พบผลลัพธ์ทั้งหมด 325 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4760/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดหลายกรรมต่างกันในคดีพรากผู้เยาว์ หน่วงเหนี่ยวกักขัง และข่มขืน ศาลฎีกาปรับบทลงโทษให้ถูกต้อง
แม้โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่ที่ศาลชั้นต้นปรับบทลงโทษจำเลยทั้งสองในความผิดฐานพรากผู้เยาว์กับฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษฐานพรากผู้เยาว์บทหนักนั้น ยังไม่ถูกต้อง เนื่องจากกรณีเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ศาลฎีกาปรับบทลงโทษให้ถูกต้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2421/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานเจ้าสำนักพนันกับฐานผู้เล่นเป็นคนละกรรมกัน แม้จำเลยเป็นทั้งเจ้าสำนักและผู้เล่น
เมื่อจำเลยเป็นทั้งเจ้าสำนักผู้จัดให้มีการเล่นพนันขึ้นเพื่อนำมาซึ่ง ผลประโยชน์แห่งตน และร่วมเข้าเล่นพนันกับลูกค้าผู้เข้าเล่นด้วย ตามลักษณะหรือสภาพแห่งการกระทำผิดของจำเลยดังกล่าวจึงสามารถแยกจากกันได้ เป็นการกระทำผิดต่างฐานกันและมีเจตนาคนละอัน จำเลยย่อมมีความผิดฐานเป็นเจ้าสำนักผู้จัดให้มีการเล่นพนันและฐานเป็นผู้เล่นพนัน อันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2421/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน: เจ้าสำนักพนันและผู้เล่น มีเจตนาต่างกัน จึงเป็นความผิดต่างฐาน
ข้อเท็จจริงได้ความตามที่โจทก์ฟ้องและจำเลยให้การรับสารภาพว่าจำเลยเป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นพนันขึ้นเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนและร่วมเข้าเล่นพนันกับลูกค้าผู้เข้าเล่นพนัน ดังนี้ตามลักษณะหรือสภาพแห่งการกระทำทั้งสองกรณี คือเป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นขึ้นเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนกรณีหนึ่ง และการร่วมเข้าเล่นพนันกับลูกค้าผู้เข้าเล่นพนันอีกกรณีหนึ่ง สามารถแยกออกจากกันได้ เป็นการกระทำต่างฐานกันและมีเจตนาคนละอันกันจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2421/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าสำนักพนันเล่นพนันเอง มีความผิดฐานเจ้าสำนักและฐานผู้เล่น เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
เมื่อจำเลยเป็นทั้งเจ้าสำนักผู้จัดให้มีการเล่นพนันขึ้นเพื่อนำมาซึ่ง ผลประโยชน์แห่งตน และร่วมเข้าเล่นพนันกับลูกค้าผู้เข้าเล่นด้วย ตาม ลักษณะหรือสภาพแห่งการกระทำผิดของจำเลยดังกล่าวจึงสามารถแยกจากกันได้ เป็นการกระทำผิดต่างฐาน กันและมีเจตนาคนละอัน จำเลยย่อมมีความผิดฐาน เป็นเจ้าสำนักผู้จัดให้มีการเล่นพนันและฐาน เป็นผู้เล่นพนันอันเป็นความผิดหลายกรรมต่าง กัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2219/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน: ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน, พยายามฆ่า, มีอาวุธปืน, พาอาวุธปืน
ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 140 วรรคสาม กับความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (2) ประกอบมาตรา 80 เป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 55 78 วรรคหนึ่ง และต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะ ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 ทวิ วรรคสอง เพราะการกระทำตามความผิดดังกล่าวมีการกระทำที่แยกจากกันเป็นแต่ละฐานความผิดได้ชัดเจน ไม่เกี่ยวเนื่องกัน
ความผิดฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ เป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะ เพราะความผิดทั้งสองฐานมีเจตนาในการกระทำผิดเป็นคนละอันแตกต่างกันและเป็นความผิดต่างฐานกัน
ความผิดฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ เป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะ เพราะความผิดทั้งสองฐานมีเจตนาในการกระทำผิดเป็นคนละอันแตกต่างกันและเป็นความผิดต่างฐานกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2219/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน: ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน, พยายามฆ่า, มีอาวุธปืน, พาอาวุธปืน
ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ตาม ป.อ. มาตรา 140 วรรคสาม กับความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ตามมาตรา 289(2) ประกอบมาตรา 80 เป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 55,78 วรรคหนึ่ง และต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะตาม พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ มาตรา8 ทวิ วรรคหนึ่ง 72 วรรคสอง เพราะการกระทำที่แยกจากกันเป็นแต่ละฐานความผิดได้ชัดเจนไม่เกี่ยวเนื่องกัน ความผิดฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ เป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะ เพราะความผิดทั้งสองฐานมีเจตนาในการกระทำผิดเป็นคนละอันแตกต่างกัน และเป็นความผิดต่างฐานกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2219/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน, พยายามฆ่า, มีอาวุธปืนเถื่อน และพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 140 วรรคสาม กับความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ตามมาตรา 289(2) ประกอบมาตรา 80เป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 55,78 วรรคหนึ่ง และต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะ ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง 72 ทวิ วรรคสอง เพราะการกระทำตามความผิดดังกล่าวมีการกระทำที่แยกจากกันเป็นแต่ละฐานความผิดได้ชัดเจน ไม่เกี่ยวเนื่องกัน ความผิดฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ เป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะเพราะความผิดทั้งสองฐานมีเจตนาในการกระทำผิดเป็นคนละอันแตกต่างกันและเป็นความผิดต่างฐานกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 900/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานออกเช็คไม่มีเงินและความเป็นฟ้องซ้ำ: การออกเช็คหลายฉบับเพื่อชำระหนี้เดียวกันถือเป็นความผิดหลายกรรม
จำเลยออกเช็ค 3 ฉบับชำระหนี้ให้แก่โจทก์ เป็นการสั่งให้ธนาคาร จ่ายเงินตามจำนวนและวันที่ที่มีปรากฏในเช็คแตกต่างกัน ซึ่งจำเลยผู้ออกเช็คอาจมีเงินจ่ายตามเช็คหรือมีเจตนาให้ใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างแยกจากกันได้เมื่อธนาคาร ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คทั้ง 3 ฉบับ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันและเมื่อเช็คที่โจทก์นำไปฟ้องจำเลยในคดีก่อนเป็นเช็คคนละฉบับกับที่มาฟ้องเป็นคดีนี้ แม้จำเลยจะออกเช็คในคราวเดียวกันเพื่อชำระหนี้อันมีมูลหนี้มาจากค่าซื้อยาเช่นเดียวกันก็ตาม โจทก์ก็ย่อมนำมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 900/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานออกเช็คไม่มีเงิน การกระทำแต่ละฉบับถือเป็นความผิดต่างกรรมกัน แม้มีมูลหนี้เดียวกัน ไม่ถือเป็นฟ้องซ้ำ
จำเลยออกเช็ค 3 ฉบับชำระหนี้ให้แก่โจทก์ เป็นการสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามจำนวนและวันที่ที่มีปรากฏในเช็คแตกต่างกัน ซึ่งจำเลยผู้ออกเช็คอาจมีเงินจ่ายตามเช็คหรือมีเจตนาให้ใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างแยกจากกันได้ เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คทั้ง 3 ฉบับ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน และเมื่อเช็คที่โจทก์นำไปฟ้องจำเลยในคดีก่อนเป็นเช็คคนละฉบับกับที่มาฟ้องเป็นคดีนี้ แม้จำเลยจะออกเช็คในคราวเดียวกันเพื่อชำระหนี้ อันมีมูลหนี้มาจากค่าซื้อยาเช่นเดียวกันก็ตามโจทก์ก็ย่อมนำมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 900/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คหลายฉบับ ความผิดหลายกรรม การฟ้องซ้ำ
จำเลยออกเช็ค 3 ฉบับชำระหนี้ให้แก่โจทก์ เป็นการสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามจำนวนและวันที่ที่มีปรากฏในเช็คแตกต่างกัน ซึ่งจำเลยผู้ออกเช็คอาจมีเงินจ่ายตามเช็คหรือมีเจตนาให้ใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างแยกจากกันได้เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คทั้ง 3 ฉบับ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน และเมื่อเช็คที่โจทก์นำไปฟ้องจำเลยในคดีก่อนเป็นเช็คคนละฉบับกับที่มาฟ้องเป็นคดีนี้ แม้จำเลยจะออกเช็คในคราวเดียวกันเพื่อชำระหนี้อันมีมูลหนี้มาจากค่าซื้อยาเช่นเดียวกันก็ตาม โจทก์ก็ย่อมนำมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ.