คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ควบคุมค่าเช่า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 207 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 591/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิยาม 'เคหะ' ใน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: สิ่งปลูกสร้างใช้ประกอบธุรกิจ ไม่ถือเป็นเคหะ แม้มีส่วนที่อยู่อาศัย
'เคหะ' ตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ.2489มาตรา 5 นั้น มีความหมายในเบื้องต้นว่า ต้องเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย
สิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ถึงประกอบธุรกิจการค้าหรืออุตสาหกรรมด้วย ก็ยังนับว่าเป็น'เคหะ' แต่ถ้าสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประกอบธุรกิจการค้าหรืออุตสาหกรรมซึ่งไม่อยู่ในความหมายของคำว่า 'เคหะ' แล้ว แม้จะใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วย ก็ไม่กลับกลายเป็นเคหะขึ้นมาได้
โจทก์เช่าโรงเลื่อยเพื่อเลื่อยไม้จำหน่าย นับว่าเช่าสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่ประกอบธุรกิจการค้าหรืออุตสาหกรรมโดยตรง ไม่ต้องด้วยลักษณะของคำว่า'เคหะ' ตามความในพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าปี 2489

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 53/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเคหะและการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า หากโจทก์บอกเลิกสัญญาก่อน หรือค่าเช่าเดิมสูงกว่า
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า มีอัตราค่าเช่าเดือนละ 60 บาท จำเลยให้การและแถลงรับในรายงานพิจารณาว่า เช่ากัน 60 บาทจริง แต่โจทก์เพิ่งมาขึ้นค่าเช่า เดิมเสียค่าเช่าเดือนละ 30 บาท ดังนี้ เมื่อจำเลยไม่นำสืบให้ได้ความว่าโจทก์ขึ้นค่าเช่าเมื่อใดแล้ว ก็ต้องฟังว่าคิดค่าเช่ากันเดือนละ 60 บาท มาตั้งแต่ก่อนวันที่ 8 ธันวาคม 2484 แล้ว จำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ 2486
บอกเลิกการเช่าเคหะ ก่อนใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯลฯ 2489 แล้ว ผู้เช่าย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.นั้น ตามที่วินิจฉัยไว้ในฎีกาที่ 740/2490.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 53/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเคหะและการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า การพิสูจน์ภาระหน้าที่ของผู้เช่าในการนำสืบ
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า มีอัตราค่าเช่าเดือนละ 60 บาทจำเลยให้การและแถลงรับในรายงานพิจารณาว่าเช่ากัน 60 บาทจริง แต่โจทก์เพิ่งมาขึ้นค่าเช่า เดิมเสียค่าเช่าเดือนละ 30 บาท ดังนี้ เมื่อจำเลยไม่นำสืบให้ได้ความว่าโจทก์ขึ้นค่าเช่าเมื่อใดแล้ว ก็ต้องฟังว่าคิดค่าเช่ากันเดือนละ 60 บาท มาตั้งแต่ก่อนวันที่ 8 ธันวาคม 2484 แล้ว จำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ 2486
บอกเลิกการเช่าเคหะก่อนใช้ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ 2489แล้ว ผู้เช่าย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัตินั้น ตามที่วินิจฉัยไว้ในฎีกาที่ 740/2490

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 296/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเพื่อค้าไม่อยู่ในบังคับ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า และสัญญาที่ไม่มีลายมือชื่อผู้ให้เช่าไม่มีผลผูกพัน
การเช่าเคหะเพื่อประกอบกิจการค้า มิใช่เพื่ออยู่อาศัย ไม่อยู่ในบังคับแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
สัญญาเช่าที่มีลายมือชื่อผู้เช่าแต่ฝ่ายเดียว ไม่มีลายมือชื่อฝ่ายผู้ให้เช่านั้น ผู้เช่าจะฟ้องร้องผู้ให้เช่า เพื่อให้ปฏิบัติตามสัญญาเช่านั้นไม่ได้ และจะฟ้องเรียกค่าเสียหายในการไม่ได้ ใช้ทรัพย์ที่เช่าก็ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 242/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความคุ้มครอง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ: ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยถูกต้อง ไม่เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ 2489 ใช้คุ้มครองแก่กรณีของจำเลยได้แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏ จำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัตินั้นเพราะจำเลยมิได้ใช้สถานที่เช่าเป็นที่อยู่อาศัยส่วนศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้เช่าแล้วพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่านั้นจึงไม่คุ้มครองแก่ฐานะของจำเลยเสียเลยดังนี้ เป็นการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายโดยตรง ไม่ใช่วินิจฉัยข้อเท็จจริงต่างกับที่ศาลล่างได้วินิจฉัยไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลยพินิจคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า: ศาลต้องเคารพและพิจารณาตามสิทธิทั่วไป
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ เป็นกฏหมายที่ออกเพื่อยับยั้งการใช้สอยและแสวงหาดอกผลจากทรัพย์ สินของเจ้าของกรรมสิทธิไว้ชั่วคราว กล่าว+บทบัญญัติใน ป.พ.พ.ม. 1336 +อยู่ภายในบังคับแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ แต่ได้มีข้อยกเว้นไว้ในบางกรณีตามมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ. นั้น
เมื่อ คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้ใช้ดุลยพินิจให้ผู้ให้เช่าเดิมเข้าอยู่อาศัยในเคหะของตนแล้ว ก็เท่ากับว่าได้ใช้ดุลยพินิจให้ผู้มีสิทธิของตนตามหลักกฏหมายทัวไปแล้ว และเมื่อไม่มีบทบัญญัติในกฏหมายพิเศษนั้น ให้ศาลมีอำนาจรื้อฟื้นแก้ไขการใช้ดุลยพินิจของคณะกรรมการไว้อย่างไรแล้ว ดุลยพินิจของคณะกรรมการที่ให้ความยินยอมก็+ยุตติเป็นเด็ดขาดเพียงเท่านั้น ศาลย่อม+ต้องพิจารณาข้อพิพาทของคู่ความตามสิทธิในหลักกฏหมาย ทั่วไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า: ศาลต้องเคารพเมื่อใช้สิทธิเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้ว
พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ เป็นกฎหมายที่ออกเพื่อยับยั้งการใช้สอยและแสวงหาดอกผลจากทรัพย์สินของเจ้าของกรรมสิทธิ์ไว้ชั่วคราวกล่าวคือบทบัญญัติใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 ต้องอยู่ภายในบังคับแห่ง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ แต่ได้มีข้อยกเว้นไว้ในบางกรณีตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติ นั้น
เมื่อคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้ใช้ดุลพินิจให้ผู้ให้เช่าเดิมเข้าอยู่อาศัยในเคหะของตนแล้ว ก็เท่ากับว่าได้ใช้ดุลพินิจให้ผู้มีสิทธิในทรัพย์สินได้ใช้สิทธิของตนตามหลักกฎหมายทั่วไปแล้ว และเมื่อไม่มีบทบัญญัติในกฎหมายพิเศษนั้น ให้ศาลมีอำนาจรื้อฟื้นแก้ไขการใช้ดุลพินิจของคณะกรรมการไว้อย่างไรแล้ว ดุลพินิจของคณะกรรมการที่ให้ความยินยอมก็ต้องยุติเป็นเด็ดขาดเพียงนั้น ศาลย่อมจะต้องพิจารณาข้อพิพาทของคู่ความตามสิทธิในหลักกฎหมายทั่วไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของที่ดินฟ้องขับไล่ผู้เช่าจอดแพ และการเช่าไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าสิทธิจอดแพในคลองซึ่งเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหน้าที่ดินของผู้อื่นนั้น เจ้าของที่ดินย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่ได้
ผู้ได้รับแต่งตั้งจากข้าหลวงประจำจังหวัดให้เป็นผู้จัดการปกครองและผู้ตรวจตราสอดส่องศาลจ้าวย่อมมีอำนาจฟ้อง ขับไล่ผู้เช่าสิทธิจอดแพหน้าที่ดินของศาลจ้าวได้
การเช่าสิทธิจอดแพหน้าที่ดินของผู้อื่นนั้น ไม่ใช่เช่าที่ดินหรือโรงเรือน จึงไม่อยู่ในความคุ้มครองแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน
โจทก์จำเลยแถลงรับต่อศาลว่าได้มีหนังสือสัญญาเช่าไว้ต่อกัน ศาลย่อมฟังข้อเท็จจริงได้ว่าการเช่ามีหนังสือสัญญาเช่าไว้ต่อกัน โดยโจทก์ไม่จำต้องนำสืบความข้อนี้อีก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานที่เช่าใช้เป็นสำนักงานและที่อยู่อาศัยเข้าข่ายเคหะตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
บริษัทจำกัดเช่าสถานที่เป็นสาขาสำนักงานของบริษัท แลสำหรับเสมียนพนักงานของบริษัทอยู่อาศัย เวลาเช่ากันนั้นรู้กันอยู่ว่า จะใช้เป็นที่อาศัย ดังนี้ สถานที่เช่านั้นย่อมเป็นเคหะตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ 2489

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1233-1235/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าก่อนพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: การขึ้นค่าเช่าตามสัญญาที่ทำไว้ไม่ขัดกฎหมาย
จำเลยเช่าห้องของโจทก์อยู่อาศัยและทำการค้าตั้งแต่ก่อนใช้พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ พ.ศ.2486 โจทก์จำเลยได้ทำสัญญากันฉบับหนึ่งเมื่อตุลาคม 2488 ความว่า ให้ขยายเวลาเช่าให้จำเลยต่อไปอีก 12 เดือน ค่าเช่าตามเดิม และถ้าในเดือนตุลาคม 2489 จำเลยยังคงอยู่ในที่เช่าต่อไป จำเลยจะต้องเสียค่าเช่าเพิ่มให้โจทก์เป็นเดือนละ 100 บาท สัญญานี้สมบูรณ์ใช้ได้ตามกฎหมาย เพราะในวันทำสัญญานั้น ไม่มีกฎหมายใดห้ามไม่ให้ขึ้นค่าเช่า ถ้าการเช่ามิได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า 2488 และคดีไม่มีทางจะยกเอาพระราชบัญญัติ ปี 2489 และ 2490 มาบังคับกับสัญญานี้ เพราะได้ทำกันไว้ก่อนแล้ว
of 21