คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ปฏิบัติหน้าที่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 307 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1530/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเจ้าพนักงานปฏิบัติ/ละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ และร่วมกันทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลอุทธรณ์แก้ไขโทษจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งห้ามีความผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ฯ จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 83, 160 จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 86 การกระทำของจำเลยทั้งห้าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษจำเลยที่ 1 ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 บทหนัก จำคุกจำเลยที่ 1 สี่ปี ลงโทษจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 บทหนัก จำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 3 คนละ 2 ปี 8 เดือน จำเลยที่ 4 ที่ 5 คนละ 1 ปี 4 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งห้ากระทำผิด 2 กรรม ลงโทษฐานร่วมกันทำไม้ยางโดยไม่รับอนุญาตตาม พระราชบัญญัติป่าไม้อีกกระทงหนึ่ง จำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 คนละ 3 ปี จำคุกจำเลยที่ 4 ที่ 5 คนละ 1 ปี 6 เดือน ส่วนความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ดังนี้ สำหรับความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลยทั้งห้าไม่เกินห้าปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริง ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ส่วนความผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ ศาลชั้นต้นเห็นว่า เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมาย หลายบทจึงไม่กำหนดโทษฐานนี้ ศาลอุทธรณ์ ว่าเป็นความผิด 2 กรรม กำหนดโทษจำคุกจำเลยทั้งห้าอีกกระทงหนึ่ง จึงเป็นการแก้ไขมากจำเลยมีสิทธิฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงในกระทงนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2726/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา: เจ้าพนักงานตำรวจไม่มีอำนาจไล่บุคคลออกจากห้องสอบสวน ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจึงไม่成立
ฟ้องของโจทก์บรรยายว่าจำเลยเป็นเพียงเจ้าพนักงานตำรวจผู้มีหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายมิใช่พนักงานสอบสวนจึงไม่มีหน้าที่หรือสิทธิใด ๆ ที่จะไล่โจทก์ออกจากห้องพนักงานสอบสวนได้การกระทำของจำเลยจึงมิใช่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งจะมีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เมื่อข้อหาตามมาตรา 157 ไม่มีมูลความผิดดังกล่าวแล้วข้อหาฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 จึงมิใช่ความผิดอันเกี่ยวพันกับข้อหาตามมาตรา 157 ซึ่งโจทก์จะมีสิทธิฟ้องต่อศาลที่มีอำนาจชำระในความผิดซึ่งมีอัตราโทษสูงกว่าได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 24

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1793/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และทำร้ายร่างกาย
ฟ้องว่าจำเลยเมาสุราประพฤติวุ่นวาย ตำรวจจับจำเลยจำเลยต่อสู้และทำร้ายตำรวจผู้กระทำการตามหน้าที่ ได้ความว่าจำเลยไม่เมาสุราแต่ไม่ยอมเสียค่าเข้าดูภาพยนตร์ตำรวจขอค้นเป้จำเลยไม่ยอมให้ค้นแล้วทำร้ายตำรวจ จึงไม่ใช่การที่ตำรวจทำการตามหน้าที่ตามฟ้อง ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1390/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิบัติ/ละเว้นหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าพนักงานสอบสวน ทำให้ผู้บริสุทธิ์ถูกฟ้องร้อง
ตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 131บัญญัติให้พนักงานสอบสวนมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดโดยไม่คำนึงว่าจะเป็นหลักฐานที่พนักงานสอบสวนสืบหามาได้เอง หรือที่ผู้เสียหายหรือผู้ต้องหายื่นต่อพนักงานสอบสวนเพื่อเป็นพยาน หรือที่บุคคลภายนอกส่งมา ทั้งนี้ ก็เพื่อที่จะได้ทราบข้อเท็จจริง และพฤติการณ์ต่าง ๆอันเกี่ยวกับความผิดที่ถูกกล่าวหา และเพื่อที่จะรู้ตัวผู้กระทำผิด และพิสูจน์ให้เห็นความผิด
คำบรรยายฟ้องที่ครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2566/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาผ่อนปรนสัญญา, กำหนดเวลาขับไล่, การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา, สัญญาก่อสร้าง
โจทก์จำเลยทำสัญญากันให้โจทก์ก่อสร้างตึกแถวยกกรรมสิทธิ์ให้จำเลยบนที่ดินของจำเลย โดยโจทก์มีสิทธิเรียกเงินช่วยค่าก่อสร้างจากผู้เช่า ตามสัญญาระบุว่า จำเลยรับผิดชอบขับไล่ผู้อยู่อาศัยในที่ดิน ซึ่งจำเลยชนะคดีแล้วโดยบังคับคดีภายใน 20 วันนับแต่วันทำสัญญา ดังนี้เมื่อเห็นได้ว่าการทำสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยมิได้มุ่งถึงเรื่องเวลาเป็นข้อสาระสำคัญ หากแต่โจทก์จำเลยมีเจตนาผ่อนปรนซึ่งกันและกันตามสมควร กำหนดเวลาที่ว่าจำเลยต้องขับไล่ผู้แพ้คดีออกไปดังกล่าว จึงหมายความว่าจำเลยจะต้องดำเนินการบังคับคดีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ภายใน 20 วันนับแต่วันทำสัญญา หาใช่จะต้องขับไล่บุคคลดังกล่าวออกไปโดยเด็ดขาดภายในกำหนด 20 วันนับแต่วันทำสัญญาไม่ ปรากฏว่าจำเลยได้ยื่นคำแถลงให้ศาลดำเนินการบังคับคดีแก่ผู้แพ้คดีซึ่งมีอยู่ 2 รายและผู้แพ้คดีรายหนึ่งออกไปจากที่ดินตั้งแต่ก่อนโจทก์จำเลยทำสัญญาก่อสร้างกัน ส่วนผู้แพ้คดีอีกรายหนึ่งออกไปหลังจากวันทำสัญญาก่อสร้างราว 5 เดือน ก่อนที่โจทก์จะต้องชำระค่าหน้าดินงวดที่สองให้จำเลยถือว่าจำเลยได้ปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาแล้ว ไม่เป็นฝ่ายผิดสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2444/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ, หน่วงเหนี่ยวกักขัง, ทำร้ายร่างกาย: เจตนาและกรรมเดียว
จำเลยทั้งสามเป็นเจ้าพนักงานตำรวจมีอำนาจสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดแกล้งจับผู้เสียหายอ้างว่า กระทำผิดฐานเมาสุราอาละวาดทั้งที่ไม่เป็นความจริง อันเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และนำตัวผู้เสียหายออกจากบ้านไปไว้ที่แห่งหนึ่ง แล้วจึงปล่อยตัวผู้เสียหายไป อันเป็นความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพตามมาตรา 310ดังนี้ แม้การกระทำของจำเลยทั้งสามจะเป็นการกระทำหลายอย่าง แต่ก็ด้วยเจตนาอันเดียวกัน คือเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และเป็นการกระทำต่อเนื่องกันการกระทำของจำเลยทั้งสามจึงเป็นกรรมเดียวกัน แต่เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
จำเลยที่ 1 จับมือผู้เสียหายกระชากโดยแรงจนผู้เสียหายล้มลงได้รับบาดเจ็บที่นิ้วนางซ้ายและหัวเข่าซ้าย แพทย์ลงความเห็นว่าบาดแผลต้องใช้เวลารักษาประมาณ 5 วัน ตามพฤติการณ์แสดงว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนาทำร้ายผู้เสียหายเมื่อผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายดังกล่าว จำเลยที่ 1 จึงต้องมีความผิดตามมาตรา 295

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2202/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่ไม่เป็นความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อเจ้าพนักงานมิได้ปฏิบัติหน้าที่ในขณะเกิดเหตุ
นายตำรวจกลับจากงานแต่งงานเกิดโต้เถียงกับจำเลย ไม่ได้ทำการตามหน้าที่ และไม่แสดงบัตรให้จำเลยดู จำเลยไม่รู้ว่าเป็นตำรวจ ไม่เป็นการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานกล่าวคำไม่สุภาพ ขณะโต้เถียงกันไม่เป็นดูหมิ่นซึ่งหน้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการขับรถชนตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ แม้ไม่สำเร็จโทษยังคง
ผู้เสียหายเป็นตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ตรวจพบจำเลยขับรถยนต์โดยสารโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์และป้ายแสดงการเสียภาษีรถยนต์ จึงสั่งให้ไปเสียค่าปรับที่สถานีตำรวจ จำเลยกลับขับรถไปทางอื่น ผู้เสียหายนั่งรถติดตามไปทัน สั่งให้จำเลยไปสถานีตำรวจอีก จำเลยกลับขับรถยนต์ต่อไป ผู้เสียหายนั่งรถแซงรถจำเลยไปจอดข้างหน้า ลงจากรถไปยืนบนถนน โบกมือให้รถจำเลยหยุด จำเลยไม่หยุดรถ แต่กลับขับไปโดยเร็วจะชนผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายหลบเสียทัน หากไม่หลบ รถจำเลยก็ต้องชนผู้เสียหาย ฟังได้ว่าจำเลยมีความโกรธแค้นที่ผู้เสียหายติดตามจับจำเลยจึงมีเจตนาฆ่าโดยการขับรถชนในขณะผู้เสียหายปฏิบัติการตามหน้าที่ แต่เพราะผู้เสียหายหลบเสียทันจำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289,80

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากอาวุธสงคราม: พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
การที่จำเลยกับพวกใช้ปืนอาร์ก้าซึ่งเป็นอาวุธปืนที่มีอานุภาพร้ายแรงและเป็นอาวุธสำหรับใช้แต่ในการสงคราม ยิงไปที่เจ้าพนักงานตำรวจขณะปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยยิงหลายนัดในระยะห่างประมาณ 100 เมตรนั้น แสดงถึงเจตนาฆ่า เมื่อการกระทำนั้นไม่บรรลุผล เพราะกระสุนไม่ถูกเจ้าพนักงานตำรวจ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2255/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ กรณีถูกพักราชการแล้ว ไม่ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่
จำเลยรับราชการเป็นตำรวจ แต่ในขณะที่แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานทำการจับกุมผู้เสียหาย แล้วไม่นำส่งสถานีตำรวจ กลับพาไปข่มขืนกระทำชำเราและปล่อยตัวไปนั้น จำเลยถูกสั่งพักราชการแล้ว แม้จะยังมิได้มีคำสั่งปลดหรือให้จำเลยออกจากราชการ จำเลยก็ถูกสั่งมิให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการตามตำแหน่งหน้าที่ การกระทำของจำเลยจึงมิใช่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการในฐานะเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
of 31