พบผลลัพธ์ทั้งหมด 327 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3269/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอนาถา หากอุทธรณ์ไม่ทัน ศาลไม่อนุญาตให้ขอพิจารณาใหม่ได้
โจทก์ยื่นฟ้องพร้อมกับคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา และโจทก์ได้อุทธรณ์คำสั่งนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 วรรคห้า แต่โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเกินกำหนด7 วัน นับแต่วันมีคำสั่งและศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์นั้นแล้ว โจทก์จะกลับมาขอให้ศาลพิจารณาคำขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถานั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้โจทก์นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าโจทก์เป็นคนยากจนตามมาตรา 156 วรรคสี่อีก หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 95/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอพิจารณาใหม่ต้องแสดงเหตุผลชัดเจนว่าหากพิจารณาใหม่แล้วมีโอกาสชนะคดี มิใช่เพียงกล่าวอ้างว่ามีโอกาส
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยมิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลเพื่อแสดงว่าตนอาจชนะคดีได้อย่างไร คงกล่าวแต่เพียงว่าถ้า มีการสืบพยานจำเลยแล้ว จำเลยก็มีทางชนะคดีได้เท่านั้น โดยไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานอ้างอิงที่จะแสดงให้เห็นได้ชัดแจ้งว่า หากมีการพิจารณาใหม่แล้ว ศาลอาจพิพากษาให้จำเลยชนะคดีได้ คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยจึงไม่ต้องด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 208 วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 95/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอพิจารณาใหม่ต้องแสดงเหตุผลชัดเจนว่าหากสืบพยานแล้วจำเลยมีทางชนะคดีได้
จำเลยกล่าวในคำร้องขอให้พิจารณาใหม่เพียงว่า ถ้ามีการสืบพยานแล้ว จำเลยมีทางชนะคดีได้ มิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำชี้ขาดตัดสินของศาล เพื่อแสดงว่าตนอาจชนะคดีได้อย่างไร คำขอพิจารณาใหม่จึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง ศาลชอบที่จะยกคำขอให้พิจารณาของจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 95/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอพิจารณาใหม่ต้องแสดงเหตุผลที่ชัดเจนว่ามีโอกาสชนะคดี หากกล่าวเพียงว่ามีทางชนะคดี ศาลไม่รับพิจารณา
คำขอให้พิจารณาใหม่ ต้องมีข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลเพื่อแสดงว่าตนอาจชนะคดีได้อย่างไร เมื่อคำขอของจำเลยมีเพียงว่าถ้ามีการสืบพยานจำเลยแล้ว จำเลยก็มีทางชนะคดีได้ดังนี้ จึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 860/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดชี้สองสถานและงดสืบพยาน หากจำเลยไม่เห็นด้วยต้องอุทธรณ์คำพิพากษา ไม่ใช่ขอพิจารณาใหม่
ในวันนัดชี้สองสถานและนัดพร้อมเพื่อสอบข้อเท็จจริง โจทก์มาศาล ส่วนจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าตามคำฟ้องและคำให้การคดีพอวินิจฉัยได้แล้วให้งดชี้สองสถานและงดสืบพยานทั้งสองฝ่าย และพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี ดังนี้ หากจำเลยประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป จำเลยต้องอุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาดังกล่าว จำเลยจะขอให้พิจารณาใหม่ไม่ได้เพราะมิใช่กรณีที่จำเลยไม่มาศาลในวันสืบพยาน และศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาซึ่งจำเลยจะขอพิจารณาใหม่ได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 207.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5759/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอพิจารณาใหม่ต้องระบุเหตุขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดโดยละเอียด ชี้ขาดโอกาสชนะคดีไม่เพียงพอ
คำขอพิจารณาใหม่ ป.วิ.พ. มาตรา 208 วรรคสอง บัญญัติไว้ให้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่ได้ขาดนัด และข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล ความหมายก็คือ ต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งทั้งสองประการ คือ ทั้งเหตุที่ขาดนัด และข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลด้วย แต่คำขอพิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสองในข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลนั้น กล่าวไว้มีใจความสำคัญเพียงว่ารูปคดีของจำเลยทั้งสองมีโอกาสชนะคดีโจทก์ได้ และจำเลยทั้งสองได้เตรียมพยานไว้พร้อมแล้ว จึงถือไม่ได้ว่า คำขอได้คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลโดยละเอียดจึงเป็นคำขอพิจารณาใหม่ที่ไม่ชอบ ปัญหาเช่นว่านี้เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2725/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ภูมิลำเนาของจำเลยและกำหนดเวลาการยื่นคำขอพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
จำเลยทั้งสองฎีกาว่าจำเลยทั้งสองมีสิทธิยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในกำหนด 6 เดือน นับแต่วันยึดทรัพย์ตามมาตรา 208 วรรคหนึ่งตอนท้าย เมื่อมีการส่งคำบังคับโดยเจ้าหน้าที่ศาลให้แก่จำเลยทั้งสองโดยการปิดคำบังคับไว้ ณ ภูมิลำเนาจำเลยทั้งสองเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม2531 จำเลยทั้งสองยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2531จึงเลยกำหนด 15 วัน นับจากวันที่การส่งคำบังคับมีผลใช้ได้ตามป.วิ.พ. มาตรา 79 วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2238/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาใหม่กรณีส่งหมายเรียกไม่ชอบ การขาดนัด และกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่อ้างว่า โจทก์ได้ยื่นคำแถลงเท็จต่อศาลขอประกาศทางหนังสือพิมพ์แทนการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องรวมทั้งวันนัดสืบพยานโจทก์แก่จำเลย ตลอดจนขอให้ศาลประกาศให้จำเลยทราบคำบังคับที่หน้าศาล โดยอ้างว่าไม่ทราบที่อยู่ของจำเลย ศาลหลงเชื่อจึงอนุญาตให้ประกาศโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ ซึ่งไม่ใช่หนังสือพิมพ์ที่แพร่หลายในหมู่ประชาชน จำเลยไม่ทราบการให้จำเลยยื่นคำให้การแก้คดี การนัดสืบพยานโจทก์และการประกาศคำบังคับ หากได้ความว่าเป็นความจริงดังที่จำเลยอ้าง การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องรวมทั้งวันนัดสืบพยานโจทก์ ตลอดจนการส่งคำบังคับแก่จำเลยก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อไม่มีการส่งคำบังคับโดยชอบ จำเลยย่อมยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่เมื่อใดก็ได้ หาตกอยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา208 วรรคหนึ่ง ไม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยโดยอ้างว่า จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่เกินกำหนดหกเดือนนับแต่วันที่ได้ยึดทรัพย์หรือได้มีการบังคับตามคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา208 โดยยังมิได้วินิจฉัยว่า จำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาหรือไม่ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำร้องของจำเลยและมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดีแล้ว ศาลอุทธรณ์จึงไม่จำต้องวินิจฉัยในประเด็นที่จำเลยอุทธรณ์ว่า การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องรวมทั้งวันนัดสืบพยานโจทก์แก่จำเลยไม่ชอบ จำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยโดยอ้างว่า จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่เกินกำหนดหกเดือนนับแต่วันที่ได้ยึดทรัพย์หรือได้มีการบังคับตามคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา208 โดยยังมิได้วินิจฉัยว่า จำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาหรือไม่ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำร้องของจำเลยและมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดีแล้ว ศาลอุทธรณ์จึงไม่จำต้องวินิจฉัยในประเด็นที่จำเลยอุทธรณ์ว่า การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องรวมทั้งวันนัดสืบพยานโจทก์แก่จำเลยไม่ชอบ จำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขาดนัดพิจารณาคดี: ศาลจำหน่ายคดีถูกต้อง โจทก์ขอพิจารณาใหม่มิได้ มีสิทธิฟ้องใหม่เท่านั้น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเพราะเหตุที่คู่ความทั้งสองฝ่ายขาดนัดพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 200 การที่โจทก์ร้องขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปหรือขอให้ศาลนัดสืบพยานจำเลยต่อไป โดยอ้างเหตุว่าโจทก์ไม่จงใจขาดนัดก็คือการขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่นั่นเอง คำว่า "ขาดนัดพิจารณา" ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 200 ต้องถือตามมาตรา 197 วรรคสอง ถ้าคู่ความไม่มาศาลในวันสืบพยานโดยมิได้ขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องเสียก่อนลงมือสืบพยานมาตรา 197 วรรคสอง ให้ถือว่าคู่ความฝ่ายนั้นขาดนัดพิจารณาโดยไม่มีข้อที่ศาลจะต้องพิจารณาว่าคู่ความฝ่ายนั้นขาดนัดพิจารณาโดยจงใจหรือไม่ เพราะการขาดนัดโดยจงใจหรือไม่ จะกล่าวอ้างได้เฉพาะเมื่อมีการพิจารณาฝ่ายเดียวและมีการขอให้พิจารณาคดีใหม่เท่านั้น เมื่อโจทก์และจำเลยขาดนัดพิจารณาตามมาตรา 197 วรรคสองและศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีตามมาตรา 200 เสร็จสิ้นไปแล้วย่อมไม่มีการพิจารณาฝ่ายเดียวอันจะทำให้โจทก์มีสิทธิขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้ สิทธิของโจทก์มีอยู่ทางเดียวตามมาตรา 200 วรรคสอง คือฟ้องคดีใหม่ภายในอายุความเท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 785/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความผูกพันคู่สัญญา การขอพิจารณาใหม่ต้องอ้างเหตุแพ้คดีเพราะขาดนัด
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาไปตามที่โจทก์และจำเลยตกลงประนีประนอมยอมความกันแล้ว จำเลยจะมาขอให้พิจารณาใหม่โดยอ้างว่าจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์และถูกฉ้อฉลหาได้ไม่ เพราะไม่ใช่เรื่องจำเลยแพ้คดีเพราะขาดนัดพิจารณา