คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พยานหลักฐาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,589 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7841/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความร่วมมือจำหน่ายยาเสพติด: การรับฟังพยานหลักฐานจากการซัดทอดของผู้ร่วมกระทำผิด และการแบ่งหน้าที่
การที่พยานโจทก์ไม่เบิกความยืนยันข้อเท็จจริงดังเช่นที่พยานโจทก์ปากอื่นเบิกความอาจเป็นเพราะพยาน จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้แน่ชัด ไม่ใช่ข้อแตกต่างที่เป็นสาระสำคัญที่จะทำลายน้ำหนักพยานหลักฐานโจทก์แต่อย่างใด
แม้การจับกุมจำเลยที่ 3 และที่ 4 จะเกิดจากการซัดทอดของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยกัน แต่คำซัดทอดดังกล่าวมิใช่การซัดทอดเพื่อให้ตัวจำเลยที่ 1 และที่ 2 พ้นผิด จึงรับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ได้
จำเลยที่ 3 และที่ 4 ได้ร่วมกันติดต่อนำเมทแอมเฟตามีนของกลางมาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 จำหน่าย และลักษณะการกระทำความผิดมีการติดต่อระหว่างจำเลยที่ 1 และที่ 2 กับฝ่ายจำเลยที่ 3 และที่ 4 ตั้งแต่ต้นโดยให้ฝ่ายจำเลยที่3 และที่ 4 เป็นผู้จัดหาเมทแอมเฟตามีน ส่วนจำเลยที่ 1 และที่ 2 จะเป็นฝ่ายจำหน่าย เมื่อจำหน่ายได้เงินแล้วจะนำเงินมาแบ่งกันจึงเป็นการร่วมกระทำความผิดโดยแบ่งหน้าที่กันทำ มิใช่เป็นเรื่องใช้ให้จำหน่าย จำเลยที่ 3 ถึงที่ 4 มีความผิดฐานร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย
แม้ว่าโจทก์จะไม่ฎีกาเกี่ยวกับความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของจำเลยที่ 3 และที่ 4 แต่เป็นเรื่องการปรับบทลงโทษ ศาลฎีกาสามารถแก้ไขให้ถูกต้อง โดยไม่เพิ่มโทษจำเลยที่ 3 และที่ 4 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7780/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม-การครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย: ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2539 เวลากลางวันจำเลยซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวได้เดินทางจากประเทศกานาผ่านประเทศมาเลเซีย เข้ามาในราชอาณาจักรทางชายแดนภาคใต้บริเวณตำบล อำเภอ จังหวัดใดไม่ปรากฏชัด โดยไม่เดินทางเข้ามาตามช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมืองที่รัฐมนตรีประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา ฯลฯ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ดังนี้ฟ้องโจทก์ได้กล่าวถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำความผิดในข้อหาเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไว้โดยชัดแจ้ง โดยกล่าวถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่พอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) แล้ว ไม่จำต้องกล่าวในรายละเอียดว่าจำเลยลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ณ ท้องที่ชายแดนในเขตตำบลอำเภอ หรือจังหวัดใด ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7759/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำซัดทอดผู้ต้องหาอื่นไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ศาลต้องพิจารณาพยานหลักฐานอื่นประกอบ หากไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุน คำพิพากษาไม่น่าฟัง
เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยตามที่ อ. บอกแก่เจ้าพนักงานตำรวจว่า จำเลยเป็นผู้มอบเมทแอมเฟตามีนให้ อ. จำหน่าย ในส่วนคำซัดทอดของ อ. นั้น ปรากฏว่า อ. ให้การต่อพนักงานสอบสวนในคดีอาญาอื่นที่ถูกฟ้องว่าจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน กับให้ถ้อยคำต่อพนักงานคุมประพฤติผู้สืบเสาะข้อเท็จจริงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแสดงให้เห็นถึงการไม่อยู่กับร่องกับรอยของ อ. คำซัดทอดของอ. จึงไม่มีน้ำหนัก เมื่อโจทก์มีเพียงคำซัดทอดของ อ. เท่านั้นว่าจำเลยเป็นผู้มอบเมทแอมเฟตามีนให้ อ. จำหน่าย และโจทก์ก็ไม่ได้นำ อ. มาเบิกความต่อศาล เพื่อจำเลยจะได้มีโอกาสซักค้านและนำสืบหักล้างเพื่อศาลจะได้พิจารณาคำเบิกความของ อ. ว่าน่าเชื่อถือหรือพอจะรับฟังได้หรือไม่พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่มีน้ำหนักที่จะฟังว่าจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองร่วมกับ อ. เพื่อจำหน่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7585/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐาน, ความเชื่อมโยงของวัตถุพยาน, และการพิสูจน์ความผิดทางอาญาที่ต้องปราศจากข้อสงสัย
