พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,865 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้สลักหลังเช็คมีฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมกับผู้สั่งจ่ายเมื่อเช็คไม่สามารถเรียกเก็บได้
จำเลยที่ 1 ออกเช็คให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ จำเลยที่ 3 เป็นผู้สลักหลัง เมื่อเช็คถึงกำหนดและโจทก์นำไปเข้าบัญชี แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ผู้สั่งจ่ายและจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังต้องร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 967 จำเลยที่ 3 จึงมีฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมกับจำเลยที่ 1 มิได้มีฐานะเป็นผู้ค้ำประกัน จะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 700 และ 948 มาบังคับไม่ได้(อ้างฎีกาที่ 1034/2507)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้สั่งจ่ายและผู้สลักหลังเช็คต่อผู้ทรง
จำเลยที่ 1 ออกเช็คให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ จำเลยที่ 3 เป็นผู้สลักหลัง เมื่อเช็คถึงกำหนดและโจทก์นำไปเข้าบัญชี แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ผู้สั่งจ่ายและจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังต้องร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 967 จำเลยที่3 จึงมีฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมกับจำเลยที่ 1 มิได้มีฐานะเป็นผู้ค้ำประกัน จะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 700 และ 948 มาบังคับไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561-1564/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิลูกหนี้ในการอุทธรณ์คำสั่งรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย และการเป็นเจ้าหนี้ตามเช็ค
การสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และการพิจารณาของศาลเรื่องเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เป็นกระบวนพิจารณาคดีล้มละลาย ซึ่งมาตรา 22,24 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายไม่ห้ามลูกหนี้ที่จะดำเนินการกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายต่อสู้คดีเรื่องเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ และตามมาตรา 106 ให้สิทธิลูกหนี้ที่จะโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ได้ ดังนั้น เมื่อศาลสั่งอนุญาตให้รับชำระหนี้ได้ ลูกหนี้ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 153 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 ไม่ต้องห้ามตามประราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 22
เมื่อผู้ขอรับชำระหนี้เป็นผู้ทรงเช็คที่จำเลยผู้ล้มละลายออกให้ ย่อมมีสิทธิขอรับชำระหนี้ได้ แม้ว่าหนี้นั้นจำเลยจะเป็นลูกหนี้ผู้อื่นก็ตาม
เมื่อผู้ขอรับชำระหนี้เป็นผู้ทรงเช็คที่จำเลยผู้ล้มละลายออกให้ ย่อมมีสิทธิขอรับชำระหนี้ได้ แม้ว่าหนี้นั้นจำเลยจะเป็นลูกหนี้ผู้อื่นก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561-1564/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิลูกหนี้ในการอุทธรณ์คำสั่งรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย และการเป็นเจ้าหนี้ตามเช็ค
การสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และการพิจารณาของศาลเรื่องเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เป็นกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายซึ่ง มาตรา 22,24 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายไม่ห้ามลูกหนี้ที่จะดำเนินการกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายต่อสู้คดีเรื่องเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ และตามมาตรา 106 ให้สิทธิลูกหนี้ที่จะโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ได้ ดังนั้นเมื่อศาลสั่งอนุญาตให้รับชำระหนี้ได้ ลูกหนี้ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายมาตรา 153 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ไม่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 22
เมื่อผู้ขอรับชำระหนี้เป็นผู้ทรงเช็คที่จำเลยผู้ล้มละลายออกให้ ย่อมมีสิทธิขอรับชำระหนี้ได้ แม้ว่าหนี้นั้นจำเลยจะเป็นลูกหนี้ผู้อื่นก็ตาม
เมื่อผู้ขอรับชำระหนี้เป็นผู้ทรงเช็คที่จำเลยผู้ล้มละลายออกให้ ย่อมมีสิทธิขอรับชำระหนี้ได้ แม้ว่าหนี้นั้นจำเลยจะเป็นลูกหนี้ผู้อื่นก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1285/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องในคดีเช็ค: การเปลี่ยนสถานะจากผู้รับเช็คเป็นผู้ทรงเช็คต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานการใช้เงิน
จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินสดจำนวนหนึ่งแล้ว ส.นำเช็คดังกล่าวมาแลกเงินจากโจทก์ที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. โจทก์สั่งจ่ายเงินจำนวนนั้นให้ ส.รับไป โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญา ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ดังนี้ เมื่อโจทก์มาฟ้องคดีแพ่งเรียกเงินตามเช็ค โจทก์ได้บรรยายฟ้องมีความเช่นเดียวกับคำฟ้องคดีอาญา มิได้มีข้อความเพิ่มเติมแสดงว่าเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว โจทก์ต้องใช้เงินให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. จึงโอนเช็คพิพาทให้โจทก์มาจัดการเอาเอง คำพิพากษาในส่วนอาญาก็ได้วินิจฉัยว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. เป็นผู้ทรงเช็คพิพาท โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ทั้งนี้ ย่อมเป็นการวินิจฉัยและฟังตามบทบัญญัติว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางแพ่งมาแล้วว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรง ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลจำต้องถือตามดังที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 46 บังคับไว้ คดีไม่มีเหตุที่จะต้องพิจารณาตามมาตรา 47 ประการใดอีกเมื่อโจทก์มิได้บรรยายฟ้องเพิ่มเติมว่าต่อมาโจทก์ต้องใช้เงินตามเช็คให้แก่ห้างดังกล่าวและห้างนั้นได้โอนเช็คให้โจทก์มาจัดการเอง เป็นการที่โจทก์ได้เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทขึ้นด้วยนั้น คดีไม่มีประเด็นที่โจทก์จะนำสืบดังกล่าวนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 865/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารประมาทเลินเล่อในการจัดการเช็คของลูกค้า ทำให้ลูกค้าเสียหายและขาดอายุความเรียกร้อง
จำเลยเป็นธนาคารโดยปกติย่อมจะต้องระมัดระวังผลประโยชน์ของลูกค้าแต่จำเลยกลับละเลยต่อหน้าที่อันจะพึงต้องปฏิบัติต่อลูกค้าโดยไม่พยายามจัดการส่งคืนเช็คที่ผู้สั่งจ่ายโดยไม่มีเงินให้แก่โจทก์ซ้ำยังปล่อยให้เช็คนั้นสูญหายไปทำให้โจทก์ต้องเสียหายเพราะเช็คนั้นขาดอายุความที่จะฟ้องร้องเอากับผู้สั่งจ่าย หรือผู้สลักหลังและไม่มีเช็คคืนให้โจทก์เพื่อเรียกร้องเอากับผู้สั่งจ่ายหรือสลักหลังอีกด้วยจำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์
โจทก์เพิ่งทราบก่อนฟ้องไม่ถึงปีว่าเช็คที่โจทก์นำเข้าบัญชีไว้หลายปีแล้วนั้นไม่มีเงิน คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
โจทก์เพิ่งทราบก่อนฟ้องไม่ถึงปีว่าเช็คที่โจทก์นำเข้าบัญชีไว้หลายปีแล้วนั้นไม่มีเงิน คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำเช็คของผู้เสียหายไปโดยเจตนาทุจริตเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สิน ถือเป็นความผิดฐานเอาไปเสีย
ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ทรงเช็ค ได้ส่งเช็คซึ่งกำหนดแล้วให้แก่จำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายเพื่อให้จำเลยออกเช็คให้ใหม่แทนเช็คฉบับนั้นเพราะธนาคารปฏิเทธการจ่ายว่ามีเงินไม่พอจ่าย จำเลยได้รับเช็คแล้วได้เอาเช้คนั้นหลบหนีไป และไม่ได้ออกเช็คให้ใหม่ ดังนี้ เป็นการเอาไปเสียซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเอาเช็คของผู้อื่นไปโดยเจตนาทุจริตเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สิน ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ทรงเช็คได้ส่งเช็คซึ่งถึงกำหนดแล้วให้แก่จำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายเพื่อให้จำเลยออกเช็คให้ใหม่แทนเช็คฉบับนั้นเพราะธนาคารปฏิเสธการจ่ายว่าเงินไม่พอจ่ายจำเลยได้รับเช็คแล้วได้เอาเช็คนั้นหลบหนีไปและไม่ได้ออกเช็คให้ใหม่ ดังนี้ เป็นการเอาไปเสียซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 317/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คเพื่อเป็นหลักประกันการกู้ยืม ไม่ถือเป็นเจตนาทุจริตตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยกู้เงิน และออกเช็คไว้ให้แทนสัญญากู้ ทั้งผู้ทรงเช็คและจำเลยต่างไม่ได้มีเจตนาจะให้ใช้เช็คนั้นเป็นการชำระหนี้ จำเลยไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 317/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาใช้เช็ค - ไม่มีเจตนาชำระหนี้ ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค
จำเลยกู้เงิน และออกเช็คไว้ให้แทนสัญญากู้ ทั้งผู้ทรงเช็คและจำเลยต่างไม่ได้มีเจตนาจะให้ใช้เช็คนั้นเป็นการชำระหนี้ จำเลยไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค