คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
การครอบครอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4711/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องสงบต่อเนื่อง ก่อนมีคำพิพากษาถึงที่สุด การครอบครองระหว่างคดีไม่นับรวม
ผู้ครอบครองที่ดินจะอ้างการครอบครองปรปักษ์ในระหว่างระยะเวลาที่กำลังพิพาทเป็นคดีหาอยู่ได้ไม่เพราะการครอบครองทรัพย์ในระหว่างคดีมิใช่การครอบครองโดยความสงบตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1382จะนับเวลาในช่วงนี้มารวมกับเวลาก่อนนั้นเพื่อให้ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4463/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายยาเสพติด: “ขาย” ตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ฯ ครอบคลุมการแจก จ่าย แลกเปลี่ยน หรือส่งมอบ
พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518มาตรา 4 ได้ให้คำนิยามของคำว่า "ขาย" ให้หมายความรวมถึง จำหน่ายจ่าย แจก แลกเปลี่ยน ส่งมอบ หรือมีไว้เพื่อขาย เห็นได้ว่าการขายเมทแอมเฟตามีนตามบทบัญญัติดังกล่าวหาได้มีความหมายเฉพาะการขายกันโดยตรงเท่านั้นไม่การจ่าย แจก แลกเปลี่ยน ส่งมอบแก่กัน ไม่ว่าจะกระทำในลักษณะอย่างไรและโดยจุดประสงค์ใด จะเป็นเพื่อการค้าหรือไม่ ก็อยู่ในความหมายของคำว่า "ขาย"ตามมาตรา 4 นี้ทั้งสิ้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้เพื่อแจกแก่ลูกน้อง การ "แจก" คือ การ "ขาย" การมีไว้เพื่อ "แจก" ก็คือการมีไว้เพื่อ "ขาย" หรือเพื่อจำหน่าย จำเลยจึงมีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้เพื่อขาย
จำเลยฎีกาว่า จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพียง 3 เม็ด ไม่น่าจะมีปริมาณเกิน 0.500 กรัม ตามที่รัฐมนตรีกำหนดนั้นศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่าจำเลยมีความผิดตามพ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง,89 เพียงกรรมเดียวบทเดียว ไม่ได้พิพากษาลงโทษฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเกินประมาณที่รัฐมนตรีกำหนดตามมาตรา 62 วรรคหนึ่ง, 106 ทวิด้วยแต่ประการใด จึงมิใช่เป็นฎีกาโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3ในความผิดดังกล่าว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3110/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายในท้องตลาด: การซื้อจากร้านค้า vs. ซื้อจากบุคคล
การซื้อทรัพย์ในท้องตลาดหมายถึงการซื้อทรัพย์จากร้านค้าที่ตั้งอยู่ในท้องตลาดหาใช่เป็นการที่ร้านค้าซึ่งตั้งอยู่ในท้องตลาดซื้อทรัพย์จากบุคคลที่นำมาขายให้แก่ร้านค้านั้นไม่เพราะการซื้อทรัพย์จากบุคคลที่นำทรัพย์มาขายมิใช่เป็นการซื้อจากสถานที่ซึ่งมีร้านค้าเสนอขายแก่คนทั่วไปหรือมิใช่ซื้อจากที่ชุมชนแห่งการค้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินก่อนประมวลกฎหมายที่ดิน ทำให้ที่ดินนั้นไม่เป็นป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
เมื่อส. ได้ครอบครองทำประโยชน์ทำสวนจากในที่ดินที่เกิดเหตุตั้งแต่ปี2486ก่อนป. ที่ดินพ.ศ.2497ใช้บังคับฉะนั้นส. เป็นผู้ได้ที่ดินที่เกิดเหตุมาตามป. ที่ดินที่ดินที่เกิดเหตุจึงไม่ใช่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484มาตรา4(1)เมื่อส. ยกที่ดินที่เกิดเหตุให้จำเลยจำเลยจึงมีสิทธิครอบครองที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2886/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดิน: การกระทำเป็นความผิดต่อเนื่องหรือไม่ และเหตุรอการลงโทษ
การที่จำเลยเข้าไปล้อมรั้วในที่ดินพิพาทเพื่อถือการครอบครองและรบกวนการครอบครองที่ดินพิพาทของโจทก์ร่วมโดยปกติสุขตั้งแต่เวลากลางวันความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา362ได้เกิดขึ้นและสำเร็จลงแล้วส่วนการครอบครองที่ดินพิพาทต่อมาเป็นเพียงผลของการบุกรุกไม่เป็นความผิดต่อเนื่องติดต่อเกิดขึ้นตลอดเวลาอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา365

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2124/2539 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องครอบครองปรปักษ์ซ้ำซ้อน ศาลยกฟ้องตามหลักการห้ามฟ้องซ้ำ
โจทก์เคยฟ้องจำเลยทั้งสามในคดีนี้กับพวกต่อศาลชั้นต้นขอให้แสดงกรรมสิทธิ์และเรียกทรัพย์คืนโดยอ้างว่าวันที่ 5 เมษายน 2484 บ. ด้วยความยินยอมของ จ.เจ้าของกรรมสิทธิ์รวมได้ทำสัญญาแลกเปลี่ยนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกับโจทก์ โดย บ.ยอมรับเอาที่ดินโฉนดเลขที่ 1841 กับที่ดินโฉนดเลขที่ 1842ของโจทก์และ บ.ด้วยความรู้เห็นยินยอมของ จ.ยอมให้โจทก์เข้าถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดเลขที่ 419 พร้อมสิ่งปลูกสร้าง หลังจากนั้นต่างฝ่ายต่างเข้าครอบครองโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ใน พ.ศ.2499 โจทก์ได้ปลูกสร้างตึกเลขที่ 234 สูง 5 ชั้น ชั้นล่างของตึกนี้ซึ่งปลูกอยู่ในโฉนดเลขที่ 419 ด้านติดถนนมหาจักรกั้นเป็นห้องเลขที่ 214/4 และได้เปลี่ยนแปลงห้องแถวไม้แต่เดิมโดยรื้อของเก่าออกแล้วปลูกเป็นตึกอาคารพาณิชย์2 ชั้น รวม 7 คูหา โจทก์จึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองและเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างที่โจทก์สร้างขึ้น ขอให้พิพากษาว่าที่ดินดังกล่าวพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นของโจทก์ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้ครอบครองที่ดินโฉนดเลขที่ 419 พร้อมสิ่งปลูกสร้างโดยความสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของพิพากษายกฟ้อง โจทก์ฟ้องคดีนี้ว่าโจทก์ได้ครอบครองปรปักษ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 419เฉพาะส่วนปลูกตึก 5 ชั้น และเรือนไม้เลขที่ 234 และตึกแถวเลขที่ 214/4 ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 419 พร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวเป็นของโจทก์และขอให้เพิกถอนการโอน แม้ในคดีก่อนมีประเด็นเรื่องแลกเปลี่ยนที่ดินกันหรือไม่แต่ก็มีประเด็นเรื่องครอบครองปรปักษ์หรือไม่ด้วย ซึ่งเป็นประเด็นเรื่องเดียวกันส่วนประเด็นเรื่องขอให้เพิกถอนนิติกรรมเป็นประเด็นเกี่ยวเนื่องกันประเด็นครอบครองปรปักษ์ โจทก์จึงต้องห้ามมิให้นำคดีดังกล่าวมาฟ้องกันอีกตาม ป.วิ.พ. มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1922/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินเป็นสาธารณสมบัติโดยปริยาย และขอบเขตอำนาจศาลในการสั่งการจดทะเบียน
การอุทิศที่ดินเพื่อเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันหาตกอยู่ในบังคับว่าด้วยการยกให้ไม่แม้การยกให้โดยปริยายก็มีผลทำให้ที่ดินที่ยกให้ตกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินแล้วไม่จำต้องจดทะเบียนการให้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็สมบูรณ์ตามกฎหมาย การจดทะเบียนเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานที่จะดำเนินการศาลย่อมไม่อาจสั่งบังคับให้เจ้าพนักงานซึ่งมิใช่คู่ความดำเนินการจดทะเบียนที่ดินพิพาทนั้นให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 148/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: ใบไต่สวนไม่ใช่หลักฐานกรรมสิทธิ์ การครอบครองเกิน 1 ปีได้สิทธิเด็ดขาด
ใบไต่สวนเป็นหนังสือซึ่งเจ้าพนักงานออกให้เพื่อแสดงว่าเจ้าของที่ดินได้นำรังวัดเพื่อออกโฉนด ไม่ใช่เอกสารสำคัญที่แสดงว่าผู้มีชื่อในใบไต่สวนเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินเมื่อโจทก์ครอบครองที่ดินซึ่งมีใบไต่สวนโดยเจตนายึดถือเพื่อตนเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี โจทก์ย่อมได้ไปซึ่งสิทธิครอบครองจากเจ้าของเดิมโดยเด็ดขาด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1459/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินมรดก: การครอบครองและแบ่งแยกที่ดินตามแผนที่, การพิพาทเรื่องฐานะเจ้าของ
อุทธรณ์ของจำเลยโต้เถียงว่าที่พิพาททั้งหมดมิใช่ทรัพย์มรดกหากข้อเท็จจริงเป็นดังที่จำเลยอุทธรณ์จำเลยย่อมได้รับผลตามข้อต่อสู้ของจำเลยทั้งคดีจึงเป็นคดีที่พิพาทกันในชั้นอุทธรณ์ตามราคาทรัพย์พิพาทคือ54,000บาทโดยไม่แยกทุนทรัพย์ตามที่โจทก์แต่ละคนเรียกร้องเมื่อที่พิพาทมีราคาเกินกว่าห้าหมื่นบาทจึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1381/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินสาธารณะประโยชน์: การเพิกถอน น.ส.3ก. ที่ออกในที่ดินสาธารณะชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งจังหวัดที่ให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินของโจทก์เป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้แม้การเพิกถอนคำสั่งมีผลทำให้โจทก์ได้สิทธิครอบครองในที่ดินนั้นและที่ดินดังกล่าวมีราคาไม่เกิน200,000บาทต้องถือว่าคำขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวเป็นคำขอหลักส่วนที่โจทก์จะได้สิทธิครอบครองในที่ดินเป็นผลที่ได้ตามมาจึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ที่ดินแปลงใดเป็นที่สาธารณะหรือไม่ต้องพิจารณาตามสภาพของที่ดินและการใช้ว่าเข้าหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1304หรือไม่หากโดยสภาพของที่ดินเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์แม้ทางราชการมิได้ออกพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นที่หวงห้ามและมิได้ขึ้นทะเบียนเป็นที่สาธารณประโยชน์ไว้ก็หาทำให้กลับไม่เป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์ไปได้ไม่
of 89