คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กฎหมาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,377 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีมรดกของผู้เยาว์และการหมดอายุความตามกฎหมาย
เมื่อเจ้ามรดกตายทายาทซึ่งเป็นผู้เยาว์มีมารดาเป็นผู้เทนโดยชอบธรรมมารดาของทายาทผู้เยาว์มิได้ฟ้องคดีมรดกเสียภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันเจ้ามรดกตาย ต่อมาเมื่อผู้เยาว์บรรลุนิติภาวะแล้วจะมาฟ้องคดีมรดกเองหาได้ไม่ เพราะกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตาม ป.พ.พ. ม.183.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 523/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะ 'เจ้าพนักงาน' ของพนักงานรายวัน: การแต่งตั้งกรรมการตรวจรับหินและการมีคุณสมบัติทางกฎหมาย
ได้ความว่าตามทางพิจารณาว่าจำเลยทั้ง 3 เป็นพนักงานรายวันของกรมทางหลวงแผ่นดิน กระทรวงคมนาคม ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตรวนรับหินซึ่งผู้รับเหมานำส่งแล้วรายงาานจำนวนหินไม่ตรงกับความจริงเช่นนี้ไม่ถือว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานตามความหมายแห่ง ก.ม.อาญา จำเลยจึงไม่มีความผิดตาม ม.230 ที่โจทก์ฟ้อง
โดยปกติจะถือว่าผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานผู้นั้นต้องเป็นข้าราชการตาม ก.ม.เว้นแต่จะมี ก.ม.บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เป็นชเจ้าพนักงานดังเช่น พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ.2496 ม.44 บัญญัติว่าให้พนักงานเทศบาลเป็นเจ้าพนักงานตามความหมายแห่ง ก.ม.อาญาเป็นต้นและใน พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2495 ม.17 ซึ่งบัญญัติถึงข้าราชการพลเรือนว่ามีอยู่ 7 ประเภทก็ไม่กินความถึงจำเลยทั้งสามคนนี้เพราะจำเลยไม่ได้รับเงินเดือนหากเป็นเพียงพนักงานรายวัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบวชต้องมีอุปัชฌายะที่ถูกต้องตามกฎหมาย และการประกาศข้อกล่าวหาต้องไม่เกินเลยความจริง
การที่จะขอบวชหรืออุปสมบทได้โดยถูกต้องตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์และสังฆาณัตินั้นจะต้องมีพระอุปัชฌายะซึ่งให้บรรพชาอุปสมบทได้แต่ที่โจทก์บวชโดยพระอุปัชฌายะในต่างประเทศซึ่งไม่ปรากฏว่าได้รับแต่งตั้งโดยถูกต้องให้เป็นผู้อุปสมบทเช่นนี้ย่อมถือว่าการบวชนั้นเป็นการถูกต้องตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ไม่ได้
การที่มีประกาศแถลงการณ์คณะสงฆ์ 2 ฉบับก็เนื่องจากที่โจทก์ต้องหาว่าประพฤติคลุกคลีกับมาตุคามจนถูกบังคับให้สึกแต่ใช้ถ้อยคำไม่เหมือนกันเท่านั้นไม่ได้หมายความว่าโจทก์ซ่องเสพเมถุนกับมาตุคามดังโจทก์ฎีกา จึงหาเป็นการละเมิดอย่างใดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 368/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องรับรองบุตรต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด มิเช่นนั้นศาลยกฟ้อง
การฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรนั้นจะมีได้แต่ในกรณีที่แจ้งไว้ตาม ป.พ.พ. ม.1529
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องใจความว่า "ข้าพเจ้ากับจำเลยได้เสียเป็นสามีภรรยากันเอง ฯลฯ" ดังนี้ไม่เข้าเกณฑ์ตาม ม.1529(4).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 368/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขอรับรองบุตรต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขฟ้องไม่รับ
การฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรนั้นจะมีได้แต่ในกรณีที่แจ้งไว้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1529
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องใจความว่า 'ข้าพเจ้ากับจำเลยได้เสียเป็นสามีภรรยากันเอง ฯลฯ 'ดังนี้ไม่เข้าเกณฑ์ตามมาตรา1529(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องผิดวัน: เวลากลางคืนตามกฎหมายต่อเนื่องข้ามวัน
โจทก์กล่าวในฟ้องว่าเหตุเกิดวันที่ 14 ส.ค.95 เวลากลางคืน และระบุไว้ชัดว่าเวลากลางคืนตาม ก.ม.ดังนี้แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าเหตุเกิดเวลา 2 น.ของวันที่ 15 ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นฟ้องผิดวัน เพราะเวลา 2 น.ของวันที่ 15 นั้นติดต่อเป็นคืนเดียวกับคืนวันที่ 14 อ้างฎีกาที่ 443/2489.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องผิดวัน: การตีความ ‘เวลากลางคืน’ ตามกฎหมายและการเชื่อมโยงวันเวลาต่อเนื่อง
โจทก์กล่าวในฟ้องว่าเหตุเกิดวันที่ 14 ส.ค. 95 เวลากลางคืน และระบุไว้ชัดว่าเวลากลางคืนตามกฎหมายดังนี้แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าเหตุเกิดเวลา 02.00 น. ของวันที่ 15 ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นฟ้องผิดวันเพราะเวลา 02.00 น. ของวันที่ 15 นั้นติดต่อเป็นคืนเดียวกับคืนวันที่ 14
อ้างฎีกาที่ 443/2489

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1824/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนชั่วคราว ไม่ถือว่ามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองตามกฎหมาย
ปืนของกลางเป็นของผู้มีชื่อฝากจำเลยถือไว้ชั่วขณะที่ผู้มีชื่อไปซื้อบุหรี่ห่างจากที่จำเลยยืนคอยเพียง 10 วา ไม่ทำให้จำเลยมีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในปืนนั้น เพราะจำเลยมิได้ยึดถือไว้เพื่อตน สิทธิครอบครอบยังอยู่แก่เจ้าของทั้งไม่เรียกว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1824/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนชั่วคราวไม่ถือว่ามีอาวุธปืนในครอบครองตามกฎหมาย
ปืนของกลางเป็นของผู้มีชื่อฝากจำเลยถือไว้ชั่วขณะที่ผู้มีชื่อไปซื้อบุหรี่ห่างจากที่จำเลยยืนคอยเพียง 10 วา ไม่ทำให้จำเลยมีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในปืนนั้น เพราะจำเลยมิได้ยึดถือไว้เพื่อตน สิทธิครอบครองยังอยู่แก่เจ้าของทั้งไม่เรียกว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1230/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันตามกฎหมาย หากข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่ตกลง
ก่อนฟ้องโจทก์จำเลยได้ทำหนังสือตกลงประนีประนอมกันต่อหน้าอำเภอว่า จำเลยยอมให้เงินโจทก์ 1,000 บาท แล้วขอรับเอาที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย ฝ่ายโจทก์ยอมเอาเงิน 1,000บาท และยอมให้ที่ดินพิพาทแก่จำเลยเป็นกรรมสิทธิ์
การตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเช่นนี้จึงต้องบังคับด้วยกฎหมายลักษณะสัญญาประนีประนอมยอมความ
of 238