ตามบันทึกการจับกุมระบุว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางทั้งหมดด้านหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนมีตัวอักษรภาษาอังกฤษ "WY"โดยมีนายดาบตำรวจ ว. ผู้จับกุมเบิกความสนับสนุนว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางแต่ละเม็ดมีอักษร "WY" และตามคำให้การชั้นสอบสวนของนายดาบตำรวจ ว. ก็ระบุว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางมีตัวอักษร"WY" ทั้งไม่ปรากฏเหตุผลว่าเหตุใดบัญชีของกลางซึ่งทำขึ้นโดยพนักงานสอบสวนจึงได้มีข้อความเกี่ยวกับเมทแอมเฟตามีนของกลางคดีอาญาว่าเป็นยาเสพติดให้โทษสีม่วงมีอักษรภาษาอังกฤษ"เอ็มวาย"ซึ่งเป็นข้อแตกต่างจากอักษร "WY" เป็นอย่างมาก และข้อเท็จจริงที่ได้จากคำเบิกความของ ล. พยานโจทก์ซึ่งเบิกความประกอบรายงานผลการตรวจพิเคราะห์ว่าของกลางที่ได้รับมาเพื่อตรวจพิสูจน์นั้น ด้านหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนมีอักษรคล้ายตัวอักษร "เอ็ม" อีกด้านหนึ่งมีตัวเลข 99 และ ล. ยังตอบคำถามติงของผู้แทนโจทก์อีกว่าอักษร "เอ็ม" บนยาเม็ดของกลางมีขนาดเกือบเต็มเม็ด ดังนี้เกี่ยวกับตัวอักษรและตัวเลขที่ปรากฏบนเมทแอมเฟตามีนแต่ละเม็ดเป็นสัญญลักษณ์ที่ผู้จัดทำทำขึ้นเพื่อใช้เป็นที่สังเกต อันเป็นลักษณะเฉพาะของเมทแอมเฟตามีนแต่ละชนิด จึงถือว่าเป็นสาระสำคัญ หาใช่เป็นเพียงรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำความผิดไม่ เมื่อสิ่งของดังกล่าวที่พนักงานสอบสวนส่งไปเพื่อตรวจพิสูจน์ให้ทราบว่าเป็นเมทแอมเฟตามีนหรือไม่นั้น ไม่ใช่เป็นจำนวนเดียวกันกับวัตถุของกลางที่เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมยึดมาได้จากจำเลยแล้ว จึงไม่อาจนำผลการตรวจพิสูจน์มาใช้ยันจำเลยว่า วัตถุที่เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมยึดมาได้จากจำเลยเป็นเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตามกฎหมาย ฉะนั้น เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธและนำสืบว่าเจ้าพนักงานตำรวจไม่ได้ค้นพบเมทแอมเฟตามีนที่ตัวจำเลยและภายในบ้านจำเลยและโจทก์ไม่สามารถนำสืบให้ฟังได้ว่าวัตถุของกลางที่ยึดได้จากจำเลยเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 แล้ว พยานหลักฐานของโจทก์เท่าที่นำสืบมาจึงรับฟังเพื่อลงโทษจำเลยไม่ได้ คดีไม่จำต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7412/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่โจทก์นำสืบพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิดจำเลย แม้จำเลยรับสารภาพก็ต้องมีพยานหลักฐานสนับสนุน
ในคดีอาญา เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธแล้วก็เป็นหน้าที่ของโจทก์โดยตรงที่ต้องนำพยานหลักฐานเข้าสืบเพื่อสนับสนุนฟ้องและพิสูจน์ให้ได้ความชัดแจ้งว่า จำเลยเป็นผู้กระทำความผิดตามฟ้อง เพราะแม้ในคดีที่จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องในความผิดที่กฎหมายกำหนดอัตราโทษอย่างต่ำไว้ให้จำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไปหรือโทษสถานหนักกว่านั้น โจทก์ก็ยังมีหน้าที่นำพยานหลักฐานเข้าสืบประกอบคำรับสารภาพของจำเลยให้ศาลรับฟังได้จนเป็นที่พอใจว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้อง จึงจะลงโทษจำเลยตามฟ้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 วรรคหนึ่งแม้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134จะบัญญัติไว้ว่าถ้อยคำของจำเลยหรือผู้ต้องหาในชั้นสอบสวนอาจใช้เป็นพยานหลักฐานยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้ก็ตามแต่ถ้อยคำหรือคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนก็เป็นเพียงพยานหลักฐานของโจทก์อย่างหนึ่งที่โจทก์จะนำสืบสนับสนุนฟ้องเท่านั้น ดังนั้น ลำพังแต่คำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จึงไม่อาจที่จะยกขึ้นมายันลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7399/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพในคดีอาญาที่มีโทษสูง ศาลต้องพิสูจน์พยานหลักฐานประกอบเพื่อให้มั่นใจในความผิดจริงของผู้ต้องหา
บทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 176 วรรคหนึ่ง มีความหมายว่า สำหรับความผิดที่กฎหมายกำหนดอัตราโทษอย่างต่ำไว้ให้จำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไปหรือโทษสถานที่หนักกว่านั้น แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพต่อศาลว่าได้กระทำความผิดตามฟ้อง ศาลก็ยังต้องฟังพยานหลักฐานของโจทก์ให้เป็นที่พอใจก่อนว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงตามที่ให้การรับสารภาพจึงจะพิพากษาลงโทษจำเลยได้ ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักประกันเสรีภาพของจำเลยในคดีอาญาที่มีอัตราโทษสูงมิให้ต้องรับโทษหนักหรือเกินกว่าความผิดที่ตนเองกระทำ อย่างไรก็ดี พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบประกอบคำรับสารภาพของจำเลยไม่จำต้องได้ความชัดแจ้งโดยปราศจากข้อสงสัยดังเช่นในคดีที่จำเลยให้การปฏิเสธ เพียงแต่ประกอบคำให้การรับสารภาพของจำเลยให้เป็นที่พอใจศาลว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงก็เป็นการเพียงพอแล้วที่ศาลจะลงโทษจำเลยโดยอาศัยพยานหลักฐานนั้น เพราะเป็นกรณีที่โจทก์เพียงแต่นำสืบพยานหลักฐานให้เห็นเป็นเค้ามูลเพื่อประกอบคำรับสารภาพของจำเลยเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7198/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม และการรับฟังพยานหลักฐานในคดีแรงงาน ศาลฎีกายืนตามศาลแรงงานกลาง
โจทก์เบิกความประกอบเอกสารหมาย จ.1 และส่งเอกสารดังกล่าวเป็นพยาน ศาลชั้นต้นรับเอกสารนั้นไว้เป็นพยานโจทก์และนำมาวินิจฉัยว่าการกระทำของโจทก์ไม่ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับ ถือว่าศาลชั้นต้นเห็นว่าพยานเอกสารของโจทก์เป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี แม้โจทก์มิได้ระบุอ้างเอกสารดังกล่าวและมิได้ส่งสำเนาให้จำเลย ศาลชั้นต้นก็มีอำนาจรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯมาตรา 45

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6918/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน: พยานหลักฐานจากผู้ซื้อและการยอมรับการครอบครองเพื่อจำหน่าย
จ. ประจักษ์พยานโจทก์ยืนยันว่า ในวันเวลาเกิดเหตุ จ. ไปซื้อเมทแอมเฟตามีนที่บ้านของจำเลย แม้ จ. ถูกจับกุมดำเนินคดีฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เป็นการดำเนินคดีในการกระทำความผิดคนละคราวแยกต่างหากจากคดีนี้ ทั้ง จ. ก็มิได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดกับจำเลยในคดีนี้ในลักษณะเป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน การเบิกความของ จ. จึงมิใช่เป็นคำซัดทอดของผู้ต้องหาหรือจำเลยผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยกัน ย่อมรับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6753/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความเสียหายจากละเมิดเครื่องหมายการค้า และการรับฟังพยานหลักฐานเกี่ยวกับงบกำไรขาดทุน
โจทก์เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท น. ซึ่งประกอบกิจการน้ำดื่มโดยเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าที่มีลักษณะเป็นคำและรูป คดีก่อนศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 272 (1) ฐานเอาชื่อ รูปรอยประดิษฐ์หรือข้อความใด ๆ ในการประกอบการค้าของโจทก์มาใช้ เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของโจทก์ แต่ในช่วงระยะเวลาที่จำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์กิจการของโจทก์มีกำไรมากขึ้นจากเดิม โจทก์จึงไม่เสียหายในผลกำไรที่โจทก์ควรได้จากการจำหน่ายน้ำดื่ม
จำเลยระบุเหตุในคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมว่า จำเลยเพิ่งทราบว่ามีพยานดังกล่าวที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้นำสืบถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับงบกำไรขาดทุนของบริษัท น.ซึ่งมีโจทก์เป็นกรรมการผู้จัดการว่าระหว่างปี 2537 ถึงปี 2540 บริษัทมีกำไรเฉลี่ยเดือนละประมาณ 600,000 บาทข้อเท็จจริงเหล่านั้นจะปรากฏอยู่ในเอกสารเกี่ยวกับการเงินและการบัญชี เช่นงบดุล แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ รายงานของผู้สอบบัญชี เป็นต้น ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้จัดทำขึ้นและยื่นต่อสำนักงานสรรพากรจังหวัดขอนแก่น พยานบุคคลและเอกสารที่จำเลยระบุอ้างเพิ่มเติมก็เป็นสรรพากรจังหวัดขอนแก่นกับงบดุลและงบกำไรขาดทุนของบริษัทดังกล่าวตั้งแต่ปี 2537 ถึงปัจจุบันซึ่งอยู่ในความครอบครองของสำนักงานสรรพากรจังหวัดขอนแก่นทั้งสิ้น หาได้อยู่ในความครอบครองของจำเลยผู้อ้างที่ต้องแนบสำเนามาท้ายคำให้การดังที่กำหนดไว้ในข้อ 7 แห่งข้อกำหนดคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2540 ไม่ การอนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมดังกล่าวซึ่งเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญที่เกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีย่อมทำให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับงบกำไรขาดทุนของบริษัทดังกล่าวเป็นไปโดยเที่ยงธรรม การที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานดังกล่าว จึงอนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม จึงชอบด้วย พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศพ.ศ. 2539 มาตรา 26 ประกอบด้วย ป.วิ.พ.มาตรา 87 (2) ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ กรณีไม่ถือว่าเป็นการปฏิบัติที่ขัดต่อข้อกำหนดหรือเป็นการที่จำเลยจงใจดำเนินกระบวนพิจารณาอันเป็นการเอาเปรียบคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามข้อกำหนดคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2540 ข้อ 3
โจทก์ดำเนินกิจการน้ำดื่มโดยใช้เครื่องหมายการค้าที่มีลักษณะเป็นคำและรูปมากว่า 20 ปี ด้วยความซื่อสัตย์ จนเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในหมู่ผู้บริโภคว่าน้ำดื่มของโจทก์มีคุณภาพ การที่จำเลยผลิตน้ำดื่มไม่มีคุณภาพออกจำหน่ายโดยใช้เครื่องหมายการค้าของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง แม้โจทก์ไม่อาจสืบให้เห็นได้แจ้งชัดว่าน้ำดื่มที่จำเลยผลิตไม่มีคุณภาพ และโจทก์เสียหายมากน้อยเพียงใด แต่การกระทำของจำเลยย่อมทำให้โจทก์เสียหาย ศาลจึงมีอำนาจวินิจฉัยกำหนดให้ตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเรียกค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์จากโจทก์เกินไปจากทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นอุทธรณ์ จึงให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์แก่โจทก์ ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539มาตรา 26 ประกอบด้วยตาราง 1 ท้าย ป.วิ.พ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6541/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย: ศาลฎีกาวินิจฉัยตามพยานหลักฐานและคำรับสารภาพ แม้ศาลอุทธรณ์พิพากษาผิดฐาน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยวินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นฟังพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบโดยโจทก์ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยาน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต่อมาศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นไต่สวนและฟังได้ว่า โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานพร้อมสำเนาแบบขอหมายจริง ดังนั้น แม้ศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้วินิจฉัยว่าจำเลยกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือไม่ และการวินิจฉัยความผิดของจำเลยสมควรเป็นไปตามลำดับก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ยื่นฎีกาในปัญหาดังกล่าวประกอบกับได้มีการนำสืบพยานหลักฐานประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหานี้ไปโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอีก
การจับกุมจำเลยเกิดจากเจ้าพนักงานตำรวจให้สายลับติดต่อล่อซื้อเมทแอมเฟตามีน เมื่อจำเลยนำเมทแอมเฟ -ตามีนมาส่ง จึงถูกจับกุมได้พร้อมเมทแอมเฟตามีนจำนวน 100 เม็ด ซึ่งเป็นจำนวนมากเกินกว่าที่บุคคลจะมีไว้เพื่อเสพประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นพิจารณาว่า จำเลยซื้อเมทแอมเฟตามีนเพื่อนำไปให้ช่างซ่อมรถยนต์คน อื่นๆ อันเป็นการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย
การแจ้งข้อหาให้จำเลยทราบในชั้นจับกุมก็เพื่อประสงค์จะให้จำเลยทราบและเข้าใจถึงการกระทำความผิด ของตน แม้ชั้นจับกุมผู้จับกุมแจ้งข้อหาแก่จำเลยว่ามีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เมื่อพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนแล้ว ปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก็ไม่ทำให้พยานหลักฐานของโจทก์เป็นพิรุธ
of 259