดินนี้ โดยอาศัยสิทธิโดยตรงจากเจ้าของ จึงควรรอการบังคับคดีไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่อาจยกขึ้นอ้างได้ทั้งโจทก์และจำเลย
ที่ว่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดจะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้นั้น มิได้หมายความแต่ผู้ที่จะต้องเป็นโจทก์ฟ้องร้องฝ่ายเดียว ย่อมหมายรวมถึงการต่อสู้คดีด้วย เพราะการบังคับคดีย่อมทำได้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ผลต่อการฟ้องร้องและต่อสู้คดี
ที่ว่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดจะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้นั้นมิได้หมายความแต่ผู้ที่จะต้องเป็นโจทก์ฟ้องร้องฝ่ายเดียวย่อมหมายรวมถึงการต่อสู้คดีด้วยเพราะการบังคับคดีย่อมทำได้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 408-410/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าในสัญญาต่างตอบแทน แม้ไม่ใช่คู่สัญญา ก็มีสิทธิได้ตามสัญญา
สัญญาที่ฝ่ายจำเลยเป็นผู้ออกเงินสร้างตึกขึ้น แล้วจำเลยมีสิทธิที่จะอยู่ได้ 8 ปี ฝ่ายเจ้าของที่ดินเป็นผู้ที่จะได้ตึกโดยไม่ต้องออกเงินสร้าง แต่จะต้องยอมให้ผู้สร้างอยู่ได้ 8 ปี สัญญาเช่นนี้เป็นสัญญาต่างตอบแทนกันย่อมมีผลผูกพันกันได้โดยไม่ต้องจดทะเบียน (อ้างฎีกาที่ 1460/2495)
โจทก์เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ร่วมอยู่กับน.ส.สุภาคู่สัญญาซึ่งทำสัญญากันกับจำเลยดังกล่าวข้างต้นและโจทก์รับในรายงานพิจารณาของศาลว่าโจทก์ได้รู้เห็นยินยอมให้ น.ส.สุภาทำสัญญานั้นด้วย โจทก์จึงต้องผูกพันในสัญญาด้วยและเมื่อโจทก์รับโอนที่ดินมาเป็นของตนแต่ผู้เดียวในภายหลัง โจทก์ต้องรับสิทธิและหน้าที่ตามสัญญานั้นมาด้วย เมื่อตามสัญญา จำเลยมีสิทธิจะอยู่ได้ 8 ปีขณะที่ยังไม่ครบกำหนดนั้น โจทก์ก็ยังไม่มีสิทธิจะเลิกสัญญาและยังไม่มีสิทธิจะขับไล่จำเลย
ตามสัญญาดังกล่าวข้างต้นปรากฎว่า น.ส.สุภายินยอมจะให้จำเลยอื่นอีก 2 คนได้เช่าตึกนั้นอยู่คนละ 1 ห้องตามเดิมมีกำหนด 8 ปี จำเลยอื่นทั้ง 2 คนนั้นได้ลงทุนเป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างตึกตามส่วนที่ตนจะเช่าอยู่ และเมื่อสร้างตึกแล้วจำเลยอื่นทั้ง 2 นั้นก็ได้เข้าอยู่ในตึกคนละ 1 ห้อง ตามสัญญาดังกล่าว กรณีเช่นนี้ต้องด้วย ป.พ.พ. มาตรา 374 จำเลยอื่นทั้ง 2 นี้แม้ไม่ใช่คู่สัญญาก็มีสิทธิที่จะอยู่ในตึกตามสัญญานั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 406/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเช่าหลังการขายฝาก: ผู้รับโอนต้องผูกพันตามสัญญาเดิม
ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สิน (ห้องแถว) ซึ่งมีผู้เช่าอยู่ย่อมรับโอนไปทั้งสิทธิ์และหน้าที่ของผู้โอนซึ่งเป็นเจ้าของเดิม
การที่ผู้ขายฝากได้รับรองสิทธิในการเช่าห้อง ซึ่งมีผู้เช่าทำสัญญาจดทะเบียนการเช่ากับผู้รับซื้อฝากไว้แล้วนั้น เมื่อผู้ขายฝากไถ่คืนมา การเช่ายังคงมีผลต่อไปตามมาตรา 569 ผู้เช่าไม่จำต้องบอกกล่าวเป็นการแสดงเจตนาว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญาเช่าอย่างไรตามมาตรา 374 อีก และกรณีเช่นนี้ไม่เข้าข่ายมาตรา 502 เพราะผู้ขายฝากซึ่งไถ่คืนมานั้นได้ทำสัญญาประนีประนอมกับผู้ซื้อฝากให้การเช่ามีผลต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 406/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้เช่าเมื่อมีการซื้อขายห้องเช่า: ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ต้องผูกพันตามสัญญาเช่าเดิม
ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สิน(ห้องแถว) ซึ่งมีผู้เช่าอยู่ย่อมรับโอนไปทั้งสิทธิ์และหน้าที่ของผู้โอนซึ่งเป็นเจ้าของเดิม
