คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความประมาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 502 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4553/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทเลินเล่อในการขับขี่และการปฏิบัติตามสัญญาณจราจร กรณีรถยนต์ชนรถไฟ
ในบริเวณที่เกิดเหตุก่อนถึงทางรถไฟ 300 เมตร มีป้ายริมถนนบอกว่ามีทางรถไฟ เมื่อเข้ามาใกล้ 150 เมตร มีป้ายเครื่องหมายบอกอีกว่าข้างหน้ามีรถไฟตัดผ่านถนน และก่อนถึงทางรถไฟ มีป้ายสัญญาณ "หยุด" การที่รถยนต์ของฝ่ายจำเลยไม่ชะลอความเร็วและไม่หยุดตามเครื่องหมายจราจรไปชนรถไฟของโจทก์ซึ่งยาวเป็นขบวนและวิ่งมาตามรางตามปกตินั้น นับว่าเป็นความประมาทอย่างร้ายแรงฝ่ายเดียว จะอ้างว่าโจทก์มิได้มีเครื่องปิดกั้นถนนขณะรถไฟแล่นผ่านหาได้ไม่ จำเลยจึงต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ถนนใดแม้จะเป็นถนนสำคัญแต่การต้องทำเครื่องปิดกั้นถนนนั้นจะต้องพิจารณาถึงสภาพแวดล้อมและความจำเป็นที่จะต้องทำเฉพาะส่วนที่ทางรถไฟตัดกับถนนนั้นเป็นแห่ง ๆ ไป มิใช่ต้องทำทุกแห่งที่ทางรถไฟตัดกับถนน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4018/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างต้องรับผิดในความเสียหายจากการบาดเจ็บของลูกจ้างที่เกิดจากความประมาทในการขับรถ และค่าเสียหายจากการขาดประโยชน์ในการเลื่อนขั้นเงินเดือน
โจทก์โดยสารรถยนต์ที่ลูกจ้างของจำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับขี่ลูกจ้างจำเลยที่ 1 ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับบาดเจ็บโจทก์ต้องลางานเพื่อพักรักษาตัวจนเกินกว่าระยะเวลาที่นายจ้างของโจทก์กำหนดให้ นายจ้างจึงไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนให้โจทก์เพราะลาเกินสิทธิ เมื่อการพิจารณาขั้นเงินเดือนมีอัตรากำหนดแน่นอนอยู่แล้ว การที่โจทก์ไม่ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน จึงเป็นผลโดยตรงจากการกระทำละเมิดของลูกจ้าง ซึ่งกระทำไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3372/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับขี่รถจักรยานยนต์แซง การกระทำที่อาจเกิดอันตรายและเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
จำเลยขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วสูงปราศจากความระมัดระวัง เมื่อจำเลยขับขี่รถจักรยานยนต์แซงรถยนต์ปิกอัพแล้วหากจำเลยต้องการจะแซงรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขับขี่ จำเลยสามารถที่จะแซงได้ทันทีเพราะขณะนั้นบนถนนไม่มีรถแล่นสวนมาแต่การที่จำเลยไม่แซงทันทีโดยปักปาดหน้ารถยนต์ปิกอัพเข้าทางด้านซ้ายเสียก่อนแล้วจึงหักออกทางด้านขวาเพื่อแซงรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขับขี่อีกนั้น เป็นการกระทำที่อาจเกิดอันตรายได้เนื่องจากระยะห่างระหว่างรถยนต์ปิกอัพกับรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขับขี่นั้นมีเพียงไม่เกิน 15 เมตร น้อยเกินไปกว่าที่จำเลยจะกระทำเช่นนั้นได้ และการกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ทั้งสองคันชนกันล้มกลิ้งครูดไปตามถนน เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3002/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับขี่: ผู้ขับขี่มีหน้าที่สังเกตและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง แม้ผู้ถูกชนไม่ได้ติดตั้งสัญญาณเตือน
จำเลยขับรถยนต์บรรทุกไม้กระดาน โดยไม้กระดานบางส่วนยื่นพันท้ายรถออกไป 1 เมตรเศษ ขณะจอดรถเพื่อรอเลี้ยวตรงเกาะกลางถนนโจทก์ขับรถยนต์ไปชนถูกไม้กระดานที่ยื่นออกมานั้น ขณะเกิดเหตุท้องฟ้ากำลังสลัว พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน แต่ยังไม่มืดและไม้กระดานที่ยื่นมีจำนวนมากแผ่น ย่อมมองเห็นชัดเจนในระยะไกล หากโจทก์ระมัดระวังย่อมสังเกตเห็น และหลบหลีกไม่ให้ชนถูกไม้กระดานที่ยื่นการเกิดเหตุชนกันจึงเป็นเพราะโจทก์ขับรถโดยประมาทปราศจากความระมัดระวัง แม้จำเลยมิได้ติดสัญญาณไฟหรือผ้าสีแดงไว้ที่ปลายไม้กระดาน โจทก์ก็เป็นฝ่ายประมาทมากกว่า โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3002/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับขี่: ผู้ขับขี่มีหน้าที่สังเกตและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง แม้ผู้ถูกชนจะมีความผิดในการบรรทุก
เมื่อการที่โจทก์ขับรถไปชนไม้ที่รถจำเลยบรรทุกยื่นออกมาเกิดเพราะโจทก์เป็นฝ่ายประมาทมากกว่าจำเลย โจทก์ก็ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3002/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับขี่: ผู้ขับขี่มีหน้าที่สังเกตและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง แม้ผู้ถูกชนมิได้ติดสัญญาณเตือน
ขณะจำเลยขับรถยนต์บรรทุกไม้กระดานซึ่งมีไม้กระดานบางส่วนยื่นพ้นท้ายรถออกมา 1 เมตรเศษ จอดรอเลี้ยวตรงเกาะกลางถนนโจทก์ขับรถยนต์ชนไม้กระดานที่ยื่นออกมาในเวลาที่ท้องฟ้ากำลังสลัวพระอาทิตย์ใกล้ตกดินแต่ยังไม่มืดและไม้กระดานที่ยื่นมีจำนวนมาก ย่อมมองเห็นชัดเจนในระยะไกล หากโจทก์ระมัดระวังตามสมควรย่อมสังเกตเห็นและหลบหลีกไม่ให้ชนไม้กระดานได้ การเกิดเหตุชนกันนั้นจึงเป็นเพราะโจทก์ขับรถโดยประมาทปราศจากความระมัดระวัง แม้จำเลยมิได้ติดสัญญาณไฟหรือผ้าสีแดงไว้ที่ปลายไม้กระดาน โจทก์ก็เป็นฝ่ายประมาทมากกว่าจำเลย โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3002/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับขี่: ผู้ขับขี่ต้องระมัดระวังหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง แม้ผู้ถูกชนมิได้ติดตั้งสัญญาณเตือน
จำเลยขับรถยนต์บรรทุกไม้กระดาน โดยไม้กระดานบางส่วนยื่นพันท้ายรถออกไป 1 เมตรเศษ ขณะจอดรถเพื่อรอเลี้ยวตรงเกาะกลางถนนโจทก์ขับรถยนต์ไปชนถูกไม้กระดานที่ยื่นออกมานั้น ขณะเกิดเหตุท้องฟ้ากำลังสลัว พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน แต่ยังไม่มืดและไม้กระดานที่ยื่นมีจำนวนมากแผ่น ย่อมมองเห็นชัดเจนในระยะไกล หากโจทก์ระมัดระวังย่อมสังเกตเห็น และหลบหลีกไม่ให้ชนถูกไม้กระดานที่ยื่นการเกิดเหตุชนกันจึงเป็นเพราะโจทก์ขับรถโดยประมาทปราศจากความระมัดระวัง แม้จำเลยมิได้ติดสัญญาณไฟหรือผ้าสีแดงไว้ที่ปลายไม้กระดาน โจทก์ก็เป็นฝ่ายประมาทมากกว่า โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2604/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการถอยรถ - ผู้ขับต้องระมัดระวังแม้ได้รับคำสั่งจากผู้อื่น - ผู้ตายมีส่วนประมาท
แม้ว่าผู้ตายเป็นผู้ออกคำสั่งให้จำเลยถอนรถ จำเลยจะต้องพิจารณาว่าการถอยรถในลักษณะเช่นนั้นปลอดภัยหรือไม่ การนำขดลวดสายไฟฟ้าลงจากรถยนต์บรรทุกคันหนึ่งโดยวิธีใช้เหล็กท่อน้ำให้ปลายข้างหนึ่งยันขดลวดสายไฟฟ้า และปลายอีกข้างหนึ่งยันที่กระบะท้ายรถยนต์บรรทุกอีกคันหนึ่งที่จำเลยขับ ผู้ตายจับเหล็กท่อน้ำไว้ระหว่างกระบะท้าย รถยนต์บรรทุกทั้งสองคัน แล้วให้จำเลยเดินเครื่องยนต์ถอยรถเพื่อให้แรงของรถยนต์บรรทุกที่จำเลยขับถอยหลังนี้ดันเหล็กท่อน้ำ เพื่อเหล็กท่อน้ำจะได้ดันให้ขดลวดสายไฟฟ้าเคลื่อนที่จากแนวขวางเป็นแนวตรงนั้น เป็นวิธีที่ไม่ปลอดภัย เพราะถ้าเหล็กท่อน้ำหลุดจากขดลวดสายไฟฟ้าหรือจากกระบะท้ายรถยนต์บรรทุกที่ยันหรือจากมือผู้ตาย กระบะท้ายรถยนต์บรรทุกที่จำเลยขับก็จะอัดผู้ตายเข้ากับกระบะท้ายรถยนต์บรรทุกอีกคันหนึ่ง การถอยรถของจำเลยจึงเป็นความประมาทปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นจำเลยจะต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และจำเลยอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่
ตามพฤติการณ์แห่งคดี เป็นการทำงานร่วมกันของผู้ตายกับจำเลยและผู้ตายมีส่วนประมาทด้วย ประกอบกับมีการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่มารดาของผู้ตายจนเป็นที่พอใจ ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน สมควรให้จำเลยกลับตัวโดยให้รอการลงโทษจำคุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2604/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการถอยรถบรรทุก การกระทำโดยขาดความระมัดระวังทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
จำเลยขับรถบรรทุกถอยหลังดันเหล็กท่อน้ำซึ่งปลายข้างหนึ่งยันขดลวดสายไฟฟ้าที่วางขวางอยู่บนรถบรรทุกอีกคันหนึ่ง ส่วนปลายเหล็กท่อน้ำอีกข้างหนึ่งยันที่กระบะท้ายรถที่จำเลยขับโดยผู้ตายเป็นผู้จับเหล็กท่อน้ำไว้ ขณะถอยรถเหล็กท่อน้ำหลุดจากขดลวดสายไฟฟ้า รถที่จำเลยขับจึงทับผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้แม้ว่าผู้ตายเป็นผู้สั่งให้จำเลยถอยรถ จำเลยก็จะต้องพิจารณาว่าการถอยรถในลักษณะเช่นนั้นปลอดภัยหรือไม่ การนำขดลวดสายไฟฟ้าลงจากรถยนต์บรรทุกคันหนึ่งโดยวิธีให้จำเลยขับรถบรรทุกถอยหลังดันเหล็กท่อน้ำเพื่อให้เหล็กท่อน้ำดันขดลวดสายไฟฟ้าให้เคลื่อนที่จากแนวขวางเป็นแนวตรงนั้น เป็นวิธีที่ไม่ปลอดภัย เพราะถ้าเหล็กท่อน้ำหลุดจากขดลวดสายไฟฟ้าหรือจากกระบะท้าย รถยนต์บรรทุกที่ยันหรือจากมือผู้ตาย กระบะท้าย รถยนต์บรรทุกที่จำเลยขับก็จะอัดผู้ตายเข้ากับกระบะท้าย รถยนต์บรรทุกอีกคันหนึ่ง การถอยรถของจำเลยจึงเป็นความประมาทปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นจำเลยจะต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์และจำเลยอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2604/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการถอยรถ - ผู้ขับมีหน้าที่ระมัดระวังแม้ได้รับคำสั่ง - วิธีการทำงานที่ไม่ปลอดภัยเป็นเหตุให้เสียชีวิต
แม้ว่าผู้ตายเป็นผู้ออกคำสั่งให้จำเลยถอนรถ จำเลยจะต้องพิจารณาว่าการถอยรถในลักษณะเช่นนั้นปลอดภัยหรือไม่ การนำขดลวดสายไฟฟ้าลงจากรถยนต์บรรทุกคันหนึ่งโดยวิธีใช้เหล็กท่อน้ำให้ปลายข้างหนึ่งยันขดลวดสายไฟฟ้า และปลายอีกข้างหนึ่งยันที่กระบะท้ายรถยนต์บรรทุกอีกคันหนึ่งที่จำเลยขับ ผู้ตายจับเหล็กท่อน้ำไว้ระหว่างกระบะท้าย รถยนต์บรรทุกทั้งสองคัน แล้วให้จำเลยเดินเครื่องยนต์ถอยรถเพื่อให้แรงของรถยนต์บรรทุกที่จำเลยขับถอยหลังนี้ดัน เหล็กท่อน้ำ เพื่อเหล็กท่อน้ำจะได้ดัน ให้ ขดลวดสายไฟฟ้าเคลื่อนที่จากแนวขวางเป็นแนวตรงนั้น เป็นวิธีที่ไม่ปลอดภัย เพราะถ้าเหล็กท่อน้ำหลุดจากขดลวดสายไฟฟ้าหรือจากกระบะท้าย รถยนต์บรรทุกที่ยันหรือจากมือผู้ตาย กระบะท้าย รถยนต์บรรทุกที่จำเลยขับก็จะอัดผู้ตายเข้ากับกระบะท้าย รถยนต์บรรทุกอีกคันหนึ่ง การถอยรถของจำเลยจึงเป็นความประมาทปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นจำเลยจะต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และจำเลยอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่ ตามพฤติการณ์แห่งคดี เป็นการทำงานร่วมกันของผู้ตายกับจำเลยและผู้ตายมีส่วนประมาทด้วย ประกอบกับมีการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่มารดาของผู้ตายจนเป็นที่พอใจ ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน สมควรให้จำเลยกลับตัวโดยให้รอการลงโทษจำคุก.
of 51