คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ชอบด้วยกฎหมาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 507 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4373/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้แปรรูปโดยมีหลักฐานการได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย และข้อยกเว้นไม่ต้องขออนุญาตแปรรูป
จำเลยมีไม้สักแปรรูปของกลางทั้งหมดไว้ในครอบครองไม้สักแปรรูปของกลางเป็นส่วนหนึ่งของไม้ ในกิจการโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรของ ป. มาก่อน โจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นว่าไม้สักในกิจการแปรรูปไม้ ของ ป. เป็นไม้ที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย กลับปรากฏจากคำเบิกความของ ส.และอ.พยานโจทก์ว่าส.และอ. ต่างเคยไปที่โรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรของ ป. แต่ไม่เคยพบการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้มาก่อนค่าพยานจำเลยที่ว่า ป.ซื้อไม้สักที่ถูกต้องตามกฎหมายจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้มาใช้ในกิจการโรงงานแปรรูปไม้โดยเครื่องจักรของ ป.ย่อมเป็นไม้ที่ชอบด้วยพระราชบัญญัติป่าไม้ กรณีถือได้ว่าจำเลยมีไม้สักแปรรูปของกลางไว้ในครอบครองโดยมีหลักฐานแสดงว่าได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วยพระราชบัญญัติป่าไม้แล้วเมื่อจำเลยมีไม้สักแปรรูปของกลางไว้ในครอบครองโดยมีหลักฐาน แสดงว่าได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วยพระราชบัญญัติป่าไม้แล้ว เมื่อจำเลยมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยมิใช่เพื่อการค้า จึงไม่ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เพราะเข้า ข้อยกเว้นตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 40(3) จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3801/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอคุ้มครองประโยชน์จากการบังคับคดีชั่วคราว หากพิสูจน์ได้ว่าการโอนหุ้นชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ร้องขอให้ปล่อยหุ้นที่ถูกยึด ศาลชั้นต้นยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งและขอทุเลาการบังคับ ดังนี้พอแปลเจตนาได้ว่าผู้ร้องเกรงว่าหุ้นพิพาทอาจถูกขายทอดตลาดในระหว่างอุทธรณ์อันเป็นการบังคับในคดีเดิม จึงประสงค์จะให้มีการงดการขายหรือจำหน่ายหุ้นพิพาทไว้ก่อน ย่อมเป็นการขอให้สั่งคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 264 นั่นเอง หากพยานหลักฐานของผู้ร้องฟังได้ว่าการโอนหุ้นมาเป็นของผู้ร้องชอบด้วยกฎหมาย อุทธรณ์ของผู้ร้องก็มีเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์อาจมีคำพิพากษาเป็นอย่างอื่นได้ หากไม่งดการขายหรือจำหน่ายหุ้นพิพาทที่โจทก์นำยึดไว้ในระหว่างอุทธรณ์อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ร้องได้ จึงมีเหตุอันสมควรที่จะคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3794/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีชอบด้วยกฎหมายเมื่อจำเลยรับรองภูมิลำเนาในคำให้การและไม่คัดค้านการบังคับคดีทันที
การส่งคำบังคับให้จำเลยโดยปิดคำบังคับตามภูมิลำเนาที่ปรากฏในคำให้การของจำเลย และบันทึกคำให้การพยานที่จำเลยมาให้การเป็นพยานซึ่งเป็นการยอมรับว่าจำเลยยังมีภูมิลำเนาตรงตามที่โจทก์ระบุในฟ้องนั้น เป็นการปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 272 ประกอบมาตรา 79 โดยชอบแล้ว จำเลยไม่ปฏิบัติการชำระหนี้ตามคำบังคับ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งออกหมายบังคับคดีแจ้งเจ้าพนักงานบังคับคดีตามมาตรา 276 เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงมีอำนาจหน้าที่ตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งภาค 4 ลักษณะ 2 บัญญัติไว้ เมื่อปรากฏว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดทรัพย์ที่ดินของจำเลยมีรายงานการยึดทรัพย์ ประกาศการขายทอดตลาดโดยประกาศหนังสือพิมพ์ มีการซื้อทรัพย์สินคือที่ดินดังกล่าว และศาลชั้นต้นได้มีหนังสือแจ้งนายอำเภอซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้รับผิดชอบดำเนินการโอนสิทธิครอบครองในที่ดินให้ผู้ซื้อ และโจทก์ได้รับเงินชำระหนี้บางส่วนแล้วตามลำดับ การบังคับคดีเฉพาะทรัพย์สินรายนี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นลงไม่ปรากฏว่าจำเลยยื่นคำร้องคัดค้านการกระทำของเจ้าพนักงานบังคับคดีก่อนหน้านั้นต่อศาลชั้นต้นแต่อย่างไร การที่จำเลยยื่นคำร้องภายหลังว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีทรัพย์สินรายนี้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3292/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนตั๋วสัญญาใช้เงินโดยชอบด้วยกฎหมาย และความรับผิดของผู้รับอาวัล
บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ บ. ออกตั๋วสัญญาใช้เงินชนิดเปลี่ยนมือไม่ได้ให้แก่บริษัท ส. จำเลยลงชื่อเป็นผู้อาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น ต่อมาบริษัท ส. ทำหนังสือโอนสิทธิเรียกร้องตามตั๋วสัญญาใช้เงินให้แก่โจทก์โดยได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ออกตั๋วแล้วเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 306 วรรคแรก มาตรา 917 วรรคสองประกอบมาตรา 985 วรรคแรก โจทก์จึงเป็นผู้รับโอนโดยชอบด้วยกฎหมายจำเลยซึ่งเป็นผู้รับอาวัลตั๋วจึงต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3270/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายจากการรับเช็คสลักหลังเพื่อชำระหนี้
เช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยที่ 1 สั่งจ่าย โดยมีจำเลยที่ 2ลงลายมือชื่อสลักหลังมอบให้แก่โจทก์เพื่อเป็นการชำระหนี้แลกเงินสดทั้งเป็นเช็คสั่งจ่ายแก่ผู้ถือโจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3096/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะพนักงานสอบสวนมีตลอดเวลา แม้ไม่ได้เข้าเวร การสอบสวนจึงชอบด้วยกฎหมาย
เจ้าพนักงานตำรวจในตำแหน่งที่กฎหมายบัญญัติว่ามีฐานะเป็นพนักงานสอบสวนย่อมมีฐานะเป็นพนักงานสอบสวนตลอดเวลาที่ยังดำรงตำแหน่งดังกล่าว ส่วนการที่จะต้องเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนในวันเวลาใดเป็นเพียงระเบียบหรือข้อบังคับภายในของหน่วยราชการซึ่งไม่มีผลทำให้เจ้าพนักงานตำรวจในตำแหน่งพนักงานสอบสวน ในขณะที่ไม่ได้เข้าเวรปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนไม่มีฐานะเป็นพนักงานสอบสวน ดังนั้น การที่ร้อยตำรวจเอก ป. รับแจ้งความร้องทุกข์จากโจทก์ร่วมในขณะที่ยังไม่ได้เข้าเวรปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวน ก็ต้องถือว่าร้อยตำรวจเอก ป. มีฐานะเป็นพนักงาน-สอบสวนในขณะที่รับแจ้งความร้องทุกข์ การสอบสวนของร้อยตำรวจเอก ป.ย่อมชอบด้วยกฎหมายพนักงานอัยการจึงมีอำนาจฟ้องคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3029/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามคำพิพากษา การออกหมายบังคับคดีชอบด้วยกฎหมาย แม้ผู้ถูกบังคับคดีจะออกจากที่พิพาทแล้ว
ศาลได้มีคำพิพากษาให้จำเลยและผู้ร้องสอดกับบริวารออกจากที่ดินและตึกพิพาท ให้ร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 10,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะ ออกไปจากที่ดินและตึกพิพาท กับให้ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษายืนผู้ร้องสอดได้รับทราบคำพิพากษา ของ ศาลฎีกาและศาลชั้นต้นได้ออกคำบังคับให้ผู้ร้องสอด ปฏิบัติ ตามคำพิพากษาศาลฎีกาแล้วด้วย ต่อมาเมื่อพ้นกำหนดตามคำบังคับ โจทก์ยื่นคำขอให้ออกหมายบังคับคดีอ้างว่าผู้ร้องสอดยังไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ การที่ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271หากผู้ร้องสอดได้ออกไปจากตึกพิพาทก่อนนี้แล้วก็ไม่ต้องบังคับในส่วนนี้คงบังคับในส่วนอื่นตามคำพิพากษาเช่นค่าเสียหายหรือค่าฤชาธรรมเนียม ต่อไปเพราะการที่ผู้ร้องสอดออกไปจากตึกพิพาทไม่อาจจะลบล้างค่าเสียหายที่ยังค้างชำระก่อนนี้ได้ผู้ร้องสอดออกจากที่พิพาทหรือยังเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์ยังไม่ยอมรับ และแถลงในคำขอว่าผู้ร้องสอดไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ จึงต้องออกหมายบังคับคดีตามคำพิพากษาดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2836/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเพิ่มเติมคำร้องคดีเลือกตั้ง: ชอบด้วยกฎหมายหากยังไม่มีการชี้สองสถานหรือสืบพยาน
คดีนี้ไม่มีการชี้สองสถาน ขณะผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำร้องก็ยังไม่มีการสืบพยานหรือไต่สวนพยานหลักฐานของฝ่ายใด ตามคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำร้องของผู้ร้องทั้งสองก็เกี่ยวข้องกันกับคำร้องเดิมพอที่จะรวมการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ ผู้ร้องทั้งสองจึงชอบที่จะขอแก้ไขเพิ่มเติมคำร้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2475/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องและการสอบสวนที่ชอบด้วยกฎหมาย
เหตุคดีนี้เกิดที่อำเภอตรอน และพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอตรอนยืนยันว่าเป็นผู้สอบสวน ซึ่งจำเลยที่ 2 มิได้ซักค้านในข้อนี้เพื่อให้เห็นว่าการสอบสวนไม่ชอบแต่อย่างใด จึงฟังได้ว่ามีการสอบสวนโดยชอบแล้วโจทก์มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1988/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเองโดยชอบด้วยกฎหมาย: การยิงเพื่อป้องกันการถูกทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย
ขณะที่จำเลยเฝ้ายามอยู่หน้าโรงงาน ผู้ตายเมาสุราเดินเข้าไปต่อว่าจำเลยเรื่องการเปิดประตูโรงงาน แล้วผู้ตายหยิบไม้ท่อนหนึ่งขนาดเท่าแขนยาวประมาณ 1 เมตร ตรงเข้ามาจะตีจำเลย จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงไป 1 นัด ถูกผู้ตายที่หน้าอกถึงแก่ความตาย เช่นนี้เมื่อพิเคราะห์ถึงไม้ที่ผู้ตายจะใช้ตีจำเลยนั้นมีขนาดใหญ่และยาวพอสมควรที่จะใช้เป็นอาวุธตีจำเลยให้ถึงตายได้ ยิ่งขณะนั้นผู้ตายมีอาการมึนเมาย่อมขาดความยับยั้งไม่มีอะไรจะยับยั้งผู้ตายได้จำเลยกำลังปฏิบัติหน้าที่เป็นยามป้องกันทรัพย์สินของโรงงานและสัญชาตญาณป้องกันตนเอง จำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงไปทางผู้ตายโดยกะทันหันทันทีในเวลาฉุกละหุกไม่มีโอกาสเลือกยิงส่วนใดของผู้ตายหรือยิงขู่ได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุไม่เป็นความผิด
of 51