การที่ผู้ขายฝากได้รับรองสิทธิในการเช่าห้องซึ่งมีผู้เช่าทำสัญญาจดทะเบียนการเช่ากับผู้รับซื้อฝากไว้แล้วนั้นเมื่อผู้ขายฝากไถ่คืนมาการเช่ายังคงมีผลต่อไปตามมาตรา 569 ผู้เช่าไม่จำต้องบอกกล่าวเป็นการแสดงเจตนาว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญาเช่าอย่างไรตามมาตรา 374 อีกและกรณีเช่นนี้ไม่เข้าข่ายมาตรา 502 เพราะผู้ขายฝากซึ่งไถ่คืนมานั้นได้ทำสัญญาประนีประนอมกับผู้ซื้อฝากให้การเช่ามีผลต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 33/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเคหะตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ สัญญาเช่าเดิมใช้ไม่ได้ ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ไม่ได้
การเช่าโรงเก็บรถนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำพยานและสภาพของสถานที่ว่าเช่าเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยก็ถือว่าเป็นการเช่า "เคหะ" ตามความหมายของกฎหมายว่าด้วยการควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน
แม้สัญญาจะมีถ้อยคำว่า "เช่าโรงรถ"ก็ตาม คู่ความก็ยังนำสืบได้ว่าเมื่อเช่ามาแล้วมิได้ใช้เก็บรถ หากใช้เป็นที่อยู่อาศัยตลอดมาไม่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสาร
การให้เช่า "เคหะ" ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมค่าเช่านั้น ผู้ให้เช่าจะถือเอาเหตุที่สัญญาสิ้นอายุมาฟ้องขับไล่ผู้เช่าไม่ได้ และผู้ให้เช่าจะได้บอกกล่าวเลิกสัญญาหรือไม่ก็ไม่สำคัญ
ในเรื่องเช่า "เคหะ" ข้อสัญญาที่ว่าเมื่อครบกำหนดสัญญาเช่า ผู้เช่ายอมให้ถือว่าผู้เช่ายินยอมออกจากที่เช่าตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ นั้นความยินยอมเช่นว่านี้ใช้บังคับไม่ได้ (เทียบฎีกาที่ 1963 - 1965/2494 ฏีกาที่ 769/2494)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 33/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเคหะ: สัญญาเช่าโรงรถใช้เป็นที่อยู่อาศัย ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ไม่ได้
การเช่าโรงเก็บรถนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำพยานและสภาพของสถานที่ว่าเช่าเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยก็ถือว่าเป็นการเช่า 'เคหะ' ตามความหมายของกฎหมายว่าด้วยการควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน
แม้สัญญาจะมีถ้อยคำว่า 'เช่าโรงรถ' ก็ตามคู่ความก็ยังนำสืบได้ว่าเมื่อเช่ามาแล้วมิได้ใช้เก็บรถหากใช้เป็นที่อยู่อาศัยตลอดมาไม่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสาร
การให้เช่า 'เคหะ' ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมค่าเช่านั้นผู้ให้เช่าจะถือเอาเหตุที่สัญญาสิ้นอายุมาฟ้องขับไล่ผู้เช่าไม่ได้และผู้ให้เช่าจะได้บอกกล่าวเลิกสัญญาหรือไม่ก็ไม่สำคัญ
ในเรื่องเช่า 'เคหะ' ข้อสัญญาที่ว่าเมื่อครบกำหนดสัญญาเช่า ผู้เช่ายอมให้ถือว่าผู้เช่ายินยอมออกจากที่เช่าตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันนั้น ความยินยอมเช่นว่านี้ใช้บังคับไม่ได้(เทียบฎีกาที่ 1963-1965/2494, ฎีกาที่ 769/2494)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าที่ดินเพื่ออยู่อาศัย แม้ระบุในสัญญาว่าเพื่อการค้า ยังคงได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
แม้หนังสือสัญญาเช่าจะระบุไว้ว่าเช่าเพื่อใช้ทำการค้าก็ย่อมนำสืบความจริงว่าได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ อันได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันได้ ไม่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารอันต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 94
of 227