พบผลลัพธ์ทั้งหมด 173 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนและคณะกรรมการสอบสวน ถือเป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน
พนักงานสอบสวน และคณะกรรมการผู้ทำการสอบสวน ซึ่งได้แต่งตั้งขึ้นโดยทางราชการถือว่าเป็นเจ้าพนักงาน
ในเรื่องฟ้องขอให้ลงโทษฐานแจ้งความเท็จ ฟ้องของโจทก์ระบุว่าแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน แม้ไม่มีคำว่าเจ้าพนักงาน ก็ลงโทษฐานแจ้งความเท็จได้.
ในเรื่องฟ้องขอให้ลงโทษฐานแจ้งความเท็จ ฟ้องของโจทก์ระบุว่าแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน แม้ไม่มีคำว่าเจ้าพนักงาน ก็ลงโทษฐานแจ้งความเท็จได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนและคณะกรรมการสอบสวน ถือเป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จ แม้ฟ้องไม่ระบุคำว่า 'เจ้าพนักงาน'
พนักงานสอบสวน และคณะกรรมการผู้ทำการสอบสวน ซึ่งได้แต่งตั้งขึ้นโดยทางราชการถือว่าเป็นเจ้าพนักงาน
ในเรื่องฟ้องขอให้ลงโทษฐานแจ้งความเท็จ ฟ้องของโจทก์ระบุว่าแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน แม้ไม่มีคำว่าเจ้าพนักงาน ก็ลงโทษฐานแจ้งความเท็จได้
ในเรื่องฟ้องขอให้ลงโทษฐานแจ้งความเท็จ ฟ้องของโจทก์ระบุว่าแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน แม้ไม่มีคำว่าเจ้าพนักงาน ก็ลงโทษฐานแจ้งความเท็จได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน แม้เป็นคำให้การในฐานะผู้เสียหาย ก็ถือเป็นการแจ้งความเท็จได้
การให้การหรือให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวนในฐานะผู้เสียหายนั้น อยู่ในลักษณะที่เรียกว่าเป็นการแจ้งความต่อเจ้าพนักงานเหมือนกัน ถ้าเป็นเท็จก็ผิดตาม ก.ม.อาญา ม. 118
ฟ้องว่าจำเลยแจ้งความเท็จ ในวันที่ 15 ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยนำความไปแจ้งในวันที่ 13 ส่วนวันที่ 15 เจ้าพนักงานเรียกตัวไปสอบสวน จำเลยให้ถ้อยคำเท็จอย่างเดียวกัน ถ้อยคำในวันที่ 13 ดังนี้ ลงโทษได้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยแจ้งความเท็จ ในวันที่ 15 ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยนำความไปแจ้งในวันที่ 13 ส่วนวันที่ 15 เจ้าพนักงานเรียกตัวไปสอบสวน จำเลยให้ถ้อยคำเท็จอย่างเดียวกัน ถ้อยคำในวันที่ 13 ดังนี้ ลงโทษได้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน แม้เป็นคำให้การก็ถือเป็นการแจ้งความได้
การให้การหรือให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวนในฐานะผู้เสียหายนั้นอยู่ในลักษณะที่เรียกว่าเป็นการแจ้งความต่อเจ้าพนักงานเหมือนกัน ถ้าเป็นเท็จก็ผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118
ฟ้องว่าจำเลยแจ้งความเท็จในวันที่ 15 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยนำความไปแจ้งในวันที่ 13 ส่วนวันที่ 15 เจ้าพนักงานเรียกตัวไปสอบสวน จำเลยให้ถ้อยคำเท็จอย่างเดียวกับถ้อยคำในวันที่ 13ดังนี้ ลงโทษได้ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยแจ้งความเท็จในวันที่ 15 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยนำความไปแจ้งในวันที่ 13 ส่วนวันที่ 15 เจ้าพนักงานเรียกตัวไปสอบสวน จำเลยให้ถ้อยคำเท็จอย่างเดียวกับถ้อยคำในวันที่ 13ดังนี้ ลงโทษได้ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 429/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอแก้ฟ้องต้องมีเหตุอันควร เหตุผลจากความเข้าใจผิดของพนักงานสอบสวน หรือความขัดแย้งของพยานไม่เพียงพอ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 จะนำมาใช้แก่เรื่องขอแก้ฟ้องไม่ได้ เพราะ มาตรา 144 ใช้เฉพาะการวินิจฉัยชี้ขาดคดีหรือประเด็นข้อหนึ่งข้อใดแห่งคดีการวินิจฉัยคำร้องขอแก้ฟ้องไม่ใช่วินิจฉัยประเด็นแห่งคดี
