คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความผิดทางอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 337 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 163/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรบกวนการครอบครองต้องเป็นอสังหาริมทรัพย์ การกล่าวอ้างเป็น 'แผงลอย' ไม่ถือเป็นอสังหาริมทรัพย์
การกระทำอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 365 นั้น ต้องเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์
โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าทรัพย์ที่จำเลยรบกวนนั้นเป็นอสังหาริมทรัพย์ การที่โจทก์กล่าวถึงทรัพย์นั้นว่าเป็นแผงลอย ไม่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ เพราะโดยสภาพของแผงลอยทั่ว ๆ ไปแล้ว ย่อมหมายความว่าเป็นสังหาริมทรัพย์ เมื่อโจทก์มิได้กล่าวหาว่าจำเลยรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ แม้จำเลยจะกระทำการนั้นจริงก็ไม่ครบองค์ประกอบที่จะเป็นความผิดตามบทมาตราดังกล่าวข้างต้น จึงลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 840/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายสุกรผิดสัญญา ไม่เข้าข่ายยักยอกทรัพย์
จำเลยมีอาชีพรับซื้อสุกรไปขายจำเลยได้รับสุกรจากโจทก์ไปเพื่อขาย โดยกำหนดราคาสุกรไว้ หากจำเลยขายสุกรได้สูงกว่าราคาที่กำหนดส่วนที่เกินตกเป็นของจำเลยและโจทก์ตกลงให้ค่าจ้างแก่จำเลยอีกร้อยละห้าของราคาสุกรด้วยจำเลยขายสุกรของโจทก์ได้เงินแล้วจำเลยขอผัดผ่อนยังไม่ส่งเงินค่าสุกรที่ขายได้ตามกำหนดที่นัดไว้โจทก์ก็ยอมให้จำเลยผัดไปหลายครั้งดังนี้ เป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่งไม่ใช่เป็นเรื่องจำเลยมีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนแล้วได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของโจทก์และกระทำผิดหน้าที่อันจะเป็นความผิดฐานยักยอกแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3090/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายเชื่อเครื่องเพชรไม่เป็นความผิดฐานยักยอก เป็นเพียงผิดสัญญาทางแพ่ง
ผู้เสียหายมอบเครื่องเพชรให้จำเลยไปขาย โดยผู้เสียหายคิดเอาราคา 32,300 บาท มีข้อตกลงกันว่าจำเลยจะจ่ายเงินตามราคาของให้เมื่อครบ 1 เดือนนับแต่วันเอาของไปถ้าขายไม่ได้จะคืนของให้ภายใน 1 เดือนเช่นกัน โดยไม่ได้จำกัดว่าจำเลยจะต้องขายในราคาเท่าใด เช่นนี้เงินที่ขายเครื่องเพชรดังกล่าวได้จึงตกเป็นของจำเลย เพียงแต่จำเลยมีความผูกพันว่าจะต้องนำเงิน 32,300 บาทมาคืนให้แก่ผู้เสียหายตามที่ตกลงกันไว้เท่านั้น กรณีจึงมิใช่จำเลยได้รับมอบหมายให้รับเครื่องเพชรหรือราคาเครื่องเพชรไว้แทนผู้เสียหาย แต่เป็นกรณีผู้เสียหายขายเชื่อเครื่องเพชรให้จำเลยไป แม้จำเลยไม่จ่ายเงินแก่ผู้เสียหาย และไม่คืนเครื่องเพชรก็เป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่ง ไม่เป็นความผิดอาญาฐานยักยอกตามที่โจทก์ฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1375/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเพิ่มเติมเอกสารสำเนาที่เจ้าพนักงานรับรองโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
จำเลยถ่ายภาพจากเอกสารที่เจ้าพนักงานได้รับรองในหน้าที่ภาพถ่ายเอกสารที่จำเลยถ่ายมานั้น เจ้าพนักงานไม่ได้รับรองด้วยจึงไม่ใช่เอกสารราชการ แต่เป็นเพียงเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(7) การที่จำเลยกรอกข้อความรายการต้องหาคดีต่าง ๆ เพิ่มเติมลงไปในภาพถ่ายเอกสารดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าพนักงานผู้รับรองความถูกต้องของเอกสารนั้น แล้วนำเอกสารดังกล่าวไปแจกจ่ายแก่บุคคลอื่น แม้ข้อความที่กรอกเพิ่มเติมในเอกสารจะเป็นความจริง ก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 วรรคสอง และ 268 แต่ไม่เป็นความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมตาม มาตรา 265,268

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2102/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดูหมิ่นซึ่งหน้า: ถ้อยคำหยาบคายสื่อถึงความเสื่อมเสีย แม้เป็นคำด่าโดยตรง
จำเลยถ่มน้ำลายไปทางผู้เสียหายและด่าผู้เสียหายว่า พวกอีดอกดำ คำว่าอีดอก เป็นถ้อยคำหยาบคาย สามัญชนฟังแล้วเข้าใจได้ชัดเจนอยู่ในตัวเองว่าผู้ถูกด่า เป็นหญิงไม่ดี จำเลยจึงมีความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1277/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกฟ้องคดีอาญาเมื่อศาลเห็นว่าการกระทำไม่เป็นความผิด แม้ฟ้องจะสมบูรณ์
แม้ฟ้องของโจทก์จะสมบูรณ์ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เมื่อศาลพิจารณาคำฟ้องแล้ว เห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดก็ชอบที่จะยกฟ้องโจทก์เสียได้ โดยไม่จำต้องทำการไต่สวนมูลฟ้องต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่ไม่เข้าข่ายฉ้อโกง แม้จำเลยรับสารภาพ ต้องพิเคราะห์เจตนาทุจริตตั้งแต่แรก
ฟ้องของโจทก์ตามบันทึกคำฟ้องและบันทึกหลักฐานการฟ้องคดีด้วยวาจา โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้หลอกลวงผู้เสียหายด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้งอย่างไร ที่โจทก์อ้างว่าจำเลยหลอกลวงว่าสามารถนำยาสีฟันไปจำหน่ายได้ ก็ปรากฏตามฟ้องโจทก์เองว่าจำเลยสามารถจำหน่ายยาสีฟันได้แล้วไม่นำเงินมาให้ผู้เสียหาย โจทก์ก็ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตที่จะไม่นำเงินที่จำหน่ายยาสีฟันได้มาให้ผู้เสียหายตั้งแต่แรก จึงเป็นเรื่องจำเลยไม่ปฏิบัติตามที่บอกผู้เสียหายไว้เท่านั้น กรณีเป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่ง ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 639/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันทำลายทรัพย์สินโดยเจตนาและพฤติการณ์ที่แสดงเจตนาพิเศษ (มาตรา 358, 83)
จำเลยที่ 4 นั่งมาในรถที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับ จำเลยที่ 1 ขับรถปาดหน้ารถยนต์โจทก์ร่วม และเมื่อโจทก์ร่วมได้ขับรถแซงรถของจำเลยขึ้นไป รถของจำเลยเร่งแซงขึ้นหน้าและได้มีการมองหน้ากัน ในขณะที่รถจำเลยแซงขึ้นหน้าไปนั้นเอง จำเลยที่ 4 ได้ขว้างก้อนอิฐมาถูกกระจำหน้ารถโจทก์ร่วมแตก เมื่อถูกขว้างรถ โจทก์ร่วมก็ขับรถตามไปจนทันและร้องบอกให้รถจำเลยหยุด จำเลยที่ 1 ก็ไม่หยุดกลับขับเบียดกระโปรงข้างหน้ารถของโจทก์ร่วม เป็นพฤติการณ์แวดล้อมที่ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 4 กระทำผิดด้วยกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 358

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมแปลงเอกสารสิทธิ (ใบเสร็จ) และยักยอกทรัพย์โดยพนักงานของรัฐ ฎีกาชี้ว่าฟ้องสมบูรณ์และมีความผิดตามกฎหมาย
แม้โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์มีทุนทั้งหมดหรือทุนเกินกว่าร้อยละห้าสิบเป็นของรัฐ แต่องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ซึ่งเรียกโดยย่อว่า "ร.ส.พ." ก็จัดขึ้นโดยพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ พ.ศ.2496 ซึ่งมาตรา 9 แห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวบัญญัติว่า "ให้กำหนดทุนของ ร.ส.พ.เป็นจำนวนเงินห้าสิบล้านบาทโดยรัฐบาลจ่ายให้เป็นทุนประเดิมสิบล้านบาทและจ่ายเพิ่มเติมเป็นคราว ๆ ตามจำนวนที่รัฐบาลเห็นสมควร" และทางราชการได้ประกาศพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จึงเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์มีทุนห้าสิบล้านบาทโดยทุนทั้งหมดเป็นของรัฐ ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว
จำเลยเป็นพนักงานประเภทประจำขององค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์อันเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายในตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาล มีหน้าที่ช่วยงานในการถ่ายภาพเอ๊กซเรย์ฯ รับเงินค่าเอ๊กซเรย์และออกใบเสร็จรับเงินด้วย จำเลยจึงเป็นพนักงานตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 3 เมื่อจำเลยได้รับเงินค่าเอ๊กซเรย์จากผู้ที่มาเอ๊กซเรย์รายละ 35 บาทแล้ว จำเลยก็เขียนจำนวนเงินและวันเดือนปีที่รับเงินในใบเสร็จรับเงินท่อนแรกที่เป็นต้นฉบับและมอบให้แก่ผู้ชำระเงินไปตามความจริง ภายหลังจำเลยจึงเขียนใบเสร็จรับเงินท่อนที่สองและท่อนที่สามที่เป็นสำเนา โดยเขียนจำนวนเงินน้อยลงกว่าที่ได้รับและเขียนวันเดือนปีที่ได้รับไม่ตรงความจริง การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปลอมสำเนาใบเสร็จรับเงินอันเป็นเอกสารสิทธิ ต่อมาจำเลยใช้สำเนาใบเสร็จรับเงินที่จำเลยปลอมขึ้นไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ขององค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์เพื่อแสดงว่าจำเลยได้รับเงินค่าเอ๊กซเรย์ไว้เท่าจำนวนที่ปรากฏในสำเนาใบเสร็จรับเงินปลอม จึงเป็นการใช้เอกสารสิทธิปลอมและยักยอกเบียดบังเงินค่าเอ๊กซเรย์ส่วนที่เหลือจากนำส่งเจ้าหน้าที่องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ แต่การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1532/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์: การแบ่งหน้าที่และเจตนาพิเศษ
จำเลยทั้งสามนั่งรถจักรยานยนต์คันเดียวกัน มาจอดที่ปากซอยให้จำเลยที่ 3 เฝ้ารถ เมื่อจำเลยที่ 1,2 ไปลักรถจักรยานยนต์ในซอยได้แล้ว จำเลยทั้งสามหนีไปพร้อมกัน แสดงให้เห็นว่าจำเลยทั้งสามร่วมคบคิดกันมาก่อนและแบ่งหน้าที่กันทำ จำเลยที่ 3 จึงมีความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์กับจำเลยที่ 1,2 ด้วย
of 34