พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,244 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเนื่องจากศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะบทลงโทษโดยคงโทษเดิม ทำให้ฎีกาต้องห้ามในข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษว่าจำเลย ผิดก.ม.อาญา ม. 251,59 จำคุก 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยผิด ม.249,47,59 แต่คงลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี6 เดือน เท่าเดิม คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีพยายามชิงทรัพย์และฆ่าผู้อื่น ศาลอุทธรณ์แก้โทษจำเลย แต่โทษจำคุกคงเดิม ฎีกาไม่รับ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิด กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา251,59
จำคุก 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิด มาตรา 249,47,59 แต่คงลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน เท่าเดิมคู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
จำคุก 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิด มาตรา 249,47,59 แต่คงลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน เท่าเดิมคู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจศาลอุทธรณ์ในการเพิ่มโทษจำเลย แม้ศาลชั้นต้นลงโทษในความผิดที่เบากว่า
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสตาม มาตรา 256 ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บไม่สาหัสตามมาตรา 254 วางกำหนดโทษจำคุก 6 เดือน
โจทก์อุทธรณ์ต่อมาขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสตาม มาตรา 256 เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าบาดเจ็บไม่สาหัสก็มีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บไม่สาหัส ตาม มาตรา 254และเห็นสมควรจะวางอัตราโทษเท่าใดตามมาตรานี้ก็ได้แม้จะเพิ่มกำหนดโทษเป็น 1 ปี 6 เดือนสูงกว่าศาลชั้นต้นก็ได้ เพราะไม่เป็นการเกินคำขอตามที่โจทก์ขอให้ลงโทษฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสตาม มาตรา 256 นั้นไม่
โจทก์อุทธรณ์ต่อมาขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสตาม มาตรา 256 เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าบาดเจ็บไม่สาหัสก็มีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บไม่สาหัส ตาม มาตรา 254และเห็นสมควรจะวางอัตราโทษเท่าใดตามมาตรานี้ก็ได้แม้จะเพิ่มกำหนดโทษเป็น 1 ปี 6 เดือนสูงกว่าศาลชั้นต้นก็ได้ เพราะไม่เป็นการเกินคำขอตามที่โจทก์ขอให้ลงโทษฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสตาม มาตรา 256 นั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1675/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษจำคุกโดยศาลอุทธรณ์และการฎีกาเพื่อขอให้รอการลงโทษ ซึ่งศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาเดิม
คดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม ม. 321 คนละ 4 ปี และปราณีตาม ม.59 กึ่งหนึ่งคงให้จำคุกไว้ 2 ปี แต่โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้คนละ 5 ปีนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลยไว้คนละ 2 ปี ปราณีตาม ม.59 กึ่งหนึ่งคงจำคุกไว้คนละ 1 ปีแต่ให้ลงโทษไปทีเดียวเช่นนี้ถือว่าแก้มาก คู่ความฎีกาได้ไม่ฟ้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา ม.218,220
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1675/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำพิพากษาเกินสมควรและการรับฟังเหตุรอการลงโทษที่ไม่ปรากฏในสำนวน
คดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม มาตรา 321 คนละ4 ปีและปราณีตาม มาตรา 59 กึ่งหนึ่งคงให้จำคุกไว้ 2 ปีแต่โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้คนละ 5 ปีนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลยไว้คนละ 2 ปี ปราณีตาม มาตรา 59 กึ่งหนึ่งคงจำคุกไว้คนละ 1 ปีแต่ให้ลงโทษไปที่เดียวเช่นนี้ถือว่าแก้มาก คู่ความฎีกาได้ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218,220
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1675/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ที่เกินกรอบและเหตุผลในการรอการลงโทษที่ไม่สมเหตุสมผล
คดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม มาตรา 321 คนละ4 ปีและปราณีตาม มาตรา 59 กึ่งหนึ่งคงให้จำคุกไว้ 2 ปีแต่โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้คนละ 5 ปีนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลยไว้คนละ 2 ปี ปราณีตาม มาตรา 59 กึ่งหนึ่งคงจำคุกไว้คนละ 1 ปีแต่ให้ลงโทษไปที่เดียวเช่นนี้ถือว่าแก้มาก คู่ความฎีกาได้ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218,220
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1499/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เพียงเล็กน้อย ทำให้จำเลยไม่สามารถฎีกาได้ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.248
โจทก์จำเลยพิพาทกันด้วยเรื่องที่ดิน 2 ตอน ตอนที่ 1 ราคา 50 บาท ตอนที่ 2 ราคา 400 บาท ต่างเถียงกันในเรื่องกรรมสิทธิ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าที่ตอนที่ 1 ราคา 50 บาทเป็นของโจทก์ นอกนั้นยืนเช่นนี้เป็นการแก้ไขน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 248
(ฎีกาที่ 181/2492)
(ฎีกาที่ 181/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1499/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เล็กน้อยในข้อเท็จจริงและขอบเขตของกรรมสิทธิ์ที่ดิน ทำให้จำเลยฎีกาไม่ได้
โจทก์จำเลยพิพาทกันด้วยเรื่องที่ดิน 2 ตอน ตอนที่ 1 ราคา 50 บาท ตอนที่ 2 ราคา 400 บาท ต่างเถียงกันในเรื่องกรรมสิทธิ์ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าที่ตอนที่ 1 ราคา 50 บาทเป็นของโจทก์ นอกนั้นยืนเช่นนี้เป็นการแก้ไขน้อยต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 (ฎีกาที่ 181/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1499/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ถือเป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
โจทก์จำเลยพิพาทกันด้วยเรื่องที่ดิน 2 ตอน ตอนที่ 1 ราคา 50 บาท ตอนที่ 2 ราคา 400 บาท ต่างเถียงกันในเรื่องกรรมสิทธิ์ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าที่ตอนที่ 1 ราคา 50 บาทเป็นของโจทก์ นอกนั้นยืนเช่นนี้เป็นการแก้ไขน้อยต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 (ฎีกาที่ 181/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1458/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยโทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี
โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ม. 218 นั้นหมายถึงโทษแต่ละกะทง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี ตาม ก.ม.อาญาม. 298 ,299,63 และตาม ม. 243 อีก 2 ปี รวม 2 กะทง 7 ปี เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี ตาม ก.ม.อาญาม. 298 ,299,63 และตาม ม. 243 อีก 2 ปี รวม 2 กะทง 7 ปี เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้