โจทก์เคยยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องต่อศาลครั้งหนึ่งแล้วศาลไม่อนุญาตโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องแสดงเหตุผลขึ้นมาใหม่ได้
เจ้าพนักงานสอบสวนเข้าใจข้อกฎหมายเรื่องสถานที่เกิดเหตุผิดไปไม่เป็นเหตุที่จะขอแก้ฟ้องได้
พนักงานเชื่อคำพยานชั้นสอบสวนอย่างหนึ่งพยานเบิกความชั้นศาลอีกอย่างหนึ่งไม่เป็นเหตุที่จะขอแก้ฟ้อง
โจทก์เคยยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องต่อศาลครั้งหนึ่งแล้วศาลไม่อนุญาตโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องแสดงเหตุผลขึ้นมาใหม่ได้
เจ้าพนักงานสอบสวนเข้าใจข้อกฎหมายเรื่องสถานที่เกิดเหตุผิดไปไม่เป็นเหตุที่จะขอแก้ฟ้องได้
พนักงานเชื่อคำพยานชั้นสอบสวนอย่างหนึ่งพยานเบิกความชั้นศาลอีกอย่างหนึ่งไม่เป็นเหตุที่จะขอแก้ฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีสัญญาประกันตัวของพนักงานสอบสวน: ตำแหน่งหน้าที่ราชการ
สัญญาประกันตัวผู้ต้องหาซึ่งทำไว้กับนายตำรวจในฐานะตำแหน่งหน้าที่ราชการและมีอำนาจทำได้นั้นนายตำรวจเปนโจทก์ฟ้องขอให้ปรับนายประกันฐานผิดสัญญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 563/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตแก้ไขฟ้องเนื่องจากความผิดพลาดในสถานที่เกิดเหตุ
โจทก์ฟ้องว่าเหตุเกิดที่ตำบลหนึ่ง พิจารณาได้ความว่าเหตุเกิดอีกตำบลหนึ่ง โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องว่าโจทก์กล่าวผิดพลาดไปเพราะกล่าวตามรายงานการสอบสวนซึ่งพนักงานสอบสวนเข้าใจผิดไปเพราะตำบลทั้งสองมีเขตติดต่อกัน ดั่งนี้ศาลอนุญาตให้แก้ฟ้องได้โดยถือว่ามีเหตุอันควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 614/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานสอบสวนในการสอบปากคำ และการรับรองถ้อยคำ
การที่จะไห้ผู้ไห้ถ้อยคำสาบานหรือปติญานตนเสียก่อนหรือไม่ไนการสอบสวนนั้น เปนอำนาดของพนักงานสอบสวน ฉนั้นแม้จะไม่ไห้สาบานหรือปติญานตนก็ไม่ทำไห้การสอบสวนเสียไป
การที่พนักงานสอบสวนเรียกผู้ไห้ถ้อยคำมาแล้วอ่านถ้อยคำที่นายตำหรวดผู้อื่นได้ถามและจดไว้ไห้ฟังและสอบถามผู้ไห้ถ้อยคำเพื่อไห้รับรอง และสอบถามเพิ่มเติมนั้น ถือได้ว่าเปนการสอบสวนที่ถูกต้อง
การที่พนักงานสอบสวนเรียกผู้ไห้ถ้อยคำมาแล้วอ่านถ้อยคำที่นายตำหรวดผู้อื่นได้ถามและจดไว้ไห้ฟังและสอบถามผู้ไห้ถ้อยคำเพื่อไห้รับรอง และสอบถามเพิ่มเติมนั้น ถือได้ว่าเปนการสอบสวนที่ถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 614/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานสอบสวนในการสอบสวนพยานและรูปแบบการสอบสวนที่ถูกต้อง
การที่จะให้ผู้ให้ถ้อยคำสาบานหรือปฏิญานตนเสียก่อนหรือไม่ในการสอบสวนนั้น เป็นอำนาจของพนักงานสอบสวน ฉะนั้นแม้จะไม่ให้สาบานหรือปฏิญานตนก็ไม่ทำให้การสอบสวนเสียไป การที่พนักงานสอบสวนเรียกผู้ให้ถ้อยคำมาแล้วอ่านถ้อยคำที่นายตำรวจผู้อื่นได้ถามและจดไว้ให้ฟังและสอบถามผู้ให้ถ้อยคำเพื่อให้รับรอง และสอบถามเพิ่มเติมนั้น ถือได้ว่าเป็นการสอบสวนที่ถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 292/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานสอบสวนในคดีที่ตนมีส่วนได้เสีย: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่ขัดกฎหมาย
พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนในคดีที่ตนมีส่วนได้เสียก็ได้.
ปลัดอำเภอไปตรวจราชการ+ของปลัดอำเภอหายไป+ได้ที่จำเลย ปลัดอำเภอ+การสอบสวนจำเลยแล้วส่วอัยยการฟ้องศาลดังนี้+ได้ว่าได้มีการร้องทุกข์และสอบ-สวนตาม ก.ม.แล้ว.
ปลัดอำเภอไปตรวจราชการ+ของปลัดอำเภอหายไป+ได้ที่จำเลย ปลัดอำเภอ+การสอบสวนจำเลยแล้วส่วอัยยการฟ้องศาลดังนี้+ได้ว่าได้มีการร้องทุกข์และสอบ-สวนตาม ก.ม.แล้ว.