พบผลลัพธ์ทั้งหมด 208 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าช่วงที่ผู้ให้เช่าเดิมยินยอม: ผู้เช่าช่วงมีสิทธิและหน้าที่ต่อผู้ให้เช่าเดิมโดยตรง
การเช่าช่วงโดยผู้ให้เช่าเดิมยินยอมนั้น ผู้เช่าช่วงย่อมต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าเดิมโดยตรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 545ผู้เช่าช่วงจึงหาใช่เป็นบริวารของผู้เช่าไม่
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากที่เช่าแต่ลำพัง โดยไม่ได้ฟ้องผู้เช่าช่วงเป็นจำเลยด้วย แม้ศาลจะพิพากษาขับไล่ผู้เช่าออกจากที่เช่าแล้วก็ดี ถ้าการเช่าช่วงนั้น ได้กระทำไปโดยผู้ให้เช่าเดิมยินยอมแล้ว โจทก์จะขอให้ขับไล่ผู้เช่าช่วงในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่าซึ่งเป็นจำเลยไม่ได้ชอบที่จะว่ากล่าวกันต่างหากจากคดีนี้
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากที่เช่าแต่ลำพัง โดยไม่ได้ฟ้องผู้เช่าช่วงเป็นจำเลยด้วย แม้ศาลจะพิพากษาขับไล่ผู้เช่าออกจากที่เช่าแล้วก็ดี ถ้าการเช่าช่วงนั้น ได้กระทำไปโดยผู้ให้เช่าเดิมยินยอมแล้ว โจทก์จะขอให้ขับไล่ผู้เช่าช่วงในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่าซึ่งเป็นจำเลยไม่ได้ชอบที่จะว่ากล่าวกันต่างหากจากคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1334/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าช่วงผิดสัญญา ผู้ให้เช่ามีสิทธิฟ้องขับไล่ได้ทันที
ในกรณีที่ผู้เช่าให้ผู้อื่นเช่าช่วงอันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 544 นั้น ผู้ให้เช่าหาจำเป็นต้องบอกกล่าวให้เวลาแก่ผู้เช่าตาม มาตรา 566 ไม่ เมื่อบอกกล่าวเลิกสัญญาโดยให้เวลาพอสมควรแล้วก็มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้(อ้างฎีกาที่ 1028/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238-1240/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหะสถานของผู้ให้เช่า ไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก
ความผิดฐานบุกรุก ตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 329 นั้น เคหะที่บุกรุกนั้นจะต้องไม่ใช่เป็นของจำเลย
จำเลยบุกรุกเข้าไปในห้องของจำเลย ซึ่งได้ให้โจทก์เช่าอยู่อาศัย ดังนี้
ยังไม่เป็นความผิดในทางอาญาฐานบุกรุก
(อ้างฎีกาที่ 816 - 817 /2493
จำเลยบุกรุกเข้าไปในห้องของจำเลย ซึ่งได้ให้โจทก์เช่าอยู่อาศัย ดังนี้
ยังไม่เป็นความผิดในทางอาญาฐานบุกรุก
(อ้างฎีกาที่ 816 - 817 /2493
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 764/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อู่ซ่อมรถบนที่เช่า: สิทธิของผู้ให้เช่าเมื่อผู้เช่าถูกยึดทรัพย์
เช่าที่ดินเขาแล้วปลูกอู่ซ่อมรถยนต์ลงในที่เช่านั้นโดยมีข้อสัญญาว่าผู้เช่าจะรักษาที่เช่าทุกส่วนให้เรียบร้อยจนกว่าผู้เช่าจะออกจากที่เช่าหรือหมดอายุสัญญาเช่าหรือผิดสัญญาหรือสัญญาเช่าต้องเลิกกันเพราะผิดสัญญาผู้เช่าจะรื้อถอนอู่ซ่อมรถยนต์ที่ปลูกไว้มิได้ ต้องปล่อยให้ตกเป็นของผู้ให้เช่าโดยไม่เรียกร้องเอาค่าอะไรจากผู้ให้เช่า และสัญญาเช่ารายนี้ก็เป็นสัญญาเฉพาะตัวผู้เช่ากับบริวารเท่านั้นมีสิทธิ์จะอยู่ได้ จะให้ผู้อื่นเช่าช่วงหรือให้ผู้อื่นเข้าอยู่แทนเช่นให้อาศัยก็ไม่ได้ ฉะนั้นเมื่ออู่รถยนต์นี้ถูกเจ้าหนี้ของผู้เช่ายึดทรัพย์บังคับคดีตามคำพิพากษา ก็เป็นอันว่าผู้เช่าต้องออกจากทรัพย์ที่เช่านี้โดยปริยายตามอำนาจของการยึดทรัพย์ ฉะนั้นอู่รถยนต์นี้ก็ต้องตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าคือเจ้าของที่ดินตามข้อสัญญา คดีจึงตกอยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 285(2). กล่าวคือเป็นทรัพย์สินที่โอนกันไม่ได้ หรือไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี ศาลต้องสั่งถอนการยึดอู่รถยนต์รายนี้ (ประชุมใหญ่)ครั้งที่ 5/2494
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีโรงเรือนต้องไม่เกินค่าเช่าจริง การประเมินเกินถือไม่เป็นธรรมต่อผู้ให้เช่า
แม้ใน พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดินมาตรา 8 จะได้ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่แก้หรือคำนวณค่ารายปีใหม่ เมื่อมีเหตุอันบ่งให้เห็นว่าค่าเช่านั้นมิใช่จำนวนเงินอันสมควรจะให้เช่าได้ก็ดี ถ้าผู้ให้เช่าได้เรียกเก็บค่าเช่าตามสัญญาที่ให้เช่าและค่าเช่าที่เรียกเก็บก็ไม่น้อยเกินไป หรือมีเหตุที่น่าจะเห็นว่าผู้เช่ากับผู้ให้เช่าสมยอมกันแล้ว ก็ไม่มีเหตุสมควรที่เจ้าพนักงานประเมินจะประเมินค่ารายปีเกินไปกว่าค่าเช่าที่ผู้ให้เช่าได้รับจริง เพราะไม่เป็นธรรมแก่ฝ่ายผู้ให้เช่า ฉะนั้นถ้าประเมินค่ารายปีเกินไปโดยไม่สมควรแล้ว ผู้ให้เช่าย่อมฟ้องเรียกคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินเกินกว่าค่าเช่าที่ได้รับจริง ผู้ให้เช่ามีสิทธิฟ้องเรียกคืน
แม้ใน พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน มาตรา 8 จะได้ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่แก้หรือคำนวณค่ารายปีใหม่ เมื่อมีเหตุอันบ่งให้เห็นว่าค่าเช่านั้นมิใช่จำนวนเงินอันสมควรจะให้เช่าได้ก็ดี ถ้าผู้ให้เช่าได้เรียกเก็บค่าเช่าตามสัญญาที่ให้เช่าและค่าเช่าที่เรียกเก็บก็ไม่น้อยเกินไปหรือมีเหตุที่น่าจะเห็นว่าผู้เช่ากับผู้ให้เช่าสมยอมกันแล้ว ก็ไม่มีเหตุสมควรที่เจ้าพนักงานประเมินจะประเมินค่ารายปีเกินไปกว่าค่าเช่าที่ผู้ให้เช่าได้รับจริง เพราะไม่เป็นธรรมแก่ฝ่ายผู้ให้เช่า ฉะนั้นถ้าประเมินค่ารายปีเกินไปโดยไม่สมควรแล้ว ผู้ให้เช่าย่อมฟ้องเรียกคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดของผู้เช่า ผู้รับซื้อย่อมไม่มีสิทธิเหนือผู้ให้เช่า
เช่าเครื่องมือในการตัดผมและเครื่องอุปกรณ์อื่นในร้านตัดผมของเขาไว้ เปิดทำการตัดผมคิดค่าเช่าเป็นรายเดือน และชำระค่าเช่าเรื่อยมา ภายหลังกลับเอาเครื่องมือและเครื่องอุปกรณ์เหล่านั้นไปโอนขายแก่ผู้อื่นเสีย ดังนี้ผู้รับซื้อไม่ได้กรรมสิทธิและไม่ใช่กรณีตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1303 และไม่เข้าข้อยกเว้น ตามมาตรา 1332 เจ้าของยังคงมีสิทธิตามเอาคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1737/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้เช่าส่งมอบทรัพย์ให้บุคคลภายนอกหลังเลิกสัญญา ผู้ให้เช่ามีสิทธิเรียกคืนจากบุคคลภายนอกได้
ผู้ให้เช่าฟ้องขอให้ผู้เช่าส่งมอบทรัพย์ที่เช่าคืนเพราะเลิกสัญญาเช่ากันแล้ว ผู้เช่าให้การว่าทรัพย์ที่เช่านั้น บุคคลภายนอกได้ยึดหน่วงไว้โดยอ้างว่า ผู้ให้เช่าค้างชำระค่าเช่า และทำของของเขาเสียหายจึงไม่สามารถส่งคืนได้ จึงขอให้เรียกบุคคลภายนอกนั้นเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยเช่นนี้ ศาลย่อมมีคำสั่งให้หมายเรียกบุคคลภายนอกนั้นเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยได้และเมื่อบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยแล้ว ศาลก็ย่อมพิพากษาบังคับให้บุคคลภายนอกนั้นส่งมอบทรัพย์ที่เช่าแก่ผู้ให้เช่าได้ไม่เป็นการนอกคำขอท้ายฟ้อง เพราะถือได้ว่าคำขอย่อมบังคับเอาแก่จำเลยทุกคนโดยร่วมกันและแทนกันได้
เช่าทรัพย์เขามาโดยได้รับมอบทรัพย์ที่เช่ามาจากเขาแล้ว ครั้นเมื่อเลิกสัญญาเช่ากัน ไม่ส่งคืนทรัพย์ที่เช่าแก่เขา กลับเอาไปมอบแก่บุคคลภายนอก ครั้นเขาทวงคืนจึงไปขอจากบุคคลภายนอกบุคคลภายนอกไม่ยอมคืนให้ ดังนี้ตนชอบที่จะต้องจัดการเรียกคืนการครอบครองตามสิทธิของตนถ้าไม่จัดการดังกล่าวแล้ว จะอ้างว่าเป็นเหตุสุดวิสัยในการชำระหนี้ไม่ได้
เช่าทรัพย์เขามาโดยได้รับมอบทรัพย์ที่เช่ามาจากเขาแล้ว ครั้นเมื่อเลิกสัญญาเช่ากัน ไม่ส่งคืนทรัพย์ที่เช่าแก่เขา กลับเอาไปมอบแก่บุคคลภายนอก ครั้นเขาทวงคืนจึงไปขอจากบุคคลภายนอกบุคคลภายนอกไม่ยอมคืนให้ ดังนี้ตนชอบที่จะต้องจัดการเรียกคืนการครอบครองตามสิทธิของตนถ้าไม่จัดการดังกล่าวแล้ว จะอ้างว่าเป็นเหตุสุดวิสัยในการชำระหนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1627/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องขับไล่ของผู้เช่าช่วง: เมื่อผู้เช่าช่วงทำสัญญาโดยตรงกับผู้ให้เช่า ผู้เช่าเดิมไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่
โจกท์เช่าตึกแถวเขามา 16 ห้องแล้วแบ่งให้ผู้อื่นเช่าเสีย 2 ห้องโดยให้ผู้นั้นไปทำสัญญาเช่ากับผู้ให้เช่าเองโดยตรง ภายหลังผู้นั้นเลิกการเช่า โจทก์จึงเข้าทำสัญญาเช่าห้อง 2 ห้องนั้นกับผู้ให้เช่าใหม่ แต่ปรากฎว่ามีจำเลยอยู่ในห้อง 2 ห้องตั้งแต่เมื่อผู้อื่นเช่าดังกล่าวแล้ว และไม่ยอมออก ดังนี้ โจทก์ยังหามีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยไม่ แต่เป็นเรื่องของผู้ให้เช่าจะต้องฟ้องจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1597/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าและการเลิกสัญญาก่อนกำหนด: สิทธิของผู้ให้เช่าและผู้เช่า
ทำสัญญาเช่าเคหะกันมีอายุ 1 ปี แต่มีข้อแม้ไว้ข้อ1 ว่า ถ้าผู้ให้เช่าตกลงขายที่และบ้านเช่าให้แก่ผู้ใดก่อน ครบกำหนดการเช่าตามสัญญาแล้ว ผู้ให้เช่าจะแจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้า เพื่อผู้เช่าเตรียมตัวออกจากบ้านเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 เดือน และผู้ให้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้เช่าทราบด้วยว่าจะตกลงขายแก่ผู้ใด เป็นเงินเท่าใดเพื่อผู้เช่าจะได้มีโอกาสตกลงซื้อในเมื่อเห็นว่าเป็นราคาสมควร ดังนี้ ถือว่าเป็นข้อตกลงที่ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ หรือความสงบเรียบร้อยของประชาชนแต่อย่างใด เมื่อผู้ให้เช่าขายสถานที่เช่าแก่คนอื่นไปโดยได้ปฏิบัติตามสัญญาแล้ว ก็ย่อมเลิกการเช่าได้ก่อนกำหนด 1 ปีและผู้เช่าก็จำต้องออกจากสถานที่เช่าไปจะอ้างว่าได้รับความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ไม่ได้