คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คดีอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,111 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2975/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษจำเลยในคดีอาญาหลายกระทง ศาลพิจารณาแล้วไม่สามารถนับโทษซ้อนซ้ำได้อีก
โจทก์ฟ้องและยื่นคำร้องขอให้นับโทษจำเลยคดีนี้ต่อจากคดีอื่นหลายคดีด้วยกัน ศาลพิพากษาให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีหนึ่งตามคำร้องแล้ว จึงนับโทษคดีนี้ต่อจากคดีอาญาอีกสำนวนหนึ่งที่โจทก์ขอให้ซ้อนกันอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2974/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจรับคำร้องทุกข์ของพนักงานสอบสวน ไม่ต้องมีอำนาจสอบสวนคดีนั้นก็ได้
การพิจารณาปัญหาว่าพนักงานสอบสวนผู้รับคำร้องทุกข์ไว้จะมีอำนาจรับคำร้องทุกข์นั้นหรือไม่ เป็นคนละเรื่องกับการพิจารณาปัญหาว่าพนักงานสอบสวนผู้นั้นจะมีอำนาจสอบสวนในความผิดเรื่องนั้นด้วยหรือไม่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 124 มิได้บังคับให้ร้องทุกข์เฉพาะต่อเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสอบสวนเสมอไป เหตุนี้ พนักงานสอบสวนในท้องที่ใดท้องที่หนึ่ง ซึ่งแม้จะมิได้มีอำนาจทำการสอบสวนในคดีใดเลย ก็ยังมีอำนาจรับคำร้องทุกข์ในคดีนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2968/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความสมบูรณ์ แม้มีเจรจาต่อรองโดยอ้างอิงถึงคดีอาญาที่ฟ้องร้อง
โจทก์ตกลงซื้อที่ดินจากจำเลยที่ 1 โดยชำระเงินกับออกเช็คสั่งจ่ายเงินชำระราคาค่าที่ดินให้แก่จำเลยที่ 1 และได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายกันไว้ ต่อมาปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีที่ดินที่จะขายให้โจทก์ โจทก์จึงฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีอาญาฐานฉ้อโกงแล้วโจทก์และจำเลยทั้งสองได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความไว้ต่อกัน ในการทำสัญญาดังกล่าวแม้จะฟังตามที่จำเลยนำสืบว่าจำเลยทั้งสองลงชื่อไปเพราะโจทก์พูดว่า "ต้องคืนเงิน (ที่จำเลยรับไป) ถ้าไม่คืนจะเอาเข้าตะราง" ก็ดี หรือทนายโจทก์พูดว่า "ขอให้คืนมัดจำและเช็คให้เสีย ถ้าไม่คืนเงินจะให้เอาเข้าตะราง" ก็ดี เป็นเรื่องที่โจทก์ขู่ว่า ถ้าจำเลยไม่คืนเงินและเช็คที่รับไปแล้ว โจทก์จะฟ้องเอาผิดกับจำเลยทางอาญาฐานฉ้อโกง อันเป็นการใช้สิทธิทางศาลโดยสุจริตเพราะตนมีสิทธิในมูลกรณีนั้น ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยมหาจัดว่าเป็นการข่มขู่ไม่ และไม่ใช่เรื่องหลอกลวงสัญญาประนีประนอมยอมความจึงสมบูรณ์ใช้บังคับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2891/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมาศาลของทนายแทนโจทก์ในคดีอาญา ไม่ถือว่าโจทก์ขาดนัด
ในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์นั้น ในวันนัดสืบพยานจำเลยทนายโจทก์มาศาล แต่ตัวโจทก์ไม่มาจะถือว่าโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัด และพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 ประกอบด้วยมาตรา 181 หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2866/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีแพ่งเรียกชำระหนี้ตามเช็ค ไม่ผูกพันข้อเท็จจริงจากคดีอาญา
โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาหาว่า จำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค และต่อมาได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งให้รับผิดใช้เงินตามเช็คนั้น คดีแพ่งที่โจทก์ฟ้องนี้มิใช่เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา จะนำข้อเท็จจริงในคดีอาญาซึ่งถึงที่สุดแล้วมาชี้ขาดตัดสินโดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 46 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2866/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีแพ่งเรียกค่าเช็คไม่เชื่อมโยงคดีอาญาเจตนาออกเช็คไร้ความรับผิด ศาลต้องวินิจฉัยตามพยานหลักฐานในสำนวน
โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาหาว่า จำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค และต่อมาได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งให้รับผิดใช้เงินตามเช็คนั้น คดีแพ่งที่โจทก์ฟ้องนี้มิใช่เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา จะนำข้อเท็จจริงในคดีอาญาซึ่งถึงที่สุดแล้วมาชี้ขาดตัดสินโดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2658/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษเกินคำขอในคดีอาญา: ศาลต้องลงโทษตามฟ้องเท่านั้น แม้ข้อเท็จจริงหนักกว่า
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนขู่ ไม่ได้บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกใช้อาวุธปืนยิงแม้ข้อเท็จจริงจะได้ความว่า จำเลยกับพวกใช้อาวุธปืนยิงในการปล้นทรัพย์ด้วย ก็ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์โดยใช้ปืนยิง ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกหนักกว่าอัตราโทษจำคุกฐานปล้นทรัพย์ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องไม่ได้เพราะเป็นการเกินคำขอและโจทก์มิได้กล่าวในฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2657/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจับกุมผู้ต้องหาในคดีอาญาแผ่นดิน แม้ไม่มีหมายจับ: การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน
โจทก์แจ้งความว่า ย. ทำร้ายร่างกายโจทก์ ขอให้ดำเนินคดีแก่ ย.แม้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78 จำเลยซึ่งเป็นผู้บังคับหมวดไม่มีอำนาจจับกุมโจทก์โดยไม่มีหมายจับ แต่อำนาจจับกุมตามมาตรา 78 นี้ ก็เป็นอำนาจโดยทั่ว ๆ ไปและมีมาตรา 136 บัญญัติเรื่องอำนาจพนักงานสอบสวนในการจับกุมและควบคุมไว้โดยเฉพาะเมื่อจำเลยเป็นพนักงานสอบสวนคดีที่หาว่า ย. กระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย และสอบสวนแล้วได้ความว่าโจทก์ก็เป็นผู้กระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายด้วย เพราะเป็นเรื่องวิวาทกัน ซึ่งความผิดนี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่มีผู้ใดร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ เจ้าพนักงานก็ย่อมจับกุมและควบคุมตัวผู้กระทำความผิดไว้สอบสวนได้ จำเลยจึงมีอำนาจจับกุมและควบคุมตัวโจทก์ซึ่งมาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าจำเลยในระหว่างการสอบสวนได้ เพียงเพราะเหตุที่จำเลยจับกุมและควบคุมตัวโจทก์ไว้โดยไม่มีหมายจับนั้น จะถือว่าจำเลยได้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2498/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา: หนังสือสัญญายอมรับที่ดินสาธารณะมีผลผูกพัน ห้ามกลับคำให้การ
โจทก์เคยฟ้อง พ. ในฐานะนายอำเภอเป็นคดีอาญาฐานฉ้อโกงและปลอมหนังสืออันเกี่ยวด้วยที่พิพาทแปลงนี้มาแล้ว คดีถึงที่สุดโดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พ. ไม่ได้ฉ้อโกงโจทก์ และหนังสือสัญญาดังกล่าวเป็นเอกสารที่แท้จริงซึ่งโจทก์ทำขึ้นด้วยความสมัครใจโดยมิได้มีการหลอกลวงหรือหลงผิด แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ ในคดีนี้โจทก์ฟ้อง น.ปลัดอำเภอโทในฐานะรักษาการแทนนายอำเภอเป็นคดีส่วนแพ่งว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ไม่ใช่ที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินขอให้พิพากษาว่าหนังสือสัญญาดังกล่าวเป็นโมฆะ ดังนั้น จำเลยในคดีส่วนอาญาและส่วนแพ่งจึงเป็นผู้ดำรงตำแหน่งเดียวกันคือนายอำเภอ เมื่อโจทก์ได้ฟ้องนายอำเภอเป็นคดีแพ่งอีกในปัญหาเดียวกัน คู่ความทั้งสองคดีจึงเป็นคู่ความเดียวกัน และเป็นการฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาและในคดีนี้ศาลก็ต้องอาศัยหนังสือสัญญาทั้งสองฉบับเป็นหลักในการพิพากษา ศาลในคดีส่วนแพ่งจึงต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีส่วนอาญาว่า หนังสือสัญญาดังกล่าวข้างต้นชอบด้วยกฎหมายและใช้บังคับแก่คู่กรณีได้โดยไม่จำเป็นต้องสืบพยานต่อไป
ในสัญญาทั้งสองฉบับโจทก์ยอมรับรองโดยชัดแจ้งแล้วว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะ โจทก์จะกลับมาอ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของอีกย่อมรับฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2498/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา: หนังสือสัญญาส่วนสาธารณะมีผลผูกพัน โจทก์อ้างสิทธิไม่ได้
โจทก์เคยฟ้อง พ. ในฐานะนายอำเภอเป็นคดีอาญาฐานฉ้อโกงและปลอมหนังสืออันเกี่ยวด้วยที่พิพาทแปลงนี้มาแล้ว คดีถึงที่สุดโดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พ. ไม่ได้ฉ้อโกงโจทก์ และหนังสือสัญญาดังกล่าวเป็นเอกสารที่แท้จริงซึ่งโจทก์ทำขึ้นด้วยความสมัครใจโดยมิได้มีการหลอกลวงหรือหลงผิด แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ ในคดีนี้โจทก์ฟ้อง น.ปลัดอำเภอโทในฐานะรักษาการแทนนายอำเภอเป็นคดีส่วนแพ่งว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ไม่ใช่ที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินขอให้พิพากษาว่าหนังสือสัญญาดังกล่าวเป็นโมฆะ ดังนั้น จำเลยในคดีส่วนอาญาและส่วนแพ่งจึงเป็นผู้ดำรงตำแหน่งเดียวกันคือนายอำเภอ เมื่อโจทก์ได้ฟ้องนายอำเภอเป็นคดีแพ่งอีกในปัญหาเดียวกัน คู่ความทั้งสองคดีจึงเป็นคู่ความเดียวกัน และเป็นการฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา และในคดีนี้ศาลก็ต้องอาศัยหนังสือสัญญาทั้งสองฉบับเป็นหลักในการพิพากษา ศาลในคดีส่วนแพ่งจึงต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีส่วนอาญาว่า หนังสือสัญญาดังกล่าวข้างต้นชอบด้วยกฎหมายและใช้บังคับแก่คู่กรณีได้โดยไม่จำเป็นต้องสืบพยานต่อไป
ในสัญญาทั้งสองฉบับโจทก์ยอมรับรองโดยชัดแจ้งแล้วว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะ โจทก์จะกลับมาอ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของอีกย่อมรับฟังไม่ได้
of 312