คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บังคับชำระหนี้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 225 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ชำระหนี้ตามสัญญา การบังคับชำระหนี้ทางศาล และค่าเสียหายจากการไม่มีทางออก
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 213 เมื่อศาลได้พิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทให้เป็นทางสาธารณะ หากไม่ปฏิบัติตามก็ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา จึงเป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำพิพากษาถ้าจำเลยได้เอาที่พิพาทนั้นไปจำนองเป็นประกันหนี้แก่บุคคลที่สามไว้ก่อนศาลมีคำพิพากษาก็เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องจัดการให้สภาพแห่งหนี้เปิดช่องให้บังคับชำระหนี้ได้ ถ้าหากจำเลยไม่ปรารถนาจัดการหรือไม่สามารถจัดการให้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทกลับคืนมาสู่จำเลยโดยสมบูรณ์เพื่อทำนิติกรรมเป็นการชำระหนี้ตามคำพิพากษาในกรณีเช่นนี้ ศาลไม่มีอำนาจที่จะบังคับให้บุคคลที่สามกระทำการอันนั้นโดยให้จำเลยเสียค่าใช้จ่ายให้ เพราะกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทได้ตกเป็นประกันหนี้โดยการจำนองโดยชอบแก่บุคคลที่สามแล้วบุคคลที่สามจะต้องเสียหายโดยไม่ได้เข้ามาเป็นคู่ความด้วยแต่อย่างใดเมื่อเป็นดังนี้ จึงต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 215 ซึ่งได้บัญญัติว่า'เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ให้ต้องตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้ไซร้ เจ้าหนี้จะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแก่การนั้นก็ได้'ความเสียหายอันเกิดจากการที่ไม่มีทางออกถึงทางสาธารณะได้นี้ เป็นความเสียหายโดยตรงอันเกิดจากการไม่ชำระหนี้ เมื่อโจทก์นำสืบได้ว่าโจทก์จำต้องไปซื้อที่ดินของบุคคลอื่นเพื่อทำเป็นทางเดินออกถึงทางสาธารณะก็เป็นการสืบแสดงถึงความเสียหายโดยตรงอันเกิดจากการไม่ชำระหนี้ของจำเลยให้ต้องตามความประสงค์แห่งมูลหนี้นั้นที่เรียกว่าความเสียหายนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องจ่ายเงินไปแล้วโดยจริงจังแต่อย่างใดการเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้นอาจคำนวณเอาได้ แม้ยังไม่ได้จ่ายเงินไป เมื่อโจทก์นำสืบให้เห็นจำนวนเงินอันอาจคำนวณเป็นค่าสินไหมทดแทนได้แล้ว ศาลก็สั่งบังคับให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1064/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำนองเหนือทรัพย์สินทั้งหมด แม้กรรมสิทธิ์บางส่วนจะเปลี่ยนมือจากการครอบครองปรปักษ์ ผู้รับจำนองยังบังคับได้
จำเลยที่ 1,2 จำนองที่ดินแปลงหนึ่งแก่โจทก์ เมื่อจำนองแล้ว จำเลยที่ 3 ได้กรรมสิทธิ์ส่วนหนึ่งของที่ดินแปลงนั้นไปด้วยการครอบครองปรปักษ์ แต่ยังไม่ได้จดทะเบียน ดังนี้โจทก์มีสิทธิบังคับจำนองที่ดินแปลงนั้นได้ แม้ส่วนหนึ่งของที่ดินแปลงนั้นตกเป็นของจำเลยที่ 3 แล้วและจำเลยที่ 3 ไม่ได้เป็นลูกหนี้โจทก์ก็ตาม ทั้งนี้เพราะสิทธิจำนองเป็นสิทธิครอบเหนือทรัพย์ทั้งหมด
เมื่อจำเลยที่ 3 ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองแต่ยังไม่ได้จดทะเบียนจะยกขึ้นต่อสู้ผู้รับจำนองซึ่งได้สิทธิโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหนี้จำนอง vs. กรรมสิทธิ์ร่วม: การบังคับชำระหนี้และการโต้แย้งสิทธิ
จำเลยที่ 2 กู้เงินโจทก์และได้มอบโฉนดที่ดินซึ่งมีชื่อจำเลยที่ 2 ให้โจทก์ยึดไว้เมื่อทำสัญญากู้เงิน ต่อมาจำเลยที่ 1 ฟ้องจำเลยที่ 2 อ้างว่าจำเลยที่ 1 มีกรรมสิทธิ์รวมอยู่ในที่ดินนั้น ดัรงนี้ ตราบใดที่โจทก์ยังมิได้นำยึดที่ดินตามโฉนดนั้นเพื่อบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์ก็ยังไม่มีสิทธิเกี่ยวข้องอย่างใดที่จะบังคับทวงหนี้เอากับที่ดินนั้น การที่จำเลยที่ 1 ฟ้องจำเลยที่ 2 นั้น จึงยังไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 และการที่จำเลยที่ 1 ฟ้องจำเลยที่ 2 เช่นนั้น และจำเลยที่ 2 ให้การรับว่าจำเลยที่ 1 มีส่วนอยู่ในที่ดินด้วยก็ไม่เป็นการฉ้อฉลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 เพราะจำเลยที่ 2 ยังมิได้ทำนิติกรรมแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 127/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหนี้จำนอง: บังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินลูกหนี้นอกเหนือจากจำนองได้
หนี้ที่มีจำนองเป็นประกัน เจ้าหนี้จะใช้สิทธิเรียกร้องอย่างหนี้สามัญ คือ บังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินทั่วไปของลูกหนี้ หรือจะบังคับจำนอง คือ ใช้บุริมสิทธิบังคับชำระหนี้จากทรัพย์ที่จำนอง อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับชำระหนี้และการโต้แย้งสิทธิในทรัพย์สินหลังการหย่า ศาลมีอำนาจวินิจฉัยสิทธิในทรัพย์สินที่ถูกยึดได้
โจทก์ยึดทรัพย์อ้างว่าเป็นของสามีซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา ภรรยาร้องขัดทรัพย์อ้างว่าหย่าขาดจากสามีและแบ่งทรัพย์ที่ถูกยึดนั้นแล้ว โดยทรัพย์นั้นเป็นของภรรยาและบุตรเช่นนี้ ศาลมีอำนาจวินิจฉัยว่าการหย่าการแบ่งทรัพย์เช่นว่านี้เป็นการยินยอมเพื่อให้ทรัพย์ที่ยึดหลุดพ้นจากการถูกบังคับชำระหนี้ได้ โดยมิต้องให้โจทก์ไปฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการหย่าแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหย่าและการบังคับชำระหนี้: ศาลมีอำนาจวินิจฉัยการสมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้ได้โดยไม่ต้องเพิกถอนนิติกรรม
โจทก์นำยึดทรัพย์อ้างว่าเป็นของสามีซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาภรรยาร้องขัดทรัพย์อ้างว่าหย่าขาดจากสามีและแบ่งทรัพย์ที่ถูกยึดนั้นแล้วโดยทรัพย์นั้นเป็นของภรรยาและบุตรเช่นนี้ ศาลมีอำนาจวินิจฉัยว่าการหย่าและแบ่งทรัพย์เช่นว่านี้เป็นการยินยอมเพื่อให้ทรัพย์ที่ยึดหลุดพ้นจากการถูกบังคับชำระหนี้ได้โดยมิต้องให้โจทก์ไปฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการหย่าแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยอกเงินค่าจำนำวิทยุ ไม่ใช่การยักยอกทรัพย์ ยักยอกเงินค่าจำนำถือเป็นเรื่องบังคับชำระหนี้ ไม่เป็นความผิดอาญา
ตามฟ้องของโจทก์นี้ (ดูฟ้องโจทก์) แปลได้ว่า เป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานยักยอกเงินค่าจำนำวิทยุ (ไม่ใช่ยักยอกเครื่องวิทยุ) จึงไม่มีมูลคดีอาญา (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 835/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับชำระหนี้ที่ไม่ชอบ ผู้ให้กู้จริงคือผู้อื่น ศาลไม่สามารถบังคับจำเลยได้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับเงินชำระหนี้ 2,000 บาทแล้วคืนที่ดินที่โจทก์ให้จำเลยไว้เป็นประกันจำเลยให้การว่าที่ดินเป็นของจำเลยโจทก์นำสืบพยานได้ความว่าโจทก์กู้เงินนายน้อย หาได้กู้เงินจำเลยไม่ศาลจะบังคับให้จำเลยรับชำระหนี้ไม่ได้ต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจผู้ชำระบัญชีในการบังคับชำระหนี้หรือส่งมอบทรัพย์สิน: ผู้ชำระบัญชีต้องฟ้องร้องเป็นคดีใหม่ ไม่สามารถบังคับได้ในคดีเดิม
ในกรณีที่ฟ้องร้องขอเลิกห้างหุ้นส่วนและตั้งผู้ชำระบัญขีนั้น เมื่อศาลพิพากษาให้เลิกและตั้งผู้ชำระบัญชีแล้ว เมื่อปรากฎแก่ผู้ชำระบัญชี ผู้ใดเป็นลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินเกี่ยวข้องแก่ห้างหุ้นส่วนที่ชำระบัญชี และผู้นั้นไม่ยอมชำระหรือนำส่งแล้ว ก็ย่อมต้องฟ้องร้องต่อศาลเป็นเรื่อง ๆ ไป จะขอให้ศาลบังคับให้เขาส่งหรือชำระในคดีเดิมที่ขอเลิกหุ้นส่วนนั้นไม่ได้ เพราะมิได้มีกฎหมายให้อำนาจไว้ดังในเรื่องล้มละลาย
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2497

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจผู้ชำระบัญชีและการบังคับชำระหนี้: ผู้ชำระบัญชีต้องฟ้องร้องเป็นเรื่องๆ ไป ไม่สามารถบังคับได้โดยตรง
ในกรณีที่ฟ้องร้องขอเลิกห้างหุ้นส่วนและตั้งผู้ชำระบัญชีนั้น เมื่อศาลพิพากษาให้เลิกและตั้งผู้ชำระบัญชีแล้วเมื่อปรากฏแก่ผู้ชำระบัญชีว่า ผู้ใดเป็นลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินเกี่ยวข้องแก่ห้างหุ้นส่วนที่ชำระบัญชี และผู้นั้นไม่ยอมชำระหรือนำส่งแล้ว ก็ย่อมต้องฟ้องร้องต่อศาลเป็นเรื่องๆ ไปจะขอให้ศาลบังคับให้เขาส่งหรือชำระในคดีเดิมที่ขอเลิกหุ้นส่วนนั้นไม่ได้เพราะมิได้มีกฎหมายให้อำนาจไว้ดังในเรื่องล้มละลาย
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2497
